คำว่า “แม่” สามารถหาซื้อได้ไหม ?
ตั้งแต่เล็กจนโต เพลงค่าน้ำนมเป็นเพลงที่ติดหูมาโดยตลอด ฟังที่ไรก็จะนึกถึงบุญคุณของแม่ แต่ในโลกที่เจริญก้าวหน้ากลับหลงลืมคนที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้คุณมามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ยิ่งประโยคเพลงตรงจุดที่ว่า “เลือดในอกกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน”
จากการที่ได้ลงพื้นที่โดยการมาเป็นอาสาสมัครของสมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน มีสิ่งหนึ่งที่ได้รับรู้และเป็นสิ่งที่สะเทือนใจเรามากที่สุด ทำให้รู้ว่าชีวิตจริงของคนเรายิ่งกว่านิยายน้ำเน่าเสีย ฉันได้รู้จักป้าคนหนึ่งที่มาเป็นคนเร่ร่อนที่สนามหลวง ชื่อ ป้า พ (นามสมมติ) แก่จะร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นอาสาสมัครอายุ ราว ๆ 20-25 แกจะเข้ามาจับไม้จับมือ เพราะแกคิดถึงลูกสาวของแก่ มีคำหนึ่งที่แก่พูดออกมาแล้วรู้สึกอึ้งและสะเทือนใจมาก ๆ ที่ว่า “หนูสามารถหาซื้อได้ไหมคำว่า “แม่” รอบสนามหลวงนี้เขาขายราคาเท่าไร ช่วยบอกที” ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำให้ตอบไม่ได้ และไม่มีคำพูดใดที่จะพูดออกมา เพราะป้า พ ร้องไห้และก็ย้ำคำนี้เรื่อย ๆ เสมือนกับแกเก็บอั้นในใจมานานจนทนไม่ไหว
แกเล่าให้ฟังว่าแก่มีลูกสาว 2 คน คนหนึ่งมีครอบครัวแล้ว แต่อีกคนหนึ่งเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังย่านวิภาวดี ลุกรับไม่ได้ตรงทีว่าแม่เป็นคนติดเหล้า ไม่ใส่ใจดูแลแม่ เวลาที่แม่ขอเงินไปซื้อข้าว ก็ไม่ให้บอกว่าจะไปกินเหล้า บอกว่าของในตู้เย็นมีเยอะแยะ แต่พอไปเปิดตู้เย็นดูมีเพียงพริก มะนาว ป้าแก่ก็ผัดขาวกิน แก่ย้อนกลับมาถามว่า “หนูรู้ไหมว่าแม่หนูชอบทานอะไร แต่ลูกสาวป้าไม่รู้เลย” “วันแม่หนูทำอะไรให้แม่บ้างไหม ? แต่ลูกสาวป้าแทนที่จะอยู่กับป้ากินข้าวด้วยกัน ป้าไม่ต้องการอะไรมาก แต่เขากลับบอกป้าออกมาว่า มีนัดกับแฟนไม่ว่าง แม่ก็หาอะไรกินในตู้เย็น” ป้าแกเล่าพร้อมน้ำตา ทำให้คนฟังน้ำตาคอไปด้วย
ป้า พ เล่าออกมาด้วยความอัดอั้นในใจ ว่าตลอดเวลาที่เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูมา งานบ้านทำให้ทุกอย่าง ซักผ้า รีดผ้า อยากกินอะไรก็ทำให้ แต่พอแม่อยากกินบ้างกลับไม่ได้กิน พอโตขึ้นสามารถยืนได้ตัวเองแล้วกลับไม่เหลียวหลังมามองคนที่ทำให้คุณยืนได้ เพียงเพราะเขาผิดตรงที่เขาติดสุรา แต่ตลอดชีวิตที่คุณโตมาคุณผิดมากมาย แต่ก็มีผู้หญิงคนนี้ที่อภัยให้คุณเสมอ แต่เขาผิดเพียงเพราะติดเหล้าคุณถึงขั้นรังเกียจเขา ไม่ให้เงินเขา แม้กระทั้งขอ 10 บาท เพื่อซื้อมาม่ามาต้มกิน เพราะทั้งวันอาหารยังไม่ตกถึงท้อง แต่กลับกลัวว่าเขาเอาเงินไปซื้อเหล้า และกลับตะคอกและว่ากลับเขามากมายโดยไม่ถามเขาสักคำว่า “แม่กินข้าวหรือยัง” เป็นสิ่งที่ป้า พ โหยหาจากลูกแต่กลับไม่เคยได้ ฉะนั้น ป้า พ จึงบอกเสมอหลังกลับจากการลงพื้นที่ว่ากลับบ้านอย่าลืมกอดแม่และถามท่านว่ากินข้าวหรือยังแค่นี้ท่านก็ชื่นใจแล้ว
การกระทำของลูกบังเกิดเกล้า ทำให้แม่ต้องมาอยู่ ณ ตรงจุดนี้ กลายเป็นคนเร่ร่อน โดยปัจจุบันลูกสาวคนนั้นก็ไม่เคยรู้เลยว่า ป้า พ เขามาอยู่ตรงจุดนี้ เพราะป้าเขาหนีออกมา แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่โทรกลับไปหาลูกแต่กลับโดนต่อว่ากลับอย่างเสียหาย ฟังแล้วชีวิตคนเรายิ่งกว่าละครน้ำเน่า ฟังเรื่องนี้ แล้วกลับมาย้อนมองตัวเอง กลับทำให้เรารักแม่มากยิ่งขึ้น แล้วคุณ ๆ ละค่ะ คุณจะยอมอภัยให้แม่บ้างไหมค่ะถ้าท่านผิด เหมือนกับท่านที่อภัยให้เรามาตลอดไม่ว่าจะผิดร้ายแรงเพียงใด สิ่งเล็ก ๆ น้อยที่คุณมองว่าไม่สำคัญ แต่สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งมันสำคัญมาก อย่าละเลยสิ่งเล็กน้อยหรือมองข้ามไปเหมือนแม่ที่ไม่เคยละเลยหรือมองข้ามสิ่งเล็ก ๆ ของลูกเลยแม้แต่ครั้งเดียว และทุกวันนี้แม่อย่าง ป้า พ ก็พร้อมอภัยให้ลูกเสมอ และยังรักและคิดถึงลูกเสมอดังที่มีอาสาสมัครที่ลงพื้นที่เป็นวัยเดียวกับลูกแก่ก็จะคิดถึงลูก และน้อยใจทุกครั้งที่ลูกตัวเอง ดื่มกินเลือดในอกของตัวเองกลับไม่เหลียวแลเขาเลย ทุกวันนี้แกอยากกลับไปอยู่กับลูก แต่ลูกกลับไม่ยอมรับแก เป็นเรื่องน่าเศร้ามาก ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่ง
สวัสดีครับ