โดยปกติฉันอยู่ในกรุงเทพฯ เวลาสามทุ่มกว่าๆ ยังไม่ดึกนัก แต่รถประจำทางก็ใกล้จะหมดฉันอยู่ไม่ไกลนักแต่ความที่ไม่อยากเดินเข้าซอยมืดๆ เลยใช้บริการแท็กซี่กลับเข้าซอยเป็นประจำ
คืนวันนั้นฉันเรียกแท็กซี่ที่หน้าซอยภาวนาเพราะหวังว่าจะใช้เวลาอีกนิดหน่อยให้รถเข้าไปส่งในเสนานิคม คนขับแท็กซี่ก็ดูไม่น่ากลัวอะไร ยังเด็กวัยรุ่นอายุประมาณ 27 -28 ปี ฉันเปิดประตูไปถามแล้วบอกว่า"ไปเสนานิคม" แทนที่รถจะเลี้ยวเข้าซอยภาวนา รถกลับตรงไปฉันบอกให้เขาเลี้ยวเข้าโชคชัย 4 เขาบอกว่าจะไปเข้านวมินทร์ ระหว่างที่บอกเส้นทางกันนั้นฉันเข้าใจว่าเขาจะไป"เสนานิคม" จริงๆ เพราะเสนาก็ไปเข้าทางถนนเลียบทางด่วนได้ ฉันก็ปล่อยให้เขาวิ่งไป โดยมองทางไปตลอด พอผ่านแยกเกษตร-นวมินทร์ รถบึ่งขึ้นสะพานไป ฉันถามเสียงเรียบๆ แบบพยายามตั้งสติว่า "จะไปไหน" ขณะนี้ฉันไม่รู้สึกตกใจอะไรเลย เพราะคิดว่าเป็นไงเป็นกัน คนขับคงได้ยินน้ำเสียงของฉันและเห็นท่าทางว่าฉันเอาจริง คนขับเลยบอกว่า"คิดว่าไปนิคมบางปู" ฉันถามกลับไปอีกว่าแล้วถ้าไปนิคมบางปูก็ไม่ได้ไปทางนี้ กรุณากลับรถ ฉันตั้งสติมั่นมาก ไม่ทำท่าทีหวาดกลัวใดๆ ให้คนขับเห็นเลย..แล้วบอกทางตลอด..คนขับแกล้งทำท่าทางเหมือนไม่รู้จักทาง
แล้วรถแท็กซี่คันนั้นก็พาฉันมาถึงบ้านได้ ด้วยมิเตอร์เกิน 100 บาทไปเล็กน้อย ฉันก้บอกขระลงไปว่าฉันให้แค่ 100 เท่านั้นนะ เพราะเธอวิ่งเกินระยะทางเอง ...คนขับก็รับไปแต่โดยดี
ขอบอกเป็นอุทาหรณ์ไว้สำหรับคุณสาวๆ ขณะที่นั่งรถแท็กซี่กลับบ้านคนเดียวว่า
1. อย่าตกใจ ไม่ต้องโวยวาย เพราะถ้าโวยวายคนขับจะทำท่าอารมณ์เสียใส่แล้วอาจจะพาลทำอันตรายกับคุณได้
2. นั่งเยื้องคนขับด้านหลัง พยายามทำมือเหมือนกับว่าเรากำลังกำอาวุธไว้ในมือ
3. คิดอยู่ในใจเสมอว่า"เราต้องปลอดภัย" อย่าลืม กด 191 stand by ไว้ด้วย
4. ถ้าไม่จำเป้นก็อย่าขึ้นแท็กซี่เลยค่ะ เปลืองเงิน...
ไม่มีความเห็น