6 ธค 50 วันนี้เป็นวันเริ่มทำงานวันแรกตามที่เราตั้งใจมากระบี่ละครับ รถจาก รพ.กระบี่มารับเราตั้งแต่เช้าที่ โรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ ที่พักทริปนี้ของเรากระทัดรัดสะอาดสะอ้านน่าพักมากครับ เจ้าของโรงแรมมีอัธยาศัยไมตรียิ้มแย้มแจ่มใส น้องๆเจ้าหน้าที่ของโรงแรมก็ดูแลเอาใจใส่ ข้อสำคัญราคาก็ย่อมเยาครับ (ไม่ได้ค่าโฆษณาซักนิดเลยครับ) โชเฟอร์จาก รพ กระบี่ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพื่อนเก่าชื่อคุณเสริมนั่นเอง ตะก่อนสมัยผมมาอยู่กระบี่กับอั้ยเหิดใหม่ๆ พี่เสริมนี่แหละครับเป็นเพื่อนคู่ใจคอยขับรถเก็บหมอสองคนนี้กลับถึงโรงพยาบาลได้โดยสวัสดิภาพ ปัจจุบันพี่เสริมเป็นหัวหน้าทีมขับรถของโรงพยาบาลกระบี่แล้วครับ เจ๊ศิริรัตน์บอกว่าปรกติพี่เสริมไม่ค่อยได้ขับเท่าไรแล้ว(คุมเด็กๆเป็นส่วนใหญ่) แต่พอรู้ว่าหมอนิพัธจะมาก็ขอมาดูแลเรื่องรถรับส่งด้วยตัวเอง เหมือนกับย้อนกลับไปอดีตยี่สิบกว่าปีก่อนเคยดูแลกันอย่างไร เมื่อได้มาพบกันอีกความรู้สึกดีๆที่เคยมีไม่ได้ลดน้อยถอยลงตามกาลเวลา รู้สึกซาบซึ้งมากครับ
ถ่ายรูปหน้าโรงแรมไว้เป็นที่ระลึก จากซ้ายเสื้อเขียวพี่เสริม ผม คุณผู้หญิงตรงกลางคือเจ้าของโรงแรม หมอยงยุทธ(เหิด) แล้วก็หลวงตาวี
การประชุมครั้งนี้จัดที่ โรงแรมกระบี่เมอรี่ไทม์ครับ เป็นโรงแรมระดับห้าดาวใจกลางเมืองกระบี่ สถานที่กว้างขวางมากจนผู้เข้าร่วมประชุมบางคนหาห้องประชุมไม่เจอกว่าจะพร้อมเพรียงกันก็ประมาณเก้าโมงกว่าๆ พี่ศิริรัตน์เชิญผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ครั้งนี้ทุกสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน(แพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบำบัด แพทย์แผนไทย สาธารณสุขอำเภอ เจ้าหน้าที่อนามัย ฯลฯ ) มีการพูดคุยซักถามกันในเบื้องต้นถึงความรู้สึกที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ ส่วนใหญ่บอกว่าไม่มั่นใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นในสองวันที่จะร่วมกิจกรรมกันแต่ก็อยากได้ประสบการณ์จากการประชุมรูปแบบใหม่ บางคนก็งงกับการจัดเก้าอี้ประชุมเป็นแบบนั่งล้อมวงไม่มีโต๊ะสำหรับจดบันทึกใดๆ ผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้เกือบร้อยคนนะครับ พอนั่งที่กันเรียบร้อยดีแล้ว ก็เริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดกันก่อนด้วยกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์โดย อ้อ เปรมสุรีย์ สำหรับน้องผมคนนี้คุณภาพการันตีได้ว่าต้องหัวเราะครับ
พี่ศิริรัตน์ ก็เล่นกับเค้าด้วย ผู้นำที่ดีต้องเป็นแบบนี้ครับ
นี่ก็เช่นเดียวกัน พี่สุภา รองผ.อ. ฝ่ายการพยาบาล เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักมากครับ เล่นกับน้องๆได้อย่างไม่ขัดเขิน
หัวเราะกันจนผ่อนคลายกันดีแล้ว ก็มาถึงพิธีการมั่งครับ ที่จริงก็ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรกันมากมาย ทีมพวกเราจากพุทธชินราช ขึ้นมากล่าวแนะนำตัวและความตั้งใจที่มากระบี่ในครั้งนี้ สำหรับตัวผม การมากระบี่ในครั้งนี้เหมือนกับการกลับบ้าน บ้านนี้มีความรัก มีความเอื้ออาทร มีความผูกพัน ความรู้สึกดีๆตั้งแต่สมัยก่อนบวกกับน้ำใจจากชาวกระบี่ตั้งแต่ก้าวแรกที่มาเยือน ทำให้ผมมั่นใจว่าพวกเราทั้งสองทีมจะร่วมกันพัฒนาแนวทางการดูแลผู้ป่วยเบาหวานได้สมความตั้งใจ จะต้องมีอะไรดีๆเกิดขึ้นในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้แน่ๆครับ
ทีมพวกเราทุกคนขึ้นไปแนะนำตัวและเล่าถึงความตั้งใจที่มากระบี่
เมื่อรู้จักกันดีแล้วก็เริ่มการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานนะครับ เริ่มจากเรื่องเล่าของโรงพยาบาลกระบี่ พี่ศิริรัตน์และเอ้ง เล่าประสบการณ์ที่ผ่านมาเรื่อง การดูแลผู้ป่วยเบาหวานโดยใช้กรอบแนวคิด chronic care model ซึ่งโมเดลนี้เน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการเป็นหลักสำคัญ ต่อจากนั้นเราก็ฉายดีวีดีเรื่อง "การจัดการความรู้เครือข่ายเบาหวาน" ที่โต้งติดกระเป๋ามาจากพิษณุโลกด้วย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ผ่านกระบวนการจัดการความรู้ กรณีตัวอย่าง รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม รพ.พุทธชินราช รพ.เทพธารินทร์ สสจ. สกลนคร สอ.คำตะกร้า และที่ขาดไม่ได้คือความเห็นของ พี่วัลลา (ดร.วัลลา ตันตโยทัย) ซึ่งผมยกให้เป็นประธานเครือข่ายเบาหวาน ใครจะว่าอย่างไรก็ไม่รู้หรอกครับ แต่ผมว่าพี่วัลลาเป็นผู้นำทีมที่อึดมากๆเหมาะกับตำแหน่งประธานแล้วหล่ะครับถึงแม้จะเป็นประธานเครือข่ายที่ไร้ตัวตนไม่มี body มีแต่สมาชิกและก็มีน้ำใจ
ต่อจากนั้นผมก็เล่าเรื่องมั่ง ผมนำเรื่องการจัดการความรู้เท่าที่ผ่านมาในประสบการณ์อันน้อยนิดของผมมาแชร์กับผู้เข้าร่วมประชุมชาวกระบี่ ผมเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมากับ KM อย่างไม่ต้องเสริมแต่ง ไม่ปิดบังทั้งความรู้จากประสบการณ์และความรู้สึกที่เกิดเมื่อสัมผัสกับกระบวนการจัดการความรู้ ผมสบายใจทุกครั้งที่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้ เพราะอะไรรู้มั้ยครับ เพราะผมมั่นใจงัยครับว่า ประสบการณ์ของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกันดังนั้นการแชร์ประสบการณ์จึงไม่ถูกจำกัดว่าผิดหรือถูก มันไม่ใช่ทฤษฎี มันถูกปล่อยให้เปิดกว้างและถูกยอมรับโดยจิตใจที่เปิดกว้างเช่นเดียวกัน ดังนั้นกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จะลื่นไหลไปด้วยดีได้ก็ในบรรยากาศที่เป็นมิตรและปราศจากความตึงเครียดเท่านั้นครับ
ถึงตอนนี้ก็เที่ยงพอดี เจ๊กับทีมพาพวกเราไปชิมก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าอร่อยที่ตลาดเก่า ความจริงบ่นให้แกฟังตั้งแต่เมื่อวันแรกแล้วครับว่าอยากไปลองชิมดูอีกทีว่ายังเหมือนเดิมรึเปล่า ปรากฏว่าอร่อยไม่ผิดหวังเลยครับ โดยเฉพาะพี่ปรีชาติดใจมากถึงกับอยากมากระบี่ปีละครั้งเพื่อมากินก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้านี้ สงสัยต้องหางบ อบต.มาสนับสนุนการเดินทางน่าจะดีนะครับ แต่ที่น่าประทับใจเป็นที่สุดคือ ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี่ ได้มาร่วมรับประทานก๋วยเตี๋ยวกับเราด้วย ท่านให้ความเป็นกันเองอย่างสูงครับ สร้างความประทับใจให้พวกเราทุกคนในทีมพูดถึงท่านด้วยความชื่นชม
เจ๊ศิริรัตน์ ท่านผอ.รพ.กระบี่ หลวงตาวี และก็ผม ในร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเสียดายที่ในรูปก๋วยเตี๋ยวยังไม่ได้เสริฟ ไม่งั้นคงส่งกลิ่นพะโล้หอมฉุยทะลุรูปออกมายั่วน้ำลายแน่ๆ
หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน เริ่มต้นภาคบ่ายด้วย อ้อ เปรมสุรีย์อีกเช่นเคย ได้หัวเราะกันซักหน่อยความง่วงซึมก็หายไปมีแต่ความตื่นตัวกลัวจะจับกลุ่มขี่มอเตอร์ไซด์กับเค้าไม่ได้
ตลอดบ่ายวันนี้เราจัดกลุ่มผู้เข้าประชุมเป็น 8 กลุ่ม เพื่อการเล่าเรื่องแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยเบาหวานของแต่ละคน ฝึกการใช้ dialogue ในการพูดและการฟัง เพื่อค้นหาปัจจัยแห่งความสำเร็จในแต่ละเรื่องเกิดเป็นองค์ความรู้จากของจริงบวกกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในเรื่องเล่าแต่ละเรื่อง บรรยากาศในการพูดคุยพรั่งพรูไปสู่ความรู้สึกที่เป็นสุข ผมสังเกตได้จากเสียงหัวเราะที่มากขึ้นเรื่อยๆในทุกกลุ่ม
เมื่อได้เล่าเรื่องกันหมดทุกคนแล้ว ทุกคนในกลุ่มก็รวมพลังกันวิเคราะห์ปัจจัยแห่งความสำเร็จในแต่ละเรื่องเล่า เขียนบนการ์ดแห่งความสำเร็จแล้วก็ติดไว้บนฟลิปชาร์ต
บางกลุ่มคุยกันสนุก เบรคบ่ายไม่มีความหมายซะแล้วครับ คุยกันติดพันไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ กิจกรรมในวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดีจนถึงรายการสุดท้ายในเวลาใกล้เย็น แต่ละกลุ่มจะคัดเลือกเรื่องเล่าที่ประทับใจเพื่อนำเสนอ รวมถึง notetaker ประจำกลุ่มจะเล่าถึงบรรยากาศในกลุ่มและประมวลผลปัจจัยแห่งความสำเร็จจากเรื่องเล่าของกลุ่ม เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเพื่อนในกลุ่มอื่นๆ
ตัวอย่างผู้เล่าเรื่องได้ประทับใจครับ
คุณลิขิต notetaker ประจำกลุ่มสรุปปัจจัยแห่งความสำเร็จในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน
เรื่องเล่าที่ถูกใจ เจ๊ศิริรัตน์ก็มีรางวัลให้ด้วยครับ เป็นหนังสือ มหัศจรรย์ KM เบาหวาน กรณีศึกษาพุทธชินราช นั่นเอง
ในที่สุดวันแรกของ KM เบาหวาน พุทธชินราช - กระบี่ ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ผมได้รอยยิ้มมากมายจากผู้เข้าร่วมประชุม หลายคนบ่นเสียดายแทนเพื่อนที่ไม่มีโอกาสมาร่วมประชุมในวันนี้ แล้วก็บอกว่าพรุ่งนี้จะไม่พลาดเป็นแน่ แค่นี้ก็เป็นความมหัศจรรย์แห่ง KM สำหรับผมแล้วครับ
ดูแลผู้ป่วยเบาหวานอยู่ค่ะ อยากเข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความรู้บ้าง จะดูโปรแกรมการจัดประชุมได้ที่ไหนคะ หรือว่าประชุมวิชาการเกี่ยวกับเบาหวานก็ได้ค่ะ
-สนใจDVDการจัดการความรู้เครือข่ายเบาหวานด้วยค่ะ
นับว่าเป็นกระบวนการแลกเปลี่ยนที่ลื่นไหลจริงๆนะ ลป ยอมรับว่าได้เกินที่คาดหวังไว้ ที่จริงโต้งนอนไม่ค่อยหลับมาหลายวัน อิอิอิ...เพราะพกความกังวลไว้กลัวกระบี่จะไม่ได้ดั่งที่ตั้งใจ แต่ก็สรุปได้ละค่ะว่า งานได้ผลคนเป็นสุขค่ะ
ยินดีด้วยที่คุณหมอนิพัธและน้องๆ ทีมพุทธชินราชประสบความสำเร็จกับงานขยายเครือข่าย KM ที่กระบี่
ขอบคุณที่ตั้งให้เป็นประธานเครือข่ายนะคะ ความจริงเป็นผู้ประสานงานเครือข่ายก็ดูดีนะ มีความรู้สึกเป็นกันเองดีมากๆ
ฝากความคิดถึงไปยังน้องๆ ทุกคน อีกไม่นานจะชวนไปใต้อีก
โต้งกับน้องๆก็คิดถึง อจ.อยู่เสมอเลยนะคะ ไม่รู้ว่า อจ.จะมาพิษณุโลกได้เมื่อไหร่ตามสัญญาที่ให้ไว้น่ะค่ะ (ลุงปุ๊ กับ เทศฯสุธี บอกสงสัยลืมไปแล้วว )