ความดีจงปรากฎ


ความเรียง ท่ามกลางคำถามของยุคสมัย ก่อนการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 เมื่อผู้คนในบ้านเมืองหวาดหวั่นต่อวิกฤติเบื้องหลังเหตุการณ์ เรากำลังพบเจอและพบเห็นเรื่องราวใดก่อนการเลือกตั้ง และเราคาดหวังสิ่งใดหลังการเลือกตั้ง คำตอบมีเพียงตัวเราและวิธีคิดของเรา ต่อเหตุการณ์ก่อนและหลังจากนี้

ความดีจงปรากฎ

อ้างอิง - ภาพ http://www.lomography.com/folkways

อาจเป็นเรื่องง่ายเกินไป

สำหรับการร้องขอในแต่ละขณะชีวิต

แต่คือสิ่งจำเป็นสำหรับเรื่องราวพื้นฐานในความเข้าใจ

สำหรับการเดินทางไปลำพังท่ามกลางหัวใจของเรา การร้องขอ หรือบอกกล่าวกับตนเองนั้น ล้วนมีประโยชน์อย่างยิ่ง ยิ่งในยามที่จิตใจของเราเหน็ดเหนื่อยทดท้อสับสน คำอธิบายหรือร้องขอต่อหัวใจตนเองนั้นมีประโยชน์อย่างยิ่ง ในแต่ละขณะของหัวใจอันเหน็ดเหนื่อย มีเพียงคำกล่าวของเรากับตัวเราเองเท่านั้น ที่จะช่วยให้เราก้าวขาไปในแต่ละขณะได้

หากเป็นศาสตร์แห่งศรัทธาโดยทั่วไป

ความมุ่งมั่นด้วยศรัทธาชีวิต

ล้วนมีผลบวกในการคิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากศรัทธาเหล่านั้นมิได้ก้าวล่วงหรือทำร้ายทำลายผู้ใด เป็นศรัทธาแห่งความรัก มิตรภาพ ความเอื้ออารี น้ำใจไมตรี และความละเอียดอ่อนในหัวใจ ศรัทธาแห่งชีวิตนั้นล้วนเป็นหนทางแห่งความดีงามทั้งสิ้น ดังนั้นความหมายแห่งศรัทธา ล้วนมีความดีเป็นเครื่องกำกับ

ในโมงยามของยุคสมัยปัจจุบัน

เราพยายามบอกกล่าวขัดกล่าวให้ผู้คนคิดบวก

ให้ผู้คนทั่วไปได้ตระหนักถึงทิศทางการมองโลกมองชีวิต

ว่าหากเราเริ่มต้นคิดบวก มองเห็นและรับรู้ถึงลมหายใจด้านบวกของชีวิต เราจะเริ่มต้นแก้ไขปัญหา มากกว่าทดท้อหรือก่นด่าเพียงลำพัง เราอาจตำหนิสิ่งรอบข้างเพียงในใจได้ เพื่อมองหาหนทางเพื่อก้าวไป เราอาจวิพากษ์เรื่องราวตัวตน ด้วยหัวใจอันว่างเปล่า เพียงเพื่อมีคำตอบให้กับสิ่งที่ดีกว่า

ไม่ใช่สิ่งที่เราวิพากษ์ไม่ดี

แต่เพราะเรากำลังทำสิ่งที่ดีกว่าในวันพรุ่ง

วันนี้จึงเป็นฐานของวันพรุ่ง คำตอบวันนี้จึงไม่ใช่วันพรุ่งนี้

ครั้งหนึ่งของการชมเกมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค นักกีฬากระโดดสูงทั้งชายและหญิง ต่างบ่นและอธิบายด้วยประโยคสั้นกับตนเอง พร้อมทั้งจัดลำดับการไกวแขน ทำท่าทางเหมือนนับจังหวะก้าวการกระโดด หลับตาและกระทำซ้ำไปมาสม่ำเสมอ ทำทุกอย่างเหมือนจริงในจังหวะแข่งขัน เพียงแต่ไม่มีการออกวิ่งไม่มีการก้าวขา ก่อนที่ผู้พากย์กีฬาจะสรุปความน่าสนใจของเรื่องราว

ว่าวิธีการดังกล่าวเป็นการจัดระเบียบของท่าทางร่างกาย

เป็นวิธีการแบบหนึ่งซึ่งนักกีฬานำมาใช้ในการแข่ง

เรียกว่าการจำลองสถานการณ์ล่วงหน้า

ภายใต้วินัยการฝึกฝนนับหมื่นนับแสนชั่วโมง ทักษะความเข้าใจ จังหวะและห้วงขณะของการแข่งขัน กำลังเริ่มต้นขึ้นในใจนักกีฬา ถ่ายทอดออกมาในแต่ละขณะของการกำกับจังหวะก้าว ของทั้งร่างกายและจิตใจ ผสมผสานทักษะหัวใจและร่างกายไว้ เช่นเดียวกับแบบจำลองทางธุรกิจ หรือศาสตร์การบริหารงานองค์กร

การจำลองสถานการณ์ล่วงหน้า

การกำหนดโจทย์กำหนดสถานการณ์เพื่อระบุแนวทาง

หากเกิดปัญหาหรือเรื่องราว ขั้นตอนจะเป็นเช่นไร

เหล่านี้ล้วนเป็นในการอธิบายกับตัวตนและจิตใจของเรา เหมือนยามเรานั่งชมผู้รักษาประตูระดับโลกทั้งหลาย ล้วนแต่ยืนบ่นในทุกจังหวะ ไม่ใช่เสียงก่นด่าผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ไม่ใช่เสียงตำหนิฝ่ายเดียวกัน แต่เป็นเสียงเตือนตัวเองที่ดังจากปากของตัว กำกับและกำหนดเกมการเล่นของตัวเอง

ในความรู้ด้านจิตวิทยาการกีฬา

มีมุมมองอธิบายขั้นตอนการสะกดจิตตนเอง

เมื่อนักกีฬาต้องตอบตนเองเหมือนมีพลังกำกับจิต

ทำได้ ทำได้ ไม่ยากไม่มีปัญหา เข้าเป้าต้องเข้าเป้า จัดจังหวะและกำหนดจังหวะในการทำบทบาทหน้าที่แห่งเกมการแข่งขันนั้นให้ดีที่สุด เหมือนเช่นที่เรากำลังกำหนดจังหวะก้าวแห่งศรัทธา เข้าใจเรียนรู้ และลำดับลมหายใจแต่ละขณะของตัวเราเอง ด้วยแต่ละความมุ่งมั่น แต่ละความตั้งใจ

 

ในท่ามกลางการเมืองไทย

ในท่ามกลางคำกล่างว่าเป็นความวุ่นวาย

อธิบายถึงการณ์เบื้องหน้าว่าอาจก่อให้เกิดวิกฤติ

ในท่ามกลางโจทย์ตัวตั้งอันเป็นลบ สิ่งที่เราควรทำได้ คือกำหนดโจทย์ใหม่ในใจ แม้ในท่ามกลางวิกฤติ แม้ในท่ามกลางความยากลำบากของชีวิต ในแต่ละวิกฤติของสังคมไทย เราล้วนผ่านความยากลำบากเหล่านั้นมาได้ ไม่ใช่เพราะศรัทธาที่จะมีชีวิตอยู่ เพื่อทำให้วันพรุ่งนี้สดใสหรือไร

ไม่ใช่เพราะเรายังคงมีความหวังต่อเมืองไทยที่ดี

ที่เรายังคงอยากเห็นรอยยิ้มของผู้คน

อยากเห็นสังคมไทยที่ดีงาม

ไม่ใช่เพราะสิ่งเหล่านี้หรอกหรือ เพราะความมุ่งมั่นปรารถนา และอยากเห็นสังคมไทยดีงาม เจริญรุ่งเรือง และอบอุ่น สำหรับนักการเมืองที่เพียงชอบสร้างวิมานแห่งความฉิบหาย สร้างหายนะแห่งบ้านเมือง โดยไม่นำเสนอถึงทางออกของบ้านเมือง อาจหวังผลหรือไม่หวังผลในคำพูดก็ตาม

ผมถือว่าผู้คนเหล่านี้เลวร้าย

หากกำลังฉกฉวยผลประโยชน์จากความหวาดกลัว

ไม่ต่างอะไรกับการอยากให้เด็กนอนโดยบอกว่าตุ๊กแกจะกินตับ

นิทานแห่งความเลวร้าย ตรรกะในการสร้างความชั่วร้าย และจินตนาการอันล่มสลาย คืออาชญากรรมที่นักการเมืองฉ้อฉลเหล่านี้กระทำ กำลังสร้างความหวาดกลัวให้กับเรา ก่อให้เกิดปีศาจร้ายในใจเรา ดูดกินและฉกฉวยจินตนาการอันงดงามของแผ่นดินแห่งนี้ แผ่นดินไทยที่เรารัก 

ใช่สำหรับคำตอบ

ที่เราทุกคนยอมรับว่าวันนี้มีปัญหา

แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะแก้ปัญหาเหล่านั้นไม่ได้

ไม่ได้หมายความว่าเราจะร่วมก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไม่ได้ ไม่ใช่สำหรับจินตนาการและความหวังของคนไทย หากเป็นยามศึกสงครามยามมีพระอัยการศึก สิ่งซึ่งปรากฎจากเพียงคำบ่อนทำลาย ความเชื่อมั่น ศรัทธา และความหวังในชนะ ก็เพียงพอที่จะบั่นหัวกุดคอผู้กล่าวได้ไม่ยากนัก

โมงยามนี้สำหรับสังคมการเมืองไทย

ผมไม่คิดสิ่งใดมากกว่ามีวิกฤติ

เมื่อมีวิกฤติเราก็ร่วมกัน

จะร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันแก้ไข ก็เป็นเรื่องราวที่เราต้องช่วยกันบอกกล่าว จะวิพากษ์วิจารณ์ จะตำหนิติเตียนก็ควรตั้งด้วยจิตเจตนาเบื้องแรก ถึงหนทางออกจากวิกฤติปัญหา หรือปรารถนาให้เราร่วมกันก้าวผ่านวิกฤติเหล่านี้ไปร่วมกัน ไม่ใช่วิพากษ์เพียงเพื่อฉกฉวยความหวาดกลัวจากใจเรา ไม่ใช่สำหรับนักการเมืองที่เตรียมก่อวิกฤติยิ่งใหญ่เบื้องหน้า

วันนี้ ก่อนวันเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550

ขอเพียงเราตั้งสติตั้งใจ และมุ่งมั่นถึงความดีงามเบื้องหน้า

พรุ่งนี้ วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2550 เราไปเลือกตั้ง

ไม่ต้องวิตกกังวลใจใดในโชคชะตาของบ้านเมือง หรือวิกฤติเบื้องหน้าใดที่จะปรากฎขึ้นมา เพราะเราทุกคนกำลังรับผิดชอบกับโชคชะตาเหล่านั้น เราทุกคนกำลังร่วมกำหนดอนาคตของประเทศไทย กำหนดอนาคตของชาติบ้านเมือง และกำหนดชะตาชีวิตของพวกเรา เดินเข้าคูหา แล้วตัดสินใจถึงสิ่งที่ดีงามในบ้านเมือง ลงคะแนนเสียงในคำตอบของประเทศไทย 

อาจเพียงขอความหวัง

จากหัวใจของเราซึ่งยังไม่ยอมจบสิ้น

ให้เราได้ตระหนักถึงศรัทธาต่อหนทางเบื้องหน้า

เราทุกคนก็จะก้าวผ่านพ้นไปได้

หมายเลขบันทึก: 155334เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2007 11:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท