ในการพัฒนาระบบราชการ เมื่อย่างเข้าขวบปีที่
3
ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
ได้มุ่งเน้นที่องคาพยพที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงก็คือการเพิ่มขีดสมรรถนะขององค์กรและการเพิ่มขีดสมรรถนะของข้าราชการ
โดยให้น้ำหนักในการประเมินผล
ในมิติที่ 4
การพัฒนาองค์กร มากยิ่งขึ้น
ซึ่งน่าจะทำให้การเปลี่ยนแปลง
ทั้ง 3
ประเด็นคือ การบริหารการเปลี่ยนแปลง
(การจัดทำข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงและการนำไปสู่ปฏิบัติ) การพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ(ระบบ
ICT)
การจัดการความรู้(Knowledge
Management)
ของส่วนราชการต่างๆมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ในประเด็นการจัดการความรู้
ที่ผมได้ตั้งข้อสังเกตข้อที่
2ในบันทึกฉบับแรก
ว่า “วัฒนธรรมองค์กรแบบราชการสอดคล้องกับวัฒนธรรมการจัดการความรู้(การแลกเปลี่ยนเรียนรู้)หรือไม่
“คงต้องขอขยายความคิดดังกล่าวโดยการคิดดังๆในประเด็นนี้
เพราะเชื่อว่าน่าจะต้องมีคำถามกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นว่า
วัฒนธรรมองค์กรแบบราชการที่ไม่น่าจะสอดคล้องกับวัฒนธรรมการจัดการความรู้(การแลกเปลี่ยนเรียนรู้) แล้ววัฒนธรรมแบบนี้ จะสามารถขับเคลื่อนองค์กร(หน่วยงานราชการ)ไปสู่องค์การแห่งการเรียนรู้
( LO
!)
ได้อย่างไร
วัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งที่ยั่งรากลงลึกในองค์กรเป็นวิถีชีวิตขององค์กร
ผ่านกระบวนการพัฒนาและเติบใหญ่จากวิธีปฏิบัติงานประจำจนกลายเป็นวัฒนธรรม
เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงยาก(แต่ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงไม่ได้)
โดยการเปลี่ยนแปลงจะต้องมุ่งการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในระดับปัจเจกบุคคล
โดยการนำของผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีวิสัยทัศน์
การเปลี่ยนแปลงที่มุ่งลงถึงระดับนี้ย่อมจะต้องใช้เวลา
และมีความอดทนอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนร่วมกัน
ก็อยากจะให้ไปอ่านงานของอาจารย์ดร.ประพนธ์ ผาสุกยืด 2
บันทึก คือ
1.
ในบันทึกเรื่อง “
ทำ
KM เพื่อให้ "สอบผ่าน" หรือต้องการเป็น
"LO" !
”
โดย ดร .ประพนธ์
ผาสุกยืด
สนใจไปที่
http://gotoknow.org/archive/2006/01/12/17/21/52/e12042
2.
ในบันทึกเรื่อง
“ พอกันที CKO
หน่วยงานราชการ ! “
โดย
ดร .ประพนธ์
ผาสุกยืด
สนใจไปที่
http://gotoknow.org/archive/2006/02/07/21/40/00/e14691
ด้วยเหตุผลดังกล่าว
จึงต้องคิดดังๆอีกครั้งว่า
การจัดการความรู้ภาคราชการ V.2549 ที่ทุกส่วนราชการกำลังทำนั้น
กำลังติดกับดักทางปัญญาและกับดักทางวัฒนธรรมหรือไม่และกำลังจะเป็นKMที่ขาดพลังในการขับเคลื่อนต่อไป
พรสกล
ณ
ศรีโต
9/2/2549
ไม่มีความเห็น