บันทึกนี้สืบเนื่องมาจาก บันทึกที่ผ่านมา 17 พ.ย วันเกิดมะขามแก่(พ่อมะขามอ่อน) http://gotoknow.org/blog/mim-kpt/147069 วันนี้พ่อคงอยู่ที่นครปฐมแล้วเดินทางเมื่อคืนนี้ มะขามอ่อนอยากจะเขียนถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูก คือจะยกตัวอย่างพ่อมะขามแก่ของตัวเองละคะ
เมื่อสมัยที่มะขามอ่อนเป็นเด็ก ครอบครัวของเราเป็นชาวสวน(ปลูกมะขามหวาน) และก็เป็นพ่อค้าขายผักในตลาดสด ตอนนั้นมะขามหวานยังไม่ให้ผลผลิต มีรายได้จากการขายผักเพียงอย่างเดียว ซึ่งตอนนั้นครอบครัวของเราลำบากพอสมควร พ่อต้องทำงานอย่างหนัก นอกจากจะขายผักแล้ว ก็ปลูกผักเกือบทุกชนิด เช่น ผักคะน้า ผักกาดขาว กวางตุ้ง ผักชี หอมแดง มะเขือ มะเขือเทศ และอีกหลายๆ อย่างเพราะพ่ออยากให้เรามีกำไรจากการขายผักของตนเองเยอะ ๆ เพราะที่รับเขามามันมีกำไรน้อย
และที่มะขามอ่อนยังจำได้ไม่ลืม เราต้องกินผักของเราทุกวันแม่ไม่ยอมซื้อผักจากตลาดมากินเลย แม่บอกว่าผักตลาดสารเคมีมันเยอะ อันที่เราปลูกเองมันปลอดภัยกว่า เมนูยอดฮิตตอนนั้นก็คือ ดอกหอมผัดใส่ตับหมู ตอนเด็กสนุกมากกับการไปตัดดอกหอมมาผัด ดอกมันสวย สีเหลืองอ่อนๆ แม่ปลูกเป็นแปลงยาว เวลาออกดอกมันสวยจริงๆ
พ่อซึ่งเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว คือหาเงินเข้าบ้าน แต่พอไม่เคยใช้เงินเลย เงินทุกบาทที่ขายผักได้พ่อจะให้แม่หมด พ่อไม่สนใจด้วยซ้ำว่าได้กำไรเท่าไร หาอย่างเดียวจริงๆ
คนขายของส่วนใหญ่ในตลาด ส่วนมากจะเป็นแม่ค้า มากกว่าพ่อค้า มีแต่คนแซวพ่อเพราะเวลาไปขายของแม่ไม่ได้ไปด้วยแม่จะตัดผักมัดเป็นกำๆ ให้เตรียมของให้ แต่พ่อเป็นคนขาย
ตอนนั้นมะขามอ่อนก็ดื้อมากๆ เล่นกับเพื่อนหกล้มขาหัก เดินไม่ได้อยู่ 3 เดือน พ่อก็ทำทุกอย่างให้ เวลาไปโรงเรียนพ่อก็จะเอามะขามอ่อนขี่คอ และถือไม้เท้า เดินไปส่งที่โรงเรียนทุกวัน โรงเรียนอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร พ่อทำอยู่อย่างนี้หลายเดือน ตอนนั้นสงสารพ่อที่สุด
ตั้งแต่เกิดมามะขามอ่อนไม่เคยโดนพ่อด่า หรือตีเลย ทั้งที่ก็ซนมากๆ มีแต่แม่ที่ตี พ่อก็จะคอยห้าม
พ่อเป็นผู้ชายคนเดียวในโลกที่มะขามอ่อนรักมากที่สุด ไม่ว่าเดี๋ยวนี้มะขามอ่อนจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีงานทำแล้ว แต่พอก็ยังทำแบบเดียวกันกับครั้งที่เรายังเป็นเด็กๆๆเป็นลูกเล็กๆของพ่ออยู่
เพราะความรักของพ่อที่เป็นแค่ชาวสวนแต่ส่งลูกเรียนจบปริญญาได้ทั้ง 2 คน ยังแปลกใจว่าพ่อต้องใช้ความอดทน ความพยามยามมากแค่ไหน กว่าเราจะเรียนจบมีงานทำ
เดี๋ยวนี้คุณลุงมะขามแก่สบายแล้ว ไม่ต้องทำงานหนัก ทุกวันนี้ก็เข้าสวนเพื่อดูแลมะขามหวาน และก็เข้าวัดปฏิบัติธรรม
ที่มะขามอ่อนเขียนบันทึกนี้ ก็เพียงเพราะอยากทำหน้าที่ของลูกที่ดี ตอบแทนความรัก ความห่วงใยของพ่อที่มีให้ลูกเสมอมา
และเชื่อว่าลูกๆ ทุกคน ก็คงมีพ่อเป็น ฮีโร่ ในดวงใจกันทุกคนอยู่แล้ว เช่นเดียวกับมะขามอ่อนที่มีพ่อเป็นฮีโร่มาตั้งแต่ยังเด็กๆพอจะจำความได้
อยากให้สมาชิกบล็อก เมื่ออ่านบันทึกนี้จบแล้ว ให้นึกถึงพ่อ โทรไปบอกรักท่านถ้าท่านอยู่ไกล หรือถ้าอยู่ใกล้ๆ ก็กอดท่านและบอกกันท่านกันถ้วนหน้าเถอะคะ....
รักพ่อมะขามแก่ที่สุดในโลก
..มะขามอ่อน..
สวัสดีครับ มะขามอ่อน/ครูมิม
อ่านแล้วรู้สึกดีครับ พ่อเป็นฮีไร่ในดวงใจของหลายๆคน
แต่ก็มีแม่อีกคน เป็น ฮีโรอีน ไม่ว่าสุขทุกข์แค่ไหน
มองเห็นดวงตาลูกที่ชื่นชม สดใส รอยยิ้ม พ่อก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
ขอบคุณ คุณคนโรงงาน