ได้เคยมีโอกาสทำงาน หรือติดต่องานกับหลายหน่วยงานภาครัฐ
ที่กระทรวงพาณิชย์ เวลาไปขอข้อมูล ท่านมักจะบอกว่า "เป็นความลับของบริษัท ถ้าเราให้คุณ บริษัทก็จะไม่เชื่อถือ ไม่ให้ข้อมูลเรา" .... ก็มีประเด็นอยู่ แต่ฟังแล้วยังงงๆ ว่าใครปกป้องผลประโยชน์ใคร
เวลาประชุมกับกระทรวงต่างประเทศ ท่านจะมีบุคลิกที่เนี๊ยบมาก มีสุนทรพจน์ที่สวยงามแบบนักการฑูต เพื่อนนักวิชาการที่มาร่วมงานบอกว่ารู้สึก "เกร็ง" ที่จะต้องขึ้นพูดต่อ
เมื่อครั้งไปร่วมงานของกระทรวงมหาดไทย ท่านจะเตรียมชาวบ้านมาเข้าแถวต้อนรับเข้าสู่ปะรำพิธี จนผู้ได้รับการต้อนรับเดินแทบจะขาขวิด วางตัวไม่ถูกว่า ทำไมจึงต้องมีผู้คนมาแห่แหนแบบนี้
สภาพัฒน์กับกระทรวงการคลัง มีความเป็นนักวิชาการอยู่สูง แต่ไม่เนี๊ยบเท่านักวิชาการจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ทั้ง "ดูดี" และ "ดูเก่ง" ฉลาดล้ำ
กระทรวงอุตสาหกรรมก็เคยไปติดต่อ แต่จำลักษณะเฉพาะไม่ได้
กระทรวงเกษตรมีสไตล์ลูกทุ่ง ง่ายๆหน่อย ค่อยรู้สึกคุ้นเคยแบบพวกเดียวกัน
ที่คุ้นเคยมากที่สุดก็คือ นักวิชาการในมหาวิทยาลัยนี่แหละ ต่างคนต่างมีภาษาและกรอบมุมมองเฉพาะด้านของตัวเอง คุยกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง... แต่ก็มีเสรีภาพในการถกเถียงดี ไม่มีผู้ใหญ่ผู้น้อย..
แต่ทั้งหมด..ถ้ารวมพลัง ทำงานบนฐานประชาชนจริงๆ ไม่ติดกับอัตตาและองค์กรก็คงจะดี
ส่วนใหญ่ได้เคยทำงานกับกระทรวงมหาดไทยค่ะ จริงอย่างที่ อ.ว่าเลยค่ะ และแบบนายว่าไง ลูกน้องว่างั้นหมดเลยจริงไหมคะ !!
ทำงานกับนักวิชาการก็ใช่อย่าง อ.ว่าค่ะ ต่างคนต่างสไตล์ และมั่นใจในศาสตร์ของตัวเอง แต่ถกเถียงกันได้ (บางทีเลือดสาด)
ไม่แน่ใจว่าถูกทั้งหมดหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่ได้ทำงานแต่กับนักวิชาการด้านกฎหมาย หรือด้านสิทธิมนุษยชน
คงต้องลองทำงานกับ อ.ดูบ้างใช่ไหมคะ ?!
อาจารย์ปัท เล่าได้เห็นภาพนะคะ
แบงค์ชาติ "เนี๊ยบ" จริง เริ่มตั้งแต่ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์หรือความปลอดภัย จรด ซอกชั้นหนังสือในห้องสมุด . . . "ดูดี" "ฉลาดล้ำ" จริงๆ
ส่วน"เสรีภาพในการถกเถียง" กันของนักวิชาการมหาวิทยาลัย(บางแห่ง) ดูคุ้นตา แต่ก็ยังไม่รู้สึกคุ้นชินเวลาที่สาดเสียงใส่กัน . . .
คุณ pilgrim คุณหมอ คุณ piglet
ขอบคุณที่เข้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์นะคะ อิอิ..
วัฒนธรรมองค์กรดังกล่าวหากจะได้เปลี่ยนเสียบ้างก็จะดีมากทีเดียว เปลี่ยนไปเป็นวัฒนธรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซีเท่าไหร่ก็ร่วมวงแลกเปลี่ยนเรี่ยนรู้อยู่ในวงเดียวกันได้ นครศรีธรรมราชเรากำลังเปลี่ยนวัฒนธรรมไปสู่วัฒนธรรมการทำงานแบบนั้นครับ ชื่อกิจกรรมโรงเรียนคุณอำนวยเมืองคอน แต่ก็ติดก็ก้าวย่างอืดอาดมากเหมือนกัน ด้วยข้อจำกัดของราชการทั้งงบประมาณบ้าง ระยะเวลา ฯลฯ เป็นความพยามหนทางหนึ่งที่จะวิ่งออกจากวัฒธรรมเดิมๆอย่างที่อาจารย์ว่า
ขอบคุณอาจารย์ที่ถอดและนำประสบกาณ์ที่ได้จากการไปปะทะสัมพันธ์กับหลายหน่วยงานมาบอกกล่าว