หลายปีมาแล้วตอนที่กล้องดิจิตอลออกมาใหม่ๆ
ผมก็หามาทดลองใช้ ตั้งแต่ Casio QV-10A และ QV-100
ซึ่งมีหน่วยความจำภายในแค่ 2 MB. และความละเอียดสูงสุดแค่ 0.3 M.Pixel
เท่านั้น ราคาก็ใกล้ๆ 2 หมื่นบาทครับ ตอนนั้นยังไม่มีแบบใช้ Memory
Card แต่ผมก็จัดหามา 5 กล้อง
เพื่อให้นักศึกษาได้ใช้ฝึกพัฒนาสื่อการเรียนการสอนแนวใหม่ที่ผมเรียกมันว่า
สไลด์อิเล็กทรอนิกส์ แล้วก็ได้ใช้ฝึกอบรมครูในที่ต่างๆ
อีกหลายสิบครั้ง
ตอนนี้ก็กลายเป็นของเก่าเก็บเพื่อเป็นประวัติแห่งพัฒนาการของเทคโนโลยี
แม้ว่ามันยังใช้งานได้ดี แต่ก็ไม่มีใครเหลียวมอง ที่จริง 300,000
Pixels ก็ทำอะไรได้มากอยู่
โดยเฉพาะงานที่ไม่ต้องการรายละเอียดอะไรมาก
และงานที่ต้องการไฟล์ขนาดเล็กๆ เช่นการ Upload ขึ้นระบบ Internet
เป็นต้น แต่ของใหม่ๆมันล่อใจ จึงยากที่ใครๆจะหันมามอง
อยู่มาวันหนึ่งก็มีกล้องดิจิตอลที่มี Memory Card
ที่สามารถถอดเข้าออกจากตัวกล้องได้ ผมรีบศึกษาหาข้อมูลทันทีว่า Card
แบบใดกันที่ใช้กว้างขวางที่สุดในโลกในขณะนั้น
ดูจากกล้องของยี่ห้อดังๆทั้งหลาย ก็ได้ข้อสรุปว่า Compact Flash Card
หรือ CF Card คือคำตอบ ผมเลยเมิน ไม่มองกล้องที่ใช้ Smart Media Card
และ Memory Stick และรีบหาซื้อกล้องใหม่ทันที มาจบลงที่ Kodak
รุ่น DC-215 เพราะดูแข็งแรงดี Body เป็นโลหะ และ แน่นอนครับ ใช้
Compact Flash Card หรือ CF Card เป็นหน่วยความจำ เขาแถมขนาด 4
Mb. มากับกล้อง ตอนหลังไปซื้อการ์ด 8 Mb.
มาได้ก็นับว่าเท่เอาการ ความจุตั้ง 8 Mb. อย่าเพิ่งหัวเราะครับ
ราคาเป็นพันเลยนะจะบอกให้
แล้วผมก็พบว่า Sandisk ซึ่งเป็นผู้ผลิต CF Card
เจ้าแรก เขาทำเครื่องอ่านการ์ด หรือ Card Reader ออกมาจำหน่าย นี่ครับ
รุ่นนี้เอง ..
เครื่องอ่าน-เขียน CF Card ตัวแรกที่ผมซื้อใช้ ราคา 2500 บาท และ การ์ดความจุ 8 Gb. ในปัจจุบัน
เป็นเครื่องถ่ายโอนไฟล์ภาพจาก CF Card
มาสู่คอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสายกับตัวกล้อง
เพียงแต่ถอดการ์ดออกมาใส่เครื่องนี้เท่านั้น
กล้องก็ยังนำไปใช้ต่อได้โดยอาศัยการ์ดอีกตัวหนึ่ง ราคา Card
Reader ที่อ่าน-เขียนการ์ดได้เพียงอย่างเดียวนี้ 2500 บาทครับ
แพงมากเมื่อเทียบกับที่มีขายอยู่เกลื่อนกลาดในปัจจุบัน
แต่ผมก็ซื้อมา 2-3 อัน เนื่องจากมองเห็นช่องทางการประยุกต์ใช้งาน
ที่ใครๆก็ยังคาดไม่ถึง
ผมสร้าง Flash Drive ใช้เองครับ
แค่มองเห็นว่าเมื่อการ์ด+Card Reader ใช้อ่าน เขียน
บันทึกข้อมูลที่เป็นไฟล์รูปภาพได้
มันก็ต้องเก็บไฟล์ชนิดอื่นได้ ผมก็เอาการ์ด 8 Mb.มาเสียบต่อกับ
Card Reader แล้วให้เจ้าหน้าที่ห้องคอมพิวเตอร์ใช้ทำงาน
ถ่ายโอนข้อมูล อย่างที่ทุกวันนี้เราใช้สิ่งที่เรียก Flash Drive
Thumb Drive หรือ Handy Drive นั่นแหละครับ
ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่าอะไรดี บางทีก็บอกว่า
เครื่องถ่ายโอนข้อมูล บางทีก็เรียก ฮาร์ดดิสก์จิ๋ว
จำได้ว่าครั้งหนึ่งเอาไปใช้ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เจ้าหน้าที่ห้องคอมพิวเตอร์ถามว่า "อะไรของอาจารย์ ?" พอผมตอบเขาเสร็จ
เขาก็แย้งว่า "นั่นมันการ์ดของกล้องดิจิตอลนี่ "
ผมก็บอกว่าใช่แต่เอามาทำอย่างนี้ก็ได้ " .. นั่นแหละครับ Handy Drive
ที่ผมมีใช้ ตั้งแต่เขายังไม่ได้ผลิตออกมาจำหน่าย แค่ผสมอุปกรณ์ 2
อย่างเข้าด้วยกัน เพราะเรา "มองเห็น"
ความเป็นไปได้เท่านั้นเอง
ปัจจุบัน Flash Drive Thumb Drive หรือ
Handy Drive มีขายกันเกลื่อนกลาด ราคาระดับ 3-4 ร้อยบาท
ถึงเรือนพันบาท ขึ้นอยู่กับขนาดความจุหรือหน่วยความจำ
Flash Drive หลากหลายรูปแบบ และ ขนาด ในตลาดปัจจุบัน
หลายคนมีพกติดตัวเพื่อความสะดวกในการทำงานกับไฟล์ข้อมูลทั้งหลาย
ทั้งเพื่อหน้าที่การงานและความบันเทิง แต่ผมพบความจริงว่า
หลายคน ซื้อ Fiash Drive
ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องซื้อ
และหลายคนยังไม่ซื้อเพราะคิดว่ามันแพง
ผมมีคำตอบในเรื่องนี้ครับ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจทีเดียว
คือว่า ... ปัจจุบัน Card Reader
ถูกลงมากแล้วครับ จากที่ผมเคยซื้อ 2500 บาท เดี๋ยวนี้ แค่ 100 กว่าบาท
หรือถูกกว่านั้น ส่วน Memory Card ก็ถูกลงมากเช่นกัน ความจุขนาด
32 Mb.ที่จุพอๆกับแผ่น Floppy Disk นับ 20 แผ่นก็อาจซื้อได้เพียง
ประมาณ 100 บาท ตีว่ารวม 2 อย่าง แค่ 200 ถึง 250 บาท เราก็ได้ Flash
Drive Thumb Drive หรือ Handy Drive (แล้วแต่ชอบชื่อไหน)
ไว้ใช้งานแล้ว
การ์ดรีดเดอร์ - SD Card - MMC Card และ RS-MMC Card
ในกรณีของผม ได้เลือกซื้อ Card Reader ที่อ่านการ์ดได้ 3 ชนิด คือ SD Card MMC Card และ RS-MMC ที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือหลายรุ่น ราคาไม่ถึง 100 บาท ใช้กับการ์ดความจุ 32 Mb.ซึ่งก็ไม่ได้น้อยเลยนะครับ ถ้าใช้เก็บเอกสารและ งานเพื่อการเรียนการสอนทั่วไป ทั้งยังมีข้อดีเด่นกว่าการซื้อ Handy Drive อีกหลายประการดังนี้
ลองคิดทบทวนดู หากเห็นจริงก็ลองทำดูนะครับ แล้วจะรู้ว่า "แหม ไม่น่า ..... เลยเรา " อิ อิ อิ.
"แหม..ไม่น่า.....เลยเรา"...
อุทานหลังจากไปนับนิ้วว่าเสียกะตังค์กับhandy drive ไปเท่าไหร่แล้ว....อิอิ...
อ้อ ลืมไป หนิงก็มี handy นะคะ อิอิ 1 G เป็นรูปหมูทอง ได้แถมมาจากซื้อโน๊ตบุคช่วงตรุษจีนค่ะ
สวัสดีครับ
ขอขอบคุณทุกเจ้าของความเห็นที่แวะเวียนมาเยี่ยมครับ
ไม่น่า จริง ๆ ด้วยค่ะ
หนูพึ่งซื้อ Handy Drive มาใช้แค่ 2 เดือนเองค่ะ
คิดแล้วเสียดายมากค่ะ ราคา Handy Drive ก็เกือบ 700 บาทเชียว
ต้องขอบคุณอาจารย์มากนะคะ ที่แนะนำทางเลือกที่ดี และประหยัดอย่างนี้ค่ะ
อยากให้อาจารย์มาเยี่ยมเรื่อยๆจังค่ะ
เพราะจะได้ทราบถึงข้อแนะนำดีๆ ค่ะ
เรียนท่าน พีHandy
สวัสดียามดึกครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ มันดีมากๆ เลยค่ะ
สวัสดีครับคุณ ว่าจะซื้อแล้วคิดได้