เมื่อถามคนทั่วๆไปว่า โรงพยาบาลมีไว้ทำไม มักจะได้รับคำตอบว่า
เป็นสถานที่เอาไว้รักษาโรคเมื่อเกิดความเจ็บป่วย
ถ้าไม่ป่วยคนก็จะไม่อยากไปโรงพยาบาล
ภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลจึงเป็นที่รวมของผู้เจ็บป่วย
ซึ่งทำให้มองดูแล้วน่าหดหู่ใจ
ถ้าไม่จำเป็นจริงๆใครก็ไม่อยากไปโรงพยาบาล
เมื่อถามแพทย์
พยาบาล
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็มักจะได้คำตอบว่ามีหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วย
ยกเว้นกลุ่มที่ทำหน้าที่ด้านส่งเสริม ป้องกันโรคเท่านั้น
ที่อาจตอบแตกต่างออกไป แต่ก็มีเพียงส่วนน้อยของโรงพยาบาลเท่านั้น
ที่มีภารกิจอย่างนี้
สภาพที่เราพบเห็นในโรงพยาบาลโดยเฉพาะในโรงพยาบาลของรัฐบาลก็คือความแออัดยัดเยียดของผู้ป่วยที่ต่างรีบเร่งเพื่อไปรับการรักษาพยาบาล
โดยที่หลายๆคนต่างเห็นภาพเหล่านี้จนชินตาโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล
ทุกคนเหนื่อย เครียด
เร่งรีบเพื่อจะตอบสนองให้ทันกับความเร่งด่วนของโรคและความต้องการของผู้ป่วย
แต่ในหลายๆแห่ง ให้รีบรักษามากเท่าไหร่ ให้บริการดีขึ้นมากเท่าไหร่
คนไข้ก็ยิ่งเชื่อมั่น
หากเรายังจำนโยบายในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจได้
นั่นคือGood Health at Low cost
ทำอย่างไรให้เกิดสุขภาพได้ในต้นทุนที่ต่ำ
หากมองในเชิงการบริหารจะพบว่าองค์การจะอยู่รอดได้ต้องมีคุณภาพ
ประสิทธิภาพและประหยัด
ในการประหยัดที่ดีที่สุดก็คือการทำให้คนมีสุขภาพดี
โดยเน้นการสร้างเสริมสุขภาพ นั่นเอง
การสร้างเสริมสุขภาพไม่ใช่แค่การส่งเสริมสุขภาพ (Health
promotion)
แต่เป็นการบริการแบบผสมผสานและองค์รวมโดยดูที่สถานะสุขภาพของประชาชน
ถ้ากลุ่มปกติก็ส่งเสริมสุขภาพ
ถ้ากลุ่มเสี่ยงก็ให้การป้องกันโรค(Prevention)
ถ้ากลุ่มเจ็บป่วยก็ให้การรักษา(Curation)หรือฟื้นฟู
ถ้าเป็นกลุ่มพิการก็ให้การฟื้นฟูสภาพ(Rehabilitation)
ในการทำให้เจ้าหน้าที่ทำเรื่องโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ก็ไม่ยากโดยให้ทุกคนสามารถบอกได้ว่าตนเองได้ทำอะไรบ้างที่ทำให้เกิดสุขภาพดี
ไม่ว่าจะต่อผู้ป่วย ญาติ ตัวเอง ญาติๆ
อาคารสถานที่หรือวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ รวมไปถึงในชุมชน
ถ้าทำตามที่ตอบและตอบตามที่ทำก็น่าจะสามารถสร้างเสริมสุขภาพได้แล้ว
ไม่ต้องไปท่องเกณฑ์ ตัวชี้วัดหรือคำศัพท์ยากๆ
เป็นการทำง่ายๆให้สอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวันได้
ที่สำคัญ ต้องทำให้สอดคล้องกับความเป็นจริงขององค์การ ค่อยเป็นค่อยไป
อย่าหักดิบ และอย่าทำแบบดัดจริต เพราะมันจะไม่ยั่งยืน
อย่าอยู่ในโลกของความฝันเกินไป
แต่เอาความฝันเป็นเป้าหมายที่ท้าทายแล้วเดินไปตามความจริงที่มีอยู่
ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ สุดท้ายจะถึงที่หมายอย่างไม่รู้ตัวว่า
เราได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
หากพิจารณาตามเกณฑ์ของHPHก็ไม่ยาก ประกอบไปด้วย 7 เกณฑ์ ดังนี้
1.
การนำและการบริหาร
2.
การบริหารทรัพยากรและพัฒนาบุคคล
3.
สิ่งแวดล้อมเอื้อต่อสุขภาพ
4. ส่งเสริมสุขภาพบุคลากร
ร.พ
5.
ส่งเสริมสุขภาพผู้รับบริการและญาติ
6.
ส่งเสริมสุขภาพชุมชน
7.
ผลลัพธ์
ชอบคำว่าอย่าทำแบบดัดจริตจังค่ะ