จากเด็กท้องนา เข้ามาชุบตัวในเมือง ตามที่พ่อแม่วาดหวังว่าวันข้างหน้าจะได้มีวิชาเป็นเครื่องมือหากิน จะได้พ้นสภาพจากชาว นาที่แสนลำบากและยากจน
ครั้งแรกได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการตำแหน่งเล็กๆไต่เต้าจนเติบใหญ่ กว่าจะเป็นที่รู้จักในวงสังคม และเพื่อนร่วมงานยอมรับอายุก็ขึ้นหน้าด้วยเลขห้าแล้ว
วันนี้มีเวลาทบทวนตัวเอง ยามตะวันบ่ายคล้อยแห่งสังขาร โชคดีที่จิตมันรู้สำนึกได้ว่าบัดนี้ถึงเวลาแล้วเราควรกลับสู่ธรรมชาติ กลับมาใช้ชีวิตที่เรียบง่าย
ช่วงอายุที่ผ่านมาเราอยู่ในโลกแห่งความหลง หลงเพลินไปกับชีวิตตามกระแสของสังคม ที่ต่างก็ดิ้นรน แก่งแย่ง โอ้อวด สารพัด แต่เมื่อจะทวนกระแสความคิดของตัวเอง จึงได้พบกับแรงต้านภายในมากมาย จะอย่างไรก็ตามเราตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะมุ่งหน้าเดินไปทางนี้
ปลุกตัวเองให้รู้สึกตัว ตื่นจากความหลง หันกลับมา ดูกาย-ดูใจ ตัวเองแทนการส่งใจไปสู่ภายนอกเหมือนที่เป็นมา กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะให้มากกว่าการหลงภาคภูมิใจกับความสำเร็จ และความปวดร้าวในอดีต
ปัจจุบันขณะเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าความคิดที่เคยพรั่งพรูออกมาในอดีตนั้นล้วนเป็นมายา มาแล้วก็ไป เกิดแล้วก็ดับ ไร้สาระแก่นสารจริงๆ