เมื่อต้องการให้นามธรรมเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ ทำได้ ประเมินผลได้ เป็นการเล่าสู่กันฟังซึ่งพวกเราชาวโรงพยาบาลพุทธฯ.โดยการนำของชมรมจริยธรรมได้จัดให้มีการพัฒนาศักยภาพของจิต จิตวิญญาณเจ้าหน้าที่ขึ้น 3 รุ่น ด้วยความสมัครใจเพื่อให้เกิดทีมงานรวมพลังสร้างสุขใจทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้านเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย คนปกติ ตามการร้องขอ ความสมัครใจของผู้ป่วยและญาติและตามความเห็นของแพทย์ เพื่อช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยและญาติผู้ดูแลโดยเน้นผู้ป่วยระยะสุดท้ายก่อน(แต่ถ้ายังไม่ใช่ระยะสุดท้าย คนปกติทางทีมก็ช่วยเหลือค่ะถ้าต้องการ) โดยมีพระอาจารย์วิเชียร ชินวํโส เป็นผู้ฝึกวิปัสสนากรรมฐานและเป็นอาจารย์รับส่งอารมณ์ ของผู้ปฏิบัติ ในการฝึกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่นั้นต้องไปฝึกปฏิบัติที่สำนักปฏิบัติธรรมหรือเรียกรวมๆว่าวัดนั่นเองเป็นวัดในเขตตำบลพลายชุมพล อำเภอเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ เงียบสงบร่มรื่น ชื่อง่ายๆสั้นๆว่าวัดวังหิน สมาชิกที่ไปมีทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล ข้าราชการอื่นๆ ลูกจ้าง และยังมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม ที่ทราบข่าวและสนใจ มาขอร่วมด้วย รุ่นหนึ่งก็ประมาณ 20-40 คนใช้เวลารุ่นละ 7 วัน เมื่อผ่านการอบรมแล้วก็มาปฏิบัติต่อเองอีกระยะหนึ่งจนมีความมั่นใจก็จะมีพี่เลี้ยงที่มีความชำนาญไปด้วย เช่นพี่แต๋ง พี่ปุ๊ น้องกาว เป็นต้นไปแนะนำผู้ป่วยและญาติ ตามที่มีความประสงค์ จนปัจจุบันนี้ชมรมเราก็เป็นที่รู้จักในนามรวมพลังสร้างสุขใจอีกนามหนึ่งเพื่อดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ในโรงพยาบาลพุทธฯ.แล้ว และที่ work สุดๆก็ได้แก่แผนกอายุรกรรม….เพราะคุณหมอหลายๆท่านไปปฏิบัติด้วยตนเองและเห็นความสำคัญให้ความสำคัญกับผู้ป่วยจนดูแลอย่างญาติมิตรด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์(Humanize Health Care)….นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของพวกเรา…… ทุกอย่างทำกันเองจากจิตข้างในเป็นผู้อาสา ที่นอนสำหรับผู้ปฏิบัติทางชมรมเป็นผุ้จัดเตรียมให้เหมือนกันทุกคน
ขอบคุณอาจารย์ค่ะ...อยากให้มีคนคิดแบบอาจารย์เยอะๆจัง.....