ค่าอุปการะเลี้ยงดู(๑)


การที่คู่สมรสตกลงหย่าขาดจากกัน ก็จะต้องไปจดทะเบียนหย่า และอาจจะมีข้อผูกพันตามสัญญาหย่า เช่น เรื่องทรัพย์สิน เรื่องอำนาจปกครองบุตร

            วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีไทยแต่โบราณ สังคมไทยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ลูกออกไปทำงาน พ่อแม่จะคอยเลี้ยงหลาน เด็กจะมีคนคอยเอาใจใส่ดูแลอยู่ตลอดเวลา การปฏิบัติต่อพ่อแม่เต็มไปด้วยความเคารพ แม้จะมีครอบครัว มีลูกเป็นโขลง เอ๊ะหรือจะใช้คำว่ามีลูกเป็นโขยง อิอิ ทุกคนยังคงกลัวพ่อแม่ บางครั้งพ่อแม่ก็ยังดุด่าได้อีก ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

            ขนบธรรมเนียมประเพณีสอนให้บิดามารดามีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรและสอนให้บุตรปฏิการะต่อบิดามารดา เพราะท่านเป็นบุคคลที่ควรบูชา กฎหมายก็ยังเขียนรับถึงหน้าที่ของบิดามารดาและบุตรที่มีต่อกัน ผมขอทบทวนเรื่องนี้สักนิด เนื่องจากสังคมไทยในปัจจุบันกลายเป็นครอบครัวเดี่ยว เริ่มเป็นฝรั่งจ๋ามากขึ้นการปฏิบัติต่อบิดามารดาอาจเป็นเพียงการไปเยี่ยมนานๆครั้งตามเวลาที่ว่าง(ซึ่งมีผมรวมอยู่ด้วย แฮ่ะๆ) บางครั้งก็อาจทำให้บิดามารดาโดยเฉพาะท่านที่สูงอายุเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ บางคนจึงสมัครใจไปอยู่สถานสงเคราะห์คนชรา ผมมีความรู้สึกว่าตัวท่านเองก็คงไม่อยากไปอยู่เท่าไรหรอก หากอยู่กับลูกหลานแล้วมีความสุข

            ท่านเคยไปเยี่ยมคนชราที่บ้านพักคนชราบ้างไหมครับ ครบรอบวันเกิดแม่ผมพาแม่ไปเลี้ยงอาหารคนชราที่สถานสงเคราะห์คนชรา ด้วยความรู้สึกว่าคนชราเหล่านั้นไม่ได้มีโอกาสดีเหมือนแม่เรา ทำให้แม่เรามีความสุขด้วยการให้ ทำให้ผู้สูงอายุมีความสุขที่ได้รับ             

          อดีตครูเก่าของผมท่านหนึ่ง ท่านเกษียณอายุในขณะท่านเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ท่านเป็นบุคคลที่คนทั้งจังหวัดให้ความเคารพนับถือ และแม้บุคคลในวงการศึกษาเมื่อเอ่ยชื่อท่านอาจารย์ เย็นจิต    ตะกั่วทุ่ง  ก็จะเป็นที่รู้จักกันดี  ท่านเป็นผู้สร้างให้โรงเรียนสตรีภูเก็ตมีชื่อเสียงขจรขจาย เมื่อผมไปกราบเยี่ยมท่าน ท่านก็ทราบว่าผมกำลังทำหน้าที่ของลูกศิษย์ที่ดีของอาจารย์ในการช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะในกรณีที่เด็กถูกละเมิดสิทธิ ท่านบอกว่าติดตามข่าวของผมอยู่เรื่อยๆ ท่านยินดีที่เห็นลูกศิษย์ท่านทำความดี และท่านได้ฝากผมเรื่องหนึ่งคือ อย่าลืมเอาใจใส่ผู้สูงอายุบ้าง เพราะผู้สูงอายุก็เหงาเป็น (ปัจจุบันท่านเสียชีวิตแล้ว) จึงนำเรื่องนี้มาบอกฝากท่านผู้อ่านว่า คนในสังคมยังมีอีกมากที่รอความช่วยเหลือ,รอน้ำใจจากท่าน ช่วยกันดูแลสังคมช่วยกันสร้างสิ่งดีๆให้กับสังคม รู้จักเอื้อเฟื้อและแบ่งปันความมีน้ำใจ อย่าปล่อยให้มีแต่การเจริญทางด้านวัตถุกันเพียงอย่างเดียว หันมาพัฒนาจิตใจตนเอง และเหลียวแลสังคมบ้าง

            ผมออกนอกเรื่องที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ไปนิดหนึ่งแต่มันก็ยังเกี่ยวกับ พ่อ แม่ ลูก อยู่ดีจริงไหม ท่านสังเกตไหมครับว่า คนไทยในปัจจุบันเริ่มทนกับอะไรไม่ได้ง่ายๆเหมือนคนสมัยก่อน คนสมัยก่อนเข้าทำงาน ถูกโขกถูกสับอย่างไรไม่เคยบ่น ก้มหน้าก้มตาทำงานไป แล้วค่อยก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่มาถึงสมัยนี้เข้าทำงานถูกเจ้านายด่าครั้งเดียว ลาออกจากงานไปหางานใหม่ทันที คนสมัยก่อนแต่งงานกันไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อน เรียกว่าถูกคลุมถุงชน แต่ผลเป็นอย่างไรครับ แทบจะไม่เห็นการหย่าร้างเลยนะครับ ผมเห็นครอบครัวของเพื่อนพ่อหลายครอบครัวที่ยังอยู่ด้วยกัน มีลูกเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ก็ไม่เห็นการหย่าร้างให้เห็น แต่เพื่อนผมหลายคู่ที่หย่าร้างกันหลังแต่งงานไม่นาน หรือเปลี่ยนงานบ่อยครั้ง แสดงให้เห็นว่าคนยุคใหม่ไม่ค่อยอดทนในสิ่งที่กระทบต่อความรู้สึก

            มีตายายคู่หนึ่งเดินขึ้นไปบนอำเภอ แจ้งกับนายทะเบียนว่าต้องการจะจดทะเบียนหย่า

            นายทะเบียนก็สงสัยถามว่า คุณตาคุณยายแต่งงานกันมากี่ปีแล้วละ

            คุณตาก็ตอบว่า ๕๐ ปีแล้วละพ่อหนุ่ม

            นายทะเบียนก็ถามต่อว่า แล้วอยู่กันมาตั้งนาน ทำไมเพิ่งคิดหย่าตอนนี้ล่ะ

            คุณยายตอบว่า คิดก็จะหย่ากับมันตั้งแต่แต่งงานได้ ๒-๓ ปีโน่นแน่ะ ไม่ได้เพิ่งคิดหย่า...

            นายทะเบียนร้อง อ้าว....แล้วงั้นทำไมมาตัดสินใจตอนนี้ล่ะ

            คุณยายตอบว่า ตอนนี้ลูก ๑๐ คนโตกันหมดแล้วทำการทำงานแล้วมีครอบครัวแล้ว มีหลานให้ยายชมแล้ว ยายหมดห่วงแล้ว ที่ไม่หย่าก่อนนั้น กลัวลูกมันจะมีปมด้อย......ฮา.....(โปรดติดตามตอนต่อไป)

หมายเลขบันทึก: 144759เขียนเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2007 12:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)
   ท่านนำความรู้พร้อมคู่มากับคุณธรรมเยี่ยมมากๆ อย่าหยุดสร้างความรู้คู่ความดีนะท่าน

ขอบคุณครับคุณโกวิท

ช่างรวดเร็วปานกามนิตหนุ่มเชียวนะครับ

อ่านบันทึกเก่าๆตั้งแต่เรื่อง ตม บ้านทรายทอง ปีกมาร ฯลฯ หรือยังครับ

อ่านเรื่องคนแก่แล้วสะท้อนใจทุกที

เพราะสิ่งหนึ่งที่ยังคาใจผมทุกวันนี้ก็คือ ผมอยู่ที่หนึ่ง แม่อยู่ที่หนึ่ง ครอบครัวผมเป็นครอบครัวเดี่ยวจริงๆครับ

ผมอยู่หาดใหญ่ แม่อยู่สุราษฎร์ แม่ยายพ่อตาอยู่นครศรีฯ

เฮ้อ

  • สวัสดีครับ
  • แถวบ้านผมก็มีคู่นึงครับอายุ 70 กว่าแล้วไปหย่ากันที่อำเภอ ได้ข่าวว่าแกไปจดทะเบียนสมรสได้ไม่นานเลย จดทะเบียนสมรสก็ตอนแก่ แถมจดแล้วยังหย่ากันตอนแก่อีก
  • อีกคนนึงก็คนแถวบ้านครับ ผัวเมียชอบทะเลาะกัน พอตกลงว่าจะไปหย่ากันที เมียก็ท้องทุกที จนตอนนี้แก่แล้วคงจะหมดแรงไปหย่าแล้วครับ
  • ขอบคุณครับ
  • อึ้งไปเลย
  • กลัวมีปมด้อย
  • แล้วทนกันมานาน
  • ขนาดนั้นอีก
  • เยี่ยมจริงๆ
  • เชื่อว่า
  • อย่าลืมเอาใจใส่ผู้สูงอายุบ้าง เพราะผู้สูงอายุก็เหงาเป็น

สวัสดีครับคุณสุดทางบูรพา

สงสัยที่ไปบอกเจ้าหน้าที่ว่า กลัวลูกมีปมด้อย คงอยู่ข้างบ้านคุณสุดทางบูรพานั่นแหละ ฮิฮิ

ส่วนอีกคู่เมียคงไม่กล้าท้าหย่าอีกแล้วมั๊ง

สวัสดีครับ อ.ขจิต

ที่ยังไม่แต่งเนี่ย เพราะกลัวแต่งแล้วจะมีปมด้อยหรือเปล่า ฮึ...

  • สวัสดีครับท่านบัณฑูร
  • เข้ามารื้อฟื้นขนบธรรมเนียมที่ดีงามครับ
  • คนหลายคนพอมีครอบครัวก็ละเลยการดูแลบุพการี
  • ขอบคุณท่านครับ

สวัสดีครับ อ.บัวชูฝัก

ขอบคุณที่ตามมาให้กำลังใจครับ คุณพ่อผมพูดกับลูกๆเมื่อวันครอบครัวที่ผ่านมาว่า "พ่อภูมิใจที่เมล็ดพันธุ์ของพ่อทุกเม็ดงอกงามสมบูรณ์" พวกเรารู้สึกอบอุ่น หลานตาหลานปู่ก็สนิทสนมกับปู่ย่า(ตายาย) กอดหอมแก้มกันทุกครั้งที่เจอ แม้ครอบครัวเราจะเป็นครอบครัวเดี่ยวแต่เราปฏิบัติเหมือนครอบครัวขยาย ป้าน้าอาเขารักหลานทุกคนครับ

P สวัสดีครับ

ผมเคยคุยกะคนแก่บ่อยๆ

บางทีโทรไปพาเพื่อน เจอพ่อแม่เพื่อน ก็คุยกะเขา เขาจะชอบเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมก็ฟังด้วยความสนใจ โดยมากท่านจะพูดมากกว่า แต่ท่านจะชอบบอกว่า "คุยกะลูกสนุกดี วันหลังโทรมาคุยใหม่นะ"

เรื่องเล่านี้ช่วยให้หลายท่านที่เข้ามาอ่านได้ระลึกถึงผู้สูงอายุได้มากเลยครับ

 

สวัสดีครับ อ.ธ วั ช ชั ย

ผมกับภรรยาก็ชอบคุยกับคนแก่ อย่างท่าน อาจารย์เย็นจิต ผมเป็นลูกศิษย์ผู้ชายแทบจะเรียกว่าคนเดียวที่เข้าไปพบพูดคุยกับท่านอยู่เรื่อยๆ ผมชอบไปเพราะท่านมีความหลังเกี่ยวกับโรงเรียนเยอะ ท่านสอนวิชาการบริหารงาน เงิน คน โดยเล่าให้ฟังว่าท่านทำอย่างไร มีอยู่วันหนึ่งผมไปเยี่ยมท่านตอนวันเสาร์ ท่านถามว่าพรุ่งนี้ช่วงบ่ายบัณฑูรว่างไหม พอดีที่บ้านครูไม่มีใครเขาไปธุระกันหมด ผมบอกท่านว่าว่างทั้งวัน เอางี้ดีกว่าผมซื้ออาหารไปทานที่บ้านท่านตั้งแต่เที่ยง ท่านหัวเราะชอบใจ วันนั้นเราคุยกันตั้งแต่เที่ยงยัน ๖ โมงเย็น โดยท่านไม่หลับเลย ท่านบอกว่าคุยกับบัณฑูรสนุกดี แล้วรับสิ่งที่อาจารย์สื่อไปถึงโรงเรียน โดยบทความที่เขียนให้โรงเรียน

๕-๖ ปีที่ผ่านมาพอถึงวันครู วันปีใหม่ ผมไปเยี่ยมท่านส่วนใหญ่ก็จะไปเจอครูเก่าๆด้วย ครูที่เป็นลูกศิษย์ท่านด้วย จากต่างจังหวัดบ้าง ท่านก็จะบอกว่า บัณฑูรมันไม่ใช่ลูกศิษย์แล้ว เขาเป็นลูกเป็นหลานฉันแล้ว

มีความสุขที่ได้พูดถึงครูที่ผมเคารพรักมากครับ

  • เข้ามา อิอิ ค่ะ
  • คิดมุข นี้ ไม่ออก :-))

อ้าวป้าแดง

ก็ข้ออ้างว่ากลัวลูกจะมีปมด้อย มันควรจะอ้างตอนที่เพิ่งมีลูก หรือเอ้า..อย่างช้าก็ลูกเรียนจบ แต่มาอ้างตอนแต่งงานกันมาตั้ง ๕๐ ปี เหตุผลมันฟังไม่ขึ้น อ่ะ ป้า.....(แต่มันก็เป็นเหตุผลที่คนชอบอ้างกรณีต้องทนอยู่กับสามีไม่เอาไหน

โฮ้โห ต้องหาเหตุผลที่จะไม่หย่าเสียแล้ว อิอิ

อายทนาย อายอัยการ นะ ไม่มีอะไรหรอก อิอิ

ช่างหาเรื่องมาให้ฮาแต่เช้าเลย อัยเฮ ท่านนี้ 

สวัสดีครับพ่อครูบา

ขอบพระคุณที่มาเยี่ยม ดีใจที่พ่อครูบามีความสุขครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท