CoP กรมอนามัย ... เกิดขึ้น ... และยังคงอยู่ในศูนย์อนามัยที่ 1
หนึ่งในเรื่องราวของ CoP กรมอนามัย ที่อยากหยิบมาเล่าสู่กันฟัง...
CoP ที่เห็นเป็นรูปธรรมเด่นชัดที่สุดเวลานี้ของกรมอนามัย มีที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 1 กรุงเทพฯ เกิดขึ้นจากผลงานของ KM Team ในปลายมิถุนายน 2548 ซึ่งช่วงนั้น ทพญ.ณัฐฎา บูรณสรรค์ เป็น CKO และคุณอัญชิษฐา วงศ์บุญมี พยาบาลประจำคลินิกตรวจโรคทั่วไป และคลินิกสุขภาพ เป็น Facilitator คนสวย ตากลม ที่เข้มแข็ง เธอบอกกับศรีวิภา หลังจากการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ KM ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง ในเดือน มิถุนายน 2548 (ซึ่งการประชุมครั้งเป็นการประชุมนัดแรก และมีอาจารย์หมอวิจารณ์ และคุณอ้อ เป็นวิทยากร) ว่า เราชอบหล่ะตัวเอง รู้สึกปิ๊งกับ KM ... เดี๋ยวกลับไปเราจะไปลองใช้ในงานของเราดู ... และหลังจากนั้น ก็เริ่มต้นปรับกระบวนการทำงานจากเดิม ที่เคยเป็นผู้สอนให้ความรู้กับผู้รับบริการที่เป็นกลุ่มเสี่ยง (โรคเบาหวาน ไขมัน ความดันโลหิตสูง) ในเรื่อง อาหารและการออกกำลังกาย มาใช้วิธีการ KM โดยจัดกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้ผู้รับบริการ (ทุกวันจันทร์เช้า เวลา 9.00 -10.00 น.) ที่มีประสบการณ์ในการใช้วิธีการต่างๆ ดูแลสุขภาพ หรือมีวิธีการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆแต่ได้ผล เป็นผู้มาเริ่มต้นเล่าเรื่องให้เพื่อนผู้รับบริการด้วยกันฟัง เธอเล่าว่า ... บางคนก็มาเล่าถึงวิธีการดัดแปลงการปรุงอาหารที่อร่อย แต่ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม หรือไม่ทำให้ไขมันในเลือดสูง บางคนก็เล่าถึงวิธีออกกำลังกายง่าย ตามสไตล์ที่ถนัด แต่กลับทำให้อาการปวดหลัง ปวดขา ปวดศีรษะดีขึ้น และบางคนก็เล่าเรื่องการสวดมนต์ ทำจิตใจให้สงบ เราในฐานะ Fa จะคอยกระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเล่า แสดงความคิดเห็น และรวบรวมประเด็นสำคัญ สรุปเป็นความรู้ นำเผยแพร่บน intranet ของโรงพยาบาล
ซึ่งคุณอัญชิษฐา ยังบอกต่อว่า ... ตัวเอง...ช่วงแรกๆนะ..เรา (Fa) ยังงง อยู่ว่า เล่าไปแล้วจะเป็นอย่างไร เพราะเรื่องที่เล่า จริงๆ แล้วทุกคนก็รู้ทั้งนั้นว่า อะไรควรกิน ไม่ควรกิน และต้องออกกำลังกายด้วย แต่ ... พอเวลาผ่านไปเข้าเดือนที่ 2 ... กลุ่มผู้รับบริการคนเดิมมาเจอกัน กลับได้พบความเปลี่ยนแปลงในหลายๆ คน ที่เดิมเล่าว่าไม่ชอบออกกำลังกาย และยังอดไม่ได้ เรื่องการกินอาหารหลายๆ อย่าง แต่ในครั้งนี้ กลับมาเล่าให้ฟังว่า ได้ลองไปทำตามที่เพื่อนเล่าให้ฟัง ได้แก่ แกว่งมือวันละ 100 ครั้ง รู้สึกว่าตัวเองไม่เหนื่อยง่ายเหมือนเมื่อก่อน บางคนก็ไปลองทำอาหารหรือใช้วิธีที่เพื่อนแนะนำ ปฏิบัติกับตนเอง พบว่า ผลของนำตาลในเลือดดี (ไม่สูงขึ้นมาก) จากวันนั้นถึงวันนี้ KM กลุ่มเสี่ยงย่างเข้าสู่ เดือน 3 ... 4 และ 5... พบว่า สมาชิกในกลุ่มแต่ละคน โดยส่วนใหญ่สนุกสนาน อยากมาเล่าเรื่องดีๆ ให้เพื่อนฟัง อยากมาเจอกัน และเมื่อมาก็จะถามหากัน บางครั้งนัดกันเอาข้าวถุง แกงถุง มาร่วมวงกินกันไป แลกปลี่ยนเรียนรู้กันไป .... คนที่ผลเลือดยังไม่ดี หรือน้ำหนักตัวยังไม่ดีขึ้น (สามารถลดลงได้) กลุ่มก็ให้กำลังใจต่อกัน และชักชวน นัดหมายมาพบกันในครั้งต่อไป
การทำ KM เป็นอย่างนี้หรือไม่ ... คุณไม่ทำ ... แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไร ว่า อะไรคือ KM คุณอัญชิษฐา หรือคุณอุ้ย ... บอกต่อว่า ... เรา ในบทบาทของ Fa ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงในครั้งนี้ โดยเอางานประจำที่ทำอยู่ มาผนวกกับกระบวนการ KM ช่วยต่อยอดการทำงานให้ได้ผลดีขึ้น กว่าการทำงานแบบวิธีเดิมๆ ที่เป็นผู้ให้ความรู้อยู่ฝ่ายเดียว ผู้รับบริการก็อาจเรียนรู้ได้น้อยกว่า เนื่องจากขาดแรงสนับสนุน จากนักปฏิบัติตัวจริง ซึ่งเป็นผู้รับบริการที่ป่วยด้วยโรคเดียวกัน
เธอเล่าต่อว่า ... เราว่า ... เรามันส์นะ ... เราคิดว่า ... ราชการให้เงินเดือนเราแยะนะ ... เราอยากทำอะไรให้ดีที่สุดกับหน้าที่ และเงินเดือนที่หลวงให้มา
ปลื้ม!!! จริงๆค่ะ เราฟังเธอ และได้พา KM Team กรมอนามัย ไปชื่นชมผลงานในเช้าวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.49 ที่ผ่านมา พบว่า ... มาถึง ณ เวลานี้ เธอเข้มแข็ง แม้ว่าอ่อนแรงบ้าง ในเวลาที่เหนื่อย แต่ยังคงเป็น Fa แถวหน้าของกรมอนามัย ที่เดินเครื่องไม่หยุด ... มีเรื่องเล่าผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อแลกเปลี่ยน และเรียนรู้กับทีมของเราอย่างตลอดเวลา ขอปรบมือ และเป็นกำลังใจให้อย่างจริงใจ