ดีใจที่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

เลือกตั้ง ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๐

ตั้งแต่มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส) และสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว) เมื่อ ๓๐  ปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปใช้สิทธิเลือกตั้งทุกครั้ง เพราะถือว่าการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ซึ่งการไปเลือกตั้งจะไปทั้งครอบครัว สมัยก่อนก็มีภรรยาไปใช้สิทธิด้วย และต่อมาปัจจุบันลูกมีโอกาสใช้สิทธิ ก็ได้พากันไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข โดยทุกคนมีความหวังอยู่ในใจและความหวังที่เปิดเผยต่อกันว่า ต้องการเห็นประเทศไทย (ไม่ใช่ประเทศอื่น) มีการพัฒนาก้าวหน้า  เจริญรุ่งเรือง ไปในทิศทางที่ดี ไม่ล้าหลัง ก้าวทันต่อประเทศต่าง ๆ ที่เป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ได้แต่รอความหวังเมื่อหย่อนบัตรเลือกตั้งลงในหีบเลือกตั้ง ยังไม่พบอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่คิด ที่หวัง กับมีการถดถอยสู้ประเทศเพื่อบ้านไม่ได้ ที่เขาได้แต่เจริญเอา ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการศึกษาค่อนข้างจะไปไกลมาก ไม่ว่าจะเป็นประเทศมาเลย์เซีย สิงคโปร์ เวียตนาม ฟิลิปปินส์ ต่างแข่งขันกันพัฒนา ยิ่งในปัจจุบันมองดูนักการเมืองที่อาสามารับใช้ประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ ต่างก็จะพูด ประกาศหาเสียงว่าจะทำโน่นทำนี่มากมาย ไม่ว่า จะเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา สังคม การเมือง ความสมานฉันท์ ขอให้ทำ ถ้านักการเมืองไม่เห็นประโยชน์แก่ตนเอง ไม่เห็นประโยชน์แก่พวกพ้อง(พรรค) แต่เห็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน คิดว่าบ้านเมืองน่าจะเจริญก้าวหน้า

ดังนั้นวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๐ ตั้งแต่เวลา ๘.๐๐ น. ถึง ๑๕.๐๐ น.ขอเชิญชวนทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ ๑๘ ปีขึ้นไปได้ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง โดยตั้งใจเลือกพรรคที่ดี(ดูที่นโยบาย ดูที่หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคและดูบุคคลที่สมัครในแบบสัดส่วนอีก ๑๐ คน)  แล้วกากบาทลงในบัตรเลือกตั้งที่มีสีต่างๆ ทั้งหมด ๘ สีตามกลุ่มจังหวัด ได้เพียง ๑ พรรคเท่านั้น

จากนั้นก็พิจารณาตัวบุคคลที่สมัครรับเลือกตั้งในเขตจังหวัด ว่าเป็นบุคคลที่ทำดีมาตลอด ต่อเนื่อง ยั่งยืน ไม่ใช่ทำดีเสนอหน้า ตอนจะเลือกตั้งเท่านั้น(เห็นหน้าเมื่อเลือกตั้ง) เพื่อเป็นตัวแทนของเรา ได้เท่ากับจำนวนที่กำหนดในเขตเลือกตั้ง เช่น บางเขตเลือกตั้ง กำหนดให้มี ส.ส.ได้ ๓ คน ก็กากบาทได้ไม่เกิน ๓ คน จะกากบาท ๑ เบอร์ ๒ เบอร์ หรือ ๓ เบอร์ก็ได้ และถ้ากำหนดไว้ในเขต ๒ คน ก็กากบาทได้ ๑ เบอร์ หรือ ๒ เบอร์เท่านั้น ห้ามกากบาทเกินเด้ดขาด จะกลายเป็นบัตรเสียทันทีซึ่งการเลือกคนจะใช้บัตรสีเหลืองเหมือนกันทั่วประเทศ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บ้านเมืองจะสงบสุข ไม่แตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งฝ่าย ขอให้เสียงประชาชนทั้งประเทศส่วนใหญ่ที่ลงคะแนกันในวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๐ เป็นคนตัดสินทิศทางการปกครองประเทศตามนโยบายของแต่ละพรรคที่เสนอมารับใช้ประเทศชาติ ไม่ใช่ให้กลุ่มบุคคลใด กลุ่มบุคคลหนึ่งที่มาเรียกร้องภายหลัง ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง เพียงไม่กี่ร้อย กี่พันหรือกี่หมื่นคน  ว่าคือคนไทยทั้งประเทศชอบอ้างสิทธิแทนคนอื่นเขา