ห่วงหน้า พะวงหลัง ของ.......................หมออนามัย


เขากระวนกระวายมาก ผู้เขียนเข้าใจ และกำลังตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรดี

    วันนี้สำนักงานสาธารณสุข อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จัดงานทำบุญร่วมกันที่สำนักงาน และถือโอกาสจัดปีใหม่ รับประทานอาหารร่วมกัน เสียเลย มื้อกลางวัน

    ส่วนมากหมออนามัย จะไม่ค่อยได้อยู่งานที่รวมญาติ กันแบบนี้ ในเวลากลางคืน เพราะสถานีอนามัย ของแต่ละคน อยู่ไกลอำเภอ ตามที่บอกว่า เรามักตั้งอยู่ในชนบท อีกอย่างก็มีภารกิจครอบครัว ลูกเต้า ก็ต้องหอบกันพะรุงพะรัง ส่วนมากจะใช้รถมอร์เตอร์ไซด์ แต่เดี๋ยวนี้ มีรถยนต์กันมากขึ้น

  นึกถึงชีวิตการมีครอบครัว ของหมออนามัย แล้วก็น่าเห็นใจ เวลาส่วนมาก จะผูกติดกับสถานีอนามัย เหมือนรอเหตุ ไปไหนไม่ค่อยไกล ดูทั้งลูกตัวเอง ลูกชาวบ้าน วุ่นกันไประยะหนึ่ง พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ก็มีประสบการณ์  ที่อยากจะบันทึกไว้ให้อ่านกัน

  จำได้ว่า ช่วงท้องลูก ก็ไม่ค่อยได้หยุดงาน ทำคลอด รักษาคนไข้ตลอด ทำทั้งๆที่ท้องแก่มากๆแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราไม่รู้สึกว่าคนไข้ที่มา เป็นภาระคนท้อง ก็เพราะเขามาอย่างเกรงใจ มีไมตรี ทั้งของเปรี้ยว ของดอง มะพร้าวอ่อน ที่ไม่เคยขาด บำรุงทั้งแม่ทั้งลูก คอยเฝ้าคอยถามว่า คลอดเมื่อไหร่ กี่เดือนแล้ว เหมือนมีญาติรายล้อมเลย วันที่ไปคลอด ไปเดินซื้อข้าวกินก่อนไปโรงพยาบาล เขารู้จะไปคลอด ก็เอาอาหารมื้อเช้าเขานั่นแหละให้กิน กินให้อิ่ม หมอจะไปคลอดแล้ว

    ด้วยความมีน้ำใจ ที่เรียกว่าดุจญาติมิตร ยังหาได้ที่ชนบทในประเทศไทย ซึ่งความประทับใจเหล่านี้ ต่อมาเมื่อผู้เขียน ประสบสถานการณ์ ที่คับขัน ผู้เขียนจึงตัดสินใจ ในทางเลือก ที่หลายคน อาจประหลาดใจ

   วันนั้นผู้เขียนอยู่กับลูกสองคน ลูกอายุประมาณ ขวบเศษๆ ลูกกินนมผู้เขียนตลอด เราจึงใกล้ชิดกัน เวลานอนก็หนุนแขนกัน จนโต ราวๆสักเที่ยงคืน ก็มีคนมาเรียกอย่างร้อนรน เมื่อลงมาดูปรากฏว่าเป็นคนในหมู่บ้าน รู้จักกันดี เล่าว่า สามีปวดท้องรุนแรง ทั้งอาเจียน ทั้งถ่าย ขอให้หมอไปช่วยดูหน่อย บ้านเขาห่างสถานีอนามัยราวๆ 2 กม. เอารถมา แต่ก็แปลก ทำไมไม่เอาคนไข้มานะ แล้วเขาก็แจ้งว่า คนไข้ทั้งอาเจียนทั้งปวดท้อง นั่งมาในรถคงลำบาก คงจอดตลอดทาง เขากระวนกระวายมาก ผู้เขียนเข้าใจ และกำลังตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรดี ลูกก็ไม่มีใครเฝ้า ตื่นมาคงร้องลั่นบ้าน หาแม่ไม่เจอ จะหอบไปด้วยก็ใช่ที่ น้องข้างบ้านก็ไม่อยู่ แต่เมื่อพิจารณาแล้ว ผู้เขียนก็ตัดสินใจ บอกว่า รอสักครู่นะ เมื่อเตรียมกระเป๋ายาเรียบร้อย ก็เข้าไปดูลูก เห็นหลับสนิทอยู่ จึงค่อยๆย่องออกมา แล้วปิดประตูใส่กุญแจข้างนอก นึกในใจว่า ฝากลูกด้วยนะ ขออย่าเพิ่งตื่น ให้ได้ไปดูคนไข้ก่อน จำไม่ได้ว่าฝากกับใคร เทวดา หรือผีบ้านผีเรือนก็ไม่รู้ ลงบันไดมาก็นึกว่า เลวร้ายที่สุด ถ้าลูกตื่นก็คงแค่ร้องหาไปพักหนึ่งนั่นแหละ หรืออาจจะตกเตียงมั้ง หรือโชคดี ลูกอาจจะหลับยาวจนแม่มาก็ได้

    ผู้เขียนใช้เวลาในการไปมาคราวนี้ ราวๆ เกือบสองชั่วโมง เมื่อตรวจแล้ว จึงทราบว่าเป็นไส้ติ่ง ให้ส่งโรงพยาบาลด่วน และจริงตามนั้น ไปถึงไส้ติ่งจะแตกอยู่แล้ว ผ่าตัดทันที

   คืนนั้นโชคดี ลูกหลับสบาย จนผู้เขียนกลับมา รู้สึกโล่งอก ถ้าผู้เขียนไม่ตัดสินใจเช่นนั้น บิดพริ้ว เพราะห่วงลูกมากกว่า คนไข้อาจไม่ไปโรงพยาบาล อาจร้ายแรงถึงเสียชีวิตได้

   เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยมาแล้ว ผู้เขียนก็มานึกทบทวน ชีวิตคนอนามัย ช่างมีเหตุการณ์ มาให้ต้องคิด ต้องตัดสินใจตลอดเวลา และไม่เคยซ้ำรูปแบบกันเลย ที่เล่ามานี่ เป็นเพียงยกตัวอย่าง ที่บางครั้งก็ลำบากใจเป็นที่สุด แต่ก็ต้องเลือกและทำอยู่ดี

    ถึงทุกวันนี้ หมออนามัยใกล้บ้านคุณ ก็คงเป็นที่พึ่งพา ในยามยากได้เหมือนเดิม ผู้เขียนยังเชื่ออย่างนั้น

  

หมายเลขบันทึก: 155891เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2007 20:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

สวัสดีรับ  หมอ

  • อยู่หน้าคอมพอดี
  • มาทักทายหมออนามัย ก่อนคนอื่น
  • เหมือนหมอ 10% ก็ถือว่ามากแล้วครับยุคนี่
  • ประสบการณ์ การตัดสินใจ ....ตัดสินอะไรได้เยอะ
  • บันทึกนี้มีประโยชน์ กับอนุชนรุ่นหลังมาก
  • ชอบคุณครับ

สวัสดีค่ะพี่เกษตรยะลา

   บ้านเมืองเราเปลี่ยนไป แต่ยังมีหมออนามัย ที่ต้องคลุกคลีกับชาวบ้าน อีกมาก พอสมควร

 เดี๋ยวนี้ เขาเน้นบางอย่างค่ะ ซึ่งก็ต้องปรับตัวปรับใจกันไป พี่คงเข้าใจดีนะคะ

  ถ้าเขาเปลี่ยนหลักสูตรนี้เมื่อไหร่ เราก็คงสูญสิ้น มีแต่คนพันธุ์ใหม่ค่ะ

  ขอบคุณที่ให้ความเข้าใจหมออนามัยเสมอมา อ.หมูคงดีใจ ที่ได้ผลิตหมออนามัย ปีละหลายคน

  • สวัสดีครับพี่รุ่ง
  • อ่านแล้วได้ลุ้นนะครับ
  • ลุ้นว่าตัวเล็กจะตื่นหรือเปล่า
  • ลุ้นคนป่วยด้วยครับ
  • ขอบคุณพี่รุ่งครับ

ทุกวันนี้หมออนามัย เป็นด่านหน้าที่ทำให้สุขภาพประชาชนดี

ไม่ต้องเจ็บป่วยมากขึ้น

ทุกวันนี้เราต้องทำงานตรากตรำ อย่างน่าเห็นใจ

ขอให้ผลบุญนี้  จะทำให้..เราสุขใจนะคะ

ฝากลูกไว้กับเทวดา..ผลบุญคงทำให้ลูกเราดีค่ะ

  • ธุหมอรุ่งค่ะ ..

หมออนามัยในชนบทนี่ส่วนมากจะมีสัมพันธภาพระหว่างตัวหมอเองกับชาวบ้านประดุจญาติมิตรเลยนะคะ     ช่วยเหลือ..เกื้อกูล กันแม้ในยามทุกข์ยาก

จากเรื่องเล่า..รู้สึกดีๆ กับหมอรุ่งมากเลยค่ะ    กับความเสียสละนี้    หากเป็นอีกหลายๆ ท่าน เขาคงเลือกที่จะดูแลลูกน้อย    จะว่าไปก็ตัดสินใจยากนะคะ

สวัสดีค่ะอ.บัวชูฝัก

   พอตัดใจออกจากบ้าน ก็ห่วงคนไข้ อยากไปดูให้รู้แล้วจริงๆ แต่พอส่งคนไข้เสร็จ ก็แทบจะเหาะกลับบ้าน ห่วงลูกค่ะ ทุกวันนี้ ลูกอายุ 25 ปีแล้วค่ะ อยู่เหมือนเพื่อนกัน ตัวโต สูงกว่าแม่มาก บางครั้ง ยังมาหนุนแขนนอนอยู่เลย ทำเป็นอ้อนแม่

  ว่างๆ ก็เล่าประสบการณ์ให้ฟังบ่อยๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณอุบล

     สถานีอนามัย เป็นด่านหน้าให้โรงพยาบาล ลดคนไข้นอก ได้มาก แต่คุณอุบลคะ การเอาแพทย์ มาตรวจ ที่อนามัย เดือนละครั้งสองครั้ง เป็นภาระเรามากค่ะ และฝืนวิถีชีวิต ชาวอนามัยมาก อันนี้ พูดกันแต่เรานะคะ วันหมอออก คนไข้เป็นร้อย กว่าจะเสร็จ ก็บ่ายถึงได้กินข้ากินปลากัน แพทย์ก็เหนื่อย ตรวจมากเกินไป ที่สุด คนไข้แทบไม่ได้คุยกับหมอเลย ไม่มีเวลา ดูๆแล้ว น่าจะปรับปรุงค่ะ

สวัสดีค่ะน้องต้อม

  พี่เองก็ต่อสู้กับความรู้สึก อย่างน้องว่าเหมือนกัน แต่ไม่รู้ยังไง ตัดสินใจตามนั้น บางที เราคิดแต่เฉพาะหน้า ก็ตัดกังวลไปได้มาก คนมักทุกข์เพราะคิดคาดการณ์ มากเกินไปค่ะ

  • หมอรุ่ง คะ ..

ต้อมเคยตั้งคำถามกับพี่สาวคนสวยจากโลกไซเบอร์ ว่า..ถ้าลูกตัวเอง กับลูกของคนอื่นตกน้ำ   จะเลือกช่วยลูกใครก่อน?  

น้องต้อม แล้วเขาเลือกตอบอย่างไรคะ

ต้อมถามพี่ว่า “..ถ้ามีเด็กสองคนกำลังจะจมน้ำคนหนึ่ง....ลูกพี่   อีกคนหนึ่ง....เด็กที่ไหนก็ไม่รู้พี่จะช่วยใครก่อน....” คำตอบเพียงแค่ช่วยลูกเรา หรือช่วยลูกเขา ไม่สามารถประเมินว่าคนๆ นั้นเป็นอย่างไรได้     อันตรายนะจ๊ะหากทำแบบนี้ จนกว่าต้อมจะรู้ที่มาที่ไปของคำตอบ

คำตอบของพี่แน่นอนว่าช่วยลูกพี่ (พี่ตอบครั้งนึงแล้วทางโทรศัพท์   แต่จะเขียนย้ำอีกครั้งเพราะการพูดคุยบางอย่างมันเหมือนลม ผ่านมาก็ผ่านไป)

คนเราทุกคนมีความเห็นแก่ตัว…..พูดสั้นๆ แบบนี้ก็ได้ความหมายแคบๆ มุมมองแคบๆ และออกจะเป็นด้านลบ แต่ความจริงความเห็นแก่ตัวนั้นมีหลากหลาย
บางคนเห็นแก่ตัวเพื่อตัวเอง บางคนเห็นแก่ตัวเพื่อคนอื่น  บางคนก็เห็นแก่ตัวเพื่อทั้งตนเองและเพื่อทั้งผู้อื่น……5555

พี่เลือกช่วยลูกของพี่ แน่นอนสัญชาติญาณความรักลูกมันจะเกิดก่อน   พอเอาเข้าจริงๆ การตัดสินใจของแม่โดยส่วนใหญ่หรือแทบจะเรียกได้ว่าทั้งหมดไม่ได้อยู่บนพื่อนฐานของเหตุผลแล้วล่ะ   ไม่ได้คิดถึงว่าใครจะทุกข์ใครจะสุขจากนี้ไปแล้วล่ะ   แต่จะคิดว่าจะช่วยลูกได้อย่างไร

คำถามของต้อมเป็นคำถามที่ให้เวลาคิด ไม่ใช่เหตุการที่กำลังเผชิญ   ดังนั้นก็มีเวลาพอที่จะอธิบายการตัดสินใจ พี่ก็จะเลือกช่วยลูกพี่อยู่ดี   พี่คิดเสมอว่าหากเราไม่เข้มแข็งเราจะช่วยอะไรใครได้ …..ไม่มีทาง….หากช่วยได้ก็เพียงแค่ปลายเหตุเท่านั้นหรือ หากช่วยได้ก็ไม่มาก   นึกถึงคนตกน้ำกลางทะเล ต้อมยังว่ายน้ำไม่เป็นแต่ก็กระโดดช่วย    ต้อมอาจช่วยเขาได้หายใจเพียงอีกแค่ 2 หรือ 3 เฮือก   แล้วก็ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลทั้งคู่   แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น…คนรอบข้างเราเขาจะเป็นยังไง   เราจะทิ้งความเศร้าเสียใจให้เขาอีกตั้งเท่าไหร่   เราจะทิ้งความรับผิดชอบให้เขาอีกเท่าไหร่    เราจะเป็นภาระหลังการสูญเสียที่เขาจะได้รับอีกตั้งเท่าไหร่……วิเคราะห์สิว่าผลกระทบจากการสูญเสียครั้งนี้มีอะไรบ้าง

มันจะกระทบเกี่ยวโยงกันมากมายมหาศาลอย่างไม่น่าเขื่อเพียงเพราะแค่การที่จะให้คนคนนึงมีลมหายใจอีกเฮือก…..

หากพี่ว่ายน้ำไม่แข็งพี่ต้องมั่นใจก่อนว่าพี่ต้องมีเครื่องชูชีพเหลือพอที่จะช่วยเขาค่ะ   พี่ต้องรู้จักข้อจำกัดของพี่    และพี่ต้องจำกัดวงของการสูญเสียค่ะ…เหี้ยม…ใช่ค่ะยอมรับค่ะเพราะนี่คือพี่

หากพี่ช่วยเหลือเด็กคนอื่น แล้วลูกพี่เสียชีวิต   พี่ไม่คิดว่าพี่จะอยู่ในโลกนี้ได้ด้วยความเข้มแข็ง   พี่ไม่คิดว่าพี่จะทำอะไรเพื่อใครได้อีกแล้วเพราะลูกของพี่เองพี่ยังไม่สามารถช่วยเขาได้   พี่จะโทษการกระทำของพี่ทุกวินาที ทุกลมหายใจ

หากพี่ช่วยลูกพี่แล้ว โชคร้ายเด็กอีกคนช่วยไม่ทัน…เสียชีวิต   พี่ว่ามันอาจจะทำให้พี่อุทิศชีวิตทั้งชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนอื่น   เพื่อทดแทนความผิดพลาดที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ พี่เองก็จะไม่ blame ตัวเองหากช่วยเขาไม่ทัน   แต่พี่จะต้องทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้นและจะไม่ปล่อยโอกาสที่จะช่วยใครในอนาคต…..

พี่คิดว่ามันคงจะเป็นแนวนี้นะ….แค่คิดนะคะ และคิดในเวลานี้เท่านั้น    อนาคตไม่รู้ได้ค่ะ

สำหรับพี่ หากคนไหนยิ่งเข้มแข็ง   และมีความสามารถเท่าไหร่คนนั้นก็มีโอกาสช่วยคนได้มากเท่านั้น   แต่พี่ไม่ได้ว่าคนอ่อนแอช่วยคนไม่ได้นะคะ อย่าคิดไปไกลขนาดนั้นค่ะ

If you want to help somebody, help them if you  can do but you have to help yourself by making your heart to be strong as much as you can so you can help them. If you are not a good swimmer, how can you help someone in the
pool la ka.

“Helping is limited upon to the situation... you might not be able to sacrifice yourself to help someone in the sea if you are so tired and do not
have any life guard left for them” Don’t you think so ka. Enjoy your day ka.

ต้อมขอนำเมลที่พี่สาวคนสวยมาตอบหมอรุ่งในนี้ค่ะ  (( ใช้เวลาหานานมาก  ขอบอกๆ ))         ^^

สวัสดีครับคุณตันติราพันธ์

                  ขอชื่นชมการตัดสินใจครั้งนั้นเป็นอย่างสูงครับ

                  ความดีที่คุณหมอรุ่งทำหากเก็บใส่กระป๋องออมสิน คงนับได้เป็นเข่ง ๆ แล้วละครับ......

                              ขอบคุณครับ

                                

  ขอบคุณน้องต้อมจริงๆ ที่อุตส่าห์ นำสิ่งดีๆมาเผยแพร่กัน จริงๆแล้ว การเห็นแก่ตัวมีทุกคน รวมถึงพี่ด้วย พี่ทำทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่า พี่รักคนอื่นกว่าลูก แต่พี่คิดว่า ใครอันตรายกว่ากันค่ะ และอะไร ที่จริงๆแล้วรอได้ จะว่าเสี่ยงก็ไม่ผิด

    ความรักเหนือเหตุผล ต่อเมื่อยามจำเป็นลองทำใจกลางๆ นิ่งๆ ก็จะมองเห็นสิ่งที่เหมาะสม และตัดสินใจได้ค่ะ

     นะคะน้องต้อม

คือ  เนื่องจากต้อมสงสัยน่ะค่ะ  ว่าทำไมบางคนจึงเลือกที่จะทำอะไรๆ เพื่อคนอื่น    จึงเป็นที่มาของเมลนี้    ซึ่งก็หมายความว่า..คำตอบของต้อมเป็นไปในอีกทิศทางหนึ่ง    อาจจะด้วยเพราะวัย   เพราะความคิด    ตลอดจนประสบการณ์อันอ่อนด้อยกว่าพี่สาว    เธอจึงได้ชี้แจงถึงอีกคำตอบหนึ่งของเธอซึ่งต่างไปจากของต้อม    รู้สึกมากที่ตอนเธอย้อนกลับมาถามต้อมว่า " ต้อมช่วยลูกคนอื่น  เพื่อที่ต้องการให้คนอื่นได้อยู่รอด  ได้มีความสุข  แล้วต้อมเอาความสุขของตนเองไปไว้ที่ไหน?"    อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ

และได้นำไปปรับใช้กับชีวิตได้ด้วย    ตลอดจนวิถีความคิดซึ่งทำให้มองโลกด้วยความเป็นจริงมากขึ้น    มันทำให้ต้อมคิดรอบคอบมากขึ้น  

สวัสดีค่ะนายช่างใหญ่

  แต่ละคนมีความดีสะสมกัน ทั้งนั้น เพียงแต่คนเล่า ก็เหมือนมีความดี มากกว่าคนไม่ได้เล่า เท่านั้นเอง ถ้าทุบกระปุกออกมาดู ของนายช่างใหญ่ ก็มิใช่น้อยทีเดียว ติดตามอ่านอยู่ค่ะ

พี่รุ่งขา

อ่านแล้วซึ้งมากเลยค่ะ  ตอนเรียนพยาบาลหนิงก็เลือกทุนสสจ.เพราะเขาว่าจะเอาพยาบาลวิชาชีพลงไปสอ.  อยากเป็นหมอ  อยากเป็นผอ. โรงพยาบาลสองเตียง อิอิ แต่ปรากฎว่า  ในระยะทดลองเขากลับเลือกเอาไปลงแค่ในจังหวัดอุดร  ก็เสียใจมาก  ให้เราอยู่ฝ่ายแผนฯในสสจ. เหตุผลเดียวว่า เราเรียนเก่ง  เอาไปทำแผนฯ  ควรจะดีใจดีไหมเนี่ย...ทำไมไม่ให้เราเลือกที่อยากทำอ่ะ

อยู่สสจ.ไม่นานก็หาเรื่องออก รพช.  เขาให้อยู่ ER แล้วเขาก็ให้เข้า LR พออยู่ LR ซักระยะ เขาก็ให้เข้า OR ช่วงอยู่ OR นี่แหละค่ะ  เป็นหน.แล้วก็อยากไปเรียน anath  แต่ก็ไม่ได้ไป  เพราะ ...   และทดแทนให้เราไปอบฯหมันชายแทน  เลยเสียความรู้สึก 

ขออยู่ฝ่ายส่งเสริมก็ไม่ให้สักที  แต่พอดีเภสัชชุมชนลาออกหนิงเลย  ได้เป็น รก.เภสัชชุมชน  ด้วยเหตุผลเดิมอีก เราเรียนเก่ง เฮ้อ...ควรจะดีใจไหมเนี่ย...

ช่วงนี้แหละที่เบื่อวงการ กระทรวงหมอมาก  พอดีมีเพื่อนทำงานในกระทรวงครู  เลยหันเหมาลองสอบดูค่ะ  สอบได้เลยลาออกซะเลย 

สมใจค่ะ  ได้เป็น ผอ. โรงพยาบาล 4 เตียง  อิอิ  ทำเองทุกอย่างตั้งแต่ จัดซื้อ --->Tx --->supply และ ถูพื้น  เพราะมีอยู่คนเดียว  อิอิ  ปรากฎว่า ตั้งแต่บรรจุใหม่มาอยู่กระทรวงครูนี่  17 ปี  อยู่ที่เดิมตลอด  ฮา....แต่งาน DSS เพิ่มมาใน 3 ปีนี่แหละค่ะแล้วเตียงก็หายไปด้วย  อิอิ  เตียงหักแล้ว

หนิงคิดถึงช่วงเวลาที่ฝึกงานที่สอ.มาก  หนิงชอบแบบนั้นมากกว่างาน ward อ่ะค่ะ  ชอบที่เป็นงานแบบองค์รวม  ทำทุกอย่างเพื่อสุขภาพอนามัยของชุมชนจริงๆ ชุมชนได้ประโยชน์และเข้าถึงได้   อยู่กับชาวบ้านทุกอย่างต้องคอยปรับเสมอ  ได้โจทย์มาจากจังหวัด บางทีหาคำตอบไม่ได้ก็ต้องกลับไปปรับโจทย์  อิอิ แต่สุดท้ายเราได้อนามัยชุมชน ไง

สวัสดีค่ะคุณหนิง

  แหม ประสบการณ์เยอะมากนะคะ ทั้งฝ่ายแผน ทั้งห้องคลอด ทั้งห้องฉุกเฉิน  เภสัช แต่ที่สำคัญ มันไม่ถูกใจเรา เคยอยู่โรงพยาบาลมา สองปี ก็ขอย้าย ไปสู่ถิ่นเก่า ตอบตัวเองว่า มันไม่ใช่เรา

  ทุกวันนี้เป็น หัหน้าสถานีอนามัย คิดว่า เรามีหน้าที่ให้กำลังใจ น้องๆ ให้สู้กันต่อไป ถึงเส้นทางจะเปลี่ยนไป แต่ห้วใจการทำงาน ยังต้องเหมือนเดิม

  การได้อยู่ในหลายๆสถานการณ์ ทำให้แนคิดเราเปลี่ยนไป อาจเป็นคนตัดสินใจอะไรง่ายๆ จนคนเป็นห่วง แต่แท้จริงแล้ว เรากลับพิจารณาไตร่ตรอง อย่างหนักและรวดเร็วมากกว่า อาชีพ ทำให้เราเป็นคนแบบนั้น

  เหมือนการไปเป็นอาสาสมัครที่อินเดีย มีคนเป็นห่วงหลายคน แต่พี่คิดว่า มันคงไม่มีอะไรเลวร้ายมากนัก สำหรับคนที่ คิดทำเพื่อคนอื่น แต่พี่ก็ไม่ทราบ จะทำได้ดีขนาดไหน แต่ตั้งใจค่ะ

 ขอบคุณคุณหนิง ที่มาร่วมสนทนา อาชีพเดียวกันแต่เช้า ขอให้สมหวังทุกประการ ในสิ่งที่ปรารถนานะคะ

 พี่รุ่งขา

ไปอินเดีย  หนิงเชื่อว่าพี่รุ่งทำได้สบายมาก  ไม่น่าห่วงเลยค่ะ  เพราะพี่รุ่งคือหมออนามัย  !!

หนิงยังอยากไปด้วยเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท