วันนี้ดิฉันได้มีโอกาสช่วยลูกดิฉันทำการฝีมือ การตบแต่งขวดโหลด้วยว้สดุที่เหลือใช้ วิธีการคือ การนำกระดาษหนังสือพิมพ์ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำไปแช่น้ำจนยุ่ย หลังจากนั้นก็นำไปปั่น ดิฉันก็นำไปปั่นโดยใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปรากฎว่าไม่หมุน จึงนั่งมองกับลูก ลูกบอกว่า "แม่ต้องใส่น้ำมากๆเพราะเป็นเครื่องปั่นน้ำผลไม้" ปั่นได้สักครู่เครื่องปั่นผลไม้ก็มีควันขึ้น ดิฉันจึงตัดสินใจหยุด และคิดว่าเครื่องเสียไม่ใช้ได้แล้ว คงต้องทิ้ง จึงนำกระดาษที่ปั่นเท่าที่ได้นำมากรองโดยตะแกรงทำให้เหลือแต่เนื้อกระดาษแล้วมาผสมกาว กวนจนเป็นเนื้อเดี่ยวกัน ลูกดิฉันบอกว่าให้ทำแข่งกัน ดิฉันจึงนำขวดมา2 ใบ ต่างคนต่างทำ(การฝีมือนี้ดิฉันไม่เคนทำมาก่อน)
เวลาผ่านไปดิฉันสามารถทำได้เสร็จก่อน เนื่องตรงนี้ทักษะผู้ใหญ่จะดีกว่าเด็ก เมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน ลูกดิฉันพูดว่า "ของแม่ทำไมสวยกว่าหนู" เลยอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า "การบ้านที่ครูให้ทำเป็นการฝึกการเรียนรู้ของทุกๆคนที่ได้เรียน การเรียนรู้ที่หนูเจอตอนนี้เป็นความง่ายของในการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ แต่ความยากในการเรียนรู้ในวัยผู้เป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด" ฟังแล้วดูเหนื่อยสำหรับเด็ก แต่ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าใช่
พอตอนเย็นลูกชายคนเล็กกลับมาจาเรียนพิเศษ ดิฉันตกใจเมื่อรู้ว่าเค้าต้องทำการฝีมือที่ต้องส่งครูเหมือนกับพี่สาว ดิฉันต้องช่วยลูกเรียนรู้อีกครั้งแน่ๆ เนื่องจากลูกพูดกับดิฉันว่า"แม่ใจดีไหม! ช่วยหนูทำหน่อย" แค่ฟังเค้าพูดแล้วก็คงไม่ต้องบอกว่าจะช่วยหรือเปล่า แต่คิดในใจเครื่องปั่นเสียคราวนี้ต้องใช้ครกตำแน่เลย วันนี้เลยได้เรียนรู้กับลูก สองเด้งเลย Learning by doing ถ้าตกงานคงทำขายได้เลย
กิจกรรมการเรียนรู้ในปัจจุบันดิฉันได้เห็นการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ของเด็กไทย เน้นให้เด็กเรียนรู้โดยพัฒนาระบบคิดมากกว่าจำ ถึงแม้ไม่ใช่คุณครูแต่พอดีมีลูก3 คน การเรียนรู้โดยมีพ่อแม่มีส่วนร่วมดีแน่นอน แต่การเรียนรู้ที่พ่อแม่ทำให้เป็นการทำร้ายเด็ก เนื่องสมอง2ซีกไม่ได้ฝึกการทำงาน การพัฒนาการก็จะไม่ดี
ขอบคุณอาจารย์ขจิต มากเลยค่ะ ที่มาแวะคุย
สวัสดีค่ะ
สมเป็นคุณแม่มือหนึ่งจริงนะค่ะ
learning by doing
ขอบคุณมากทั่ให้กำลังใจ ไม่แน่ใจว่าเป็นคุณแม่มือหนึ่งหรือเปล่านะค่ะ แต่ที่แน่ๆมีลูก 3 คนจะได้เรียนรู้กับลูก(การฝีมือ) อยู่เรื่อยๆ