สวัสดีชาว G2K ที่คิดถึงทุกท่าน ( ;P หวานซ๊า.... )
ต่อเนื่องจากบันทึกที่แล้ว ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าประชุม/สัมมนา กับ คณะครู และ ผู้บริหาร 3 กลุ่มโรงเรียน ใน จ. ยะลา เกี่ยวกับ การแก้ไขปัญหานักเรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
แต่ก่อนอื่นขอนำเสนอ ข้อมูลของ การแก้ไขปัญหานักเรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้ดำเนินการเมื่อภาคเรียนที่ผ่านมาในระยะเวลา 3 เดือน
จากข้อมูลเดิม (ก่อนการดำเนินการแก้ปัญหา ) นักเรียนชั้น ป. 3 ของ จ. ยะลา ที่ อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ คิดเป็นร้อยละ 29.49 แต่ หลังได้รับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่า มีนักเรียนอ่านออกเขียนได้ คิดเป็นร้อยละ 49.58 จากนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ทั้งหมด
ก็ถือว่าการดำเนินการของเราประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง และ พัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไป
จากการประชุม ปรึกษาหารือเกี่ยวกับ ปัญหาดังกล่าว ได้มีผู้บริหาร และครูหลาย ๆ ท่าน ให้ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ และ สามารถนำมาเป็นแนวทางที่ดี ในการแก้ไขปัญหา รวมถึงแนวทางที่ได้ดำเนินการในโรงเรียนแล้วประสบผลสำเร็จ อย่างคร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ
ท่านที่ 1. ท่าน ผอ. สัญญา สุวรรณโพธิ์ ร.ร. อนุบาลยะลา ให้แนวคิดว่า
- ต้องใช้ความจำในเรื่อง สระ และพยัญชนะ เพราะ นร. บางคน ยัง ไม่รู้จัก สระ และพยัญชนะ ไม่รู้ว่า แต่ละคำ จะ อ่าน และ ผัน อย่างไร
- กระบวนการสอนของครูในแต่ละโรงเรียน ให้สอนโดยคำนึงถึงสภาพ ความต้องการ และความสามารถของนักเรียน ตามบริบทของโรงเรียนและชุมชน- กระบวนการนิเทศและติดตาม อันนี้ถือว่าสำคัญ มาก ๆ หารทำงานที่ทำไปโดยที่ไม่มีการควบคุมดูแล และติดตามงาน ก็ไม่อาจทำให้งานนั้น สมบูรณ์ได้
- ฯลฯ ( อีกมากมาย )
- แต่มีอยู่ประโยคหนึ่ง ที่ติดใจมาก ๆ ท่านบอกว่า “ นักเรียนจะอ่านออก ถ้าผู้บริหารอยู่โรงเรียน” อิอิ... อันนี้ก็ ตีความหมายกันเอาเองค่ะ
ท่านที่ 2. ครู จากโรงเรียนบ้านยุโป ได้เล่าประสบการที่ท่านได้ดำเนินการที่โรงเรียนของท่าน และประสบสบความสำเร็จเท่าที่ควร
- ใช้วิธีการ “รวม และ รุม” ( ตั้งชื่อได้กิ๊บเก๋ดีนะค่ะ อิอิ.. ) คือ รวมนักเรียนที่มีปัญหาทั้งหมด แล้วให้ครูทุกคน รุมสอน ในที่นี้คือ รุมกันสอน โดยแบ่งหน้าที่กันทำงาน อาจจะใช้วิธีการที่หลากหลายแล้วแต่ความถนัดและบริบทของแต่ละโรงเรียน
- ฯลฯ
ท่านที่ 3. ท่าน ผอ. แวดาโอ๊ะ ผอ. ร.ร. บ้านเกะรอ อ.รามัน
- ท่านใช้หลักการสอนภาษาไทย โดยยึดแนวการสอนภาษาอาหรับ หรือสอน อัล-กุรอ่าน แบบใหม่ คือ หลักการสอนแบบกีรออาตี คือ ให้นักเรียนรู้จักเป็นคำ เช่น กา จะไม่อ่านว่า กอ-อา-กา แต่ให้ น.ร. รู้เลยว่า คำ ๆ นี้ อ่านว่า กา ( อันนี้ตามความเข้าใจของผู้เขียนเอง )
ท่านที่ 4. ท่าน ผอ. มาหามัดรูซี ยีการอบา ผอ.ร.ร. บ้านพรุ (โรงเรียนเจ้าของ KM ในหัวปลา “บ้านพรุสวยด้วยมือเรา” อิอิ.. ถือโอกาส โปรโมท ร.ร ซะเลย )
- ท่านมีความคิดเห็นว่า ควรนำการสอนแบบเก่ามาใช้ใหม่ เช่น หลักภาษา เขียนไทย คัดไทย เรียงความ ย่อความ เขียนจดหมาย เป็นต้น ( อันนี้น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ ผู้เขียนเห็นด้วย )
เพราะจากการสังเกต และการเปรียบเทียบ การเรียนการสอนภาษาไทย แบบเก่าและใหม่ อาจเป็น มปภ. เป้นต้น ท่านว่า สอนแบบเก่ามี % การอ่านออกที่ดีกว่า ( ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการที่ได้กล่าวอ้าง )
- ฯลฯ
ท่านที่ 4. ท่าน ผอ. โรงเรียนวัดลำพะยา
- เสนอแนะให้จัดคณะ ศึกษานิเทศก์ เพื่อนิเทศ / ติดตามผลการดำเนินงาน ในทุก ๆ ระยะ เพื่อความต่อเนื่องของงาน
- ฯลฯ เท่าที่ ฟังจาความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของทุก ๆ ท่าน ทำให้ได้ทราบแนวคิดที่หลากหลายในการพัฒนา และแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของนักเรียน ซึ่งผู้เข้าร่วมการประชุมทุกคนได้รับเรื่อง และ จะนำมาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา
ท่าน ผอ. สพท. ยะลา เขต 1 ท่านอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว ได้ให้แนวคิดที่ค่อนข้างชัดเจนว่า ทุกวิธีการที่ทุกท่านนำเสนอมานั้น เป็นวิธีการที่ดี และ สามารถนำไปเป็นแนวทางได้ แต่ ทั้งนี้และทั้งนั้นให้ทำโดยคำนึงถึงสภาพของนักเรียนและ บริบทของโรงเรียนเป็นหลัก โดยยึด เป้าหมาย/จุดหลัก/จุดเน้น คือ " ทำอย่างไรให้นักเรียนอ่านออก เขียนได้ "
ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร หรือ มีแนวคิด อย่างไร เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ของนักเรียนบ้าง โปรด เขียนและแสดงความคิดเห็นมาได้เลยนะค่ะ ทั้งนี้ จะได้นำมาแก้ไขและปรับปรุง ให้เข้ากับ สภาพของนักเรียนเราค่ะ
ขอบคุณค่ะ
“JasmiN”
สวัสดีค่ะท่านพี่ไมตรี
"JasmiN"
สวัสดีครับอาจารย์ JasmiN
ครูสุใช้วิจัยในห้องเรียน ศึกษานักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ครับ ครูสุได้สอนภาษาไทยห้อง ป.5/2 ซึ่งเป็นห้องที่บ๊วยภาษาไทยมาก แต่ครูสุมีความพยายามกับเด็ก พยายามเข้าใจปัญหาของเด็กอย่างที่สุด เอาใจใส่กับเด็กครับ บางคนครูสุไปดูถึงที่บ้านว่าทำไมเด็กถึงอ่านเขียนไม่ได้ซักที ที่บ้านเขาไม่ใช้ภาษาไทยกันเลยครับ (เพราะเป็นชาวเขา) เด็กเรียนเขียนอ่านภาษาไทยวันละชั่วโมง (ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ถึง เพราะเราให้เด็กทำกิจกรรมทางภาษาอย่างอื่นด้วย) ในชั่วโมงภาษาไทยแต่ละชั่วโมงครูสุจึงทำอย่างนี้กับเด็กครับ
1.เขียนตามคำบอกทุกชั่วโมง
2.คนเก่งอ่านนำ คนอ่อนอ่านตาม
3.มีแบบฝึกอ่าน กอ อา กา ให้เด็กเขียนอ่านชั่วโมงละไม่เกิน 10 นาที (ครูสุทำเอง) ถ้ามากเด็กเบื่อ
4.สั่งการบ้านให้เด็กไปคัด ไปอ่าน เป็นพิเศษ นอกเหนือจากการบ้านปกติ วันต่อไปให้มาอ่านให้ฟัง
ครูสุจะเช็คเด็กตลอด ว่าใครอ่านอะไรได้ไม่ได้ ส่วนมากเด็กของครูสุ ผสมสระกับพยัญชนะ ไม่เป็น บางคนไม่รู้จักสระ บางคนไม่รู้พยัญชนะต่ำ กลาง สูง ครูสุคิดว่า ถ้าเด็กไม่ได้ตรงไหน รื้อตรงนั้นออกมาให้เด็กเรียนเลยครับ อย่าไปสนใจเรื่องสอนไม่ครบทักษะ หรือ อะไร อีกอย่างที่ครูสุจำเวลาสอนเด็ก คือ เน้น ย้ำ ซ้ำ ทวน ครับ และครูจะต้อง จู้จี้ แต่ อย่าจุกจิกกับเด็กนะครับ
เพิ่มเติมอีกนิด...
ครูต้องสอนเด็กด้วยความรักนะครับ ถ้าเด็กไม่มาโรงเรียนครูต้องไปตามเด็ก ความเป็นห่วงเป็นใยจากครูจะทำให้เด็กที่อ่านเขียนไม่ได้ หรือเรียนไม่ได้เรื่อง จะมีกำลังใจเรียนหนังสือ ภาษาจะได้หรือไม่ได้ มันไม่ได้อยู่ที่ครูอย่างเดียว อยู่ที่เด็กด้วยนะครับครูสุว่า อีกอย่างคือ ให้กำลังใจ และชมเชยเวลาเด็กทำได้ดี
สวัสดีค่ะ ครูสุ
"JasmiN"
"JasmiN"
ขอพรุ่งนี้เป็นวันใหม่ดังใจคิด
เปี่ยมพลังแห่งชีวิตดังคิดฝัน
เปี่ยมความรักนานาสารพัน
เปี่ยมความฝัน, การแบ่งปัน, นิรันดร์ไป
.....
สวัสดีปีใหม่นะครับ
และขอให้ชีวิตเต็มไปด้วยจังหวะอันงดงาม ... และเต็มไปด้วยพลัง และความฝันอย่างไม่รู้จบ
สวัสดี อ. พนัส ค่ะ
ขอบคุณ อวยพร ประเสริฐ
ขอบังเกิด ดั่งใจมุ่งหวัง
สิ่งดี ๆ ขอเป็นพลัง
ฝ่าฟัน ทุกข์ภัยกล้ำกราย
ขอพร สวนดั่งบูมเมอแรง
ขว้างแรง ยิ่งเร็วยิ่งกลับ
ส่งไปถึงอาจารย์พนัส
คนของความรัก คนของ G2K
"JasmiN"
สวัสดี อ.ขจิต ค่ะ
"JasmiN"
ผมมองว่า ปัญหาของการอ่านไม่ออกของเด็กในสามจังหวัดมีหลายองค์ประกอบครับ สำคัญคือ
-สถานะภาพของภาษาไทยในสามจังหวัดต่างจากในจังหวัดอื่นๆ แต่ปัจจุบันเรายังใช้แนวคิดทางการสอนแบบเดียวกัน
- การเรียนรู้ภาษาที่ดีต้องอยู่ในบริบทสภาพแวดล้อมที่เอื้อครับ อย่างน้อยเอื้อที่จะให้นักเรียนได้อ่าน บางโรงเรียนที่ผมเคยไปเยี่ยมมา ฝาห้องเรียนยังเขียนป้ายนิเทศในห้องว่า นายกรัฐมนตรีของเราชื่อชาติชาย อยู่อีก
- กระบวนการสอนต้องสอดคล้องกับสภาพผู้เรียนครับ
ออ. ผมเคยมีแนวคิดจะทำวิจัยเรื่องการพัฒนาการอ่านของนักเรียนในสามจังหวัดครับ แต่บังเอิญทีมไม่พร้อมเลยยังไม่ได้เสนอโครงการ เห็นประเด็นที่อาจารย์นำเสนอ เลยอยากชวนอาจารย์หาเพื่อนอาจารย์ท่านอื่นที่สอนภาษาไทยมาร่วมกันทำวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ในการสอนภาษาไทยสำหรับเด็กของเรากันดีกว่า ติดต่อผ่านผมได้ตลอดเวลาครับ ยินดีมากหากได้ร่วมงานกันกับคนที่มีใจพัฒนา
เรียน อ.จารุวัจน์
"JasmiN"
สวัสดีปีใหม่จากคณะนักวิจัยค่ะ
ตอนนี้คุณเก่งมากแล้วในเรื่องบล็อก ช่วยปั้นดาวในสพท.ยะลาเพิ่มขึ้นให้กับโครงการวิจัยสัก 2-3 ดวงสิคะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ edkm-researcher
"JasmiN"
หวัดดีค่าน้องโตน
หายไปนานเลย...พี่สาวคิดถึงค่ะ ....รออ่านบันทึกใหม่ด้วยนะคะ
สวัสดีพี่แอนคนสวย ค่ะ
"JasmiN"
มาแบบคิดถึงๆๆ คิดถึงนะคะน้อง อย่าหายไปนานสิคะ รออ่านบันทึกใหม่อยู่ค่ะ ปิดเทอมแล้วนี่นา ว่างแล้วใช่มั๊ยคะ
เห็นด้วยกับความคิดเห็นของหลาย ๆ คนที่เสนอมา แต่เท่าที่เห็น มักมีแต่คนรู้ปัญหา แต่ไม่มีคนแก้ปัญหา หรือลงมือทำให้เด็ก จนทำให้เด็กอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ น่าสงสารเด็ก ๆ ยิ่งปัจจุบันครูมักวุ่นอยู่กับการเลือนวิทยฐานะ เพื่อเพิ่มเงินของตนเอง รวมทั้งได้เลื่อนระดับด้วย ยิ่งทำให้เด็ก ๆ ถูกปล่อยปละละเลยมากขึ้น บางท่านได้เลื่อนวิทยฐานะแล้วยิ่งไม่มีเวลาให้เด็กมากขึ้น