คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต
โครงการบริการสุขภาพรายวิชา
ภาวะผู้นำและการบริหารจัดการทางการพยาบาล ( พย. 614
)
ภาคการศึกษาที่
1
ปีการศึกษา 2549
ชื่อโครงการ ชุมชนร่วมใจสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงวัยในวันพระ ณ
วัดลาดทราย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ ผศ. ดร. เกษร สำเภาทอง
ผู้รับผิดชอบ
1.นางณัฐธยาน์
ประเสริฐอำไพสกุล
2.นางอุษา
ทัศนวิน
3.นางสาวสมฤทัย
ปานเจริญ
4.นางสาวธัญญา
มนต์ศิลป์
5.นางสาวศิริขวัญ
พรหมจำปา
6.นางสาวรุ่งศิริ
ลิ้มสุขสันต์
7.นางจารุณี
จันทร์เปล่ง
หลักการและเหตุผล
กลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มประชากรหนึ่งที่สำคัญในปัจจุบัน
เนื่องจากเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประชากรผู้สูงอายุมีมากขึ้นเรื่อยๆจะเห็นได้จาก องค์การสหประชาชาติ
ได้ให้ตัวเลขที่แสดงให้เห็น ถึงความสำคัญของเรื่องผู้สูงอายุในอนาคต
เช่น เมื่อสิ้นปี พ.ศ.2518 ประชากรโลกทั่วโลกมีจำนวน 4,100
ล้านคน และมีจำนวนผู้สูงอายุเพียง 350 ล้านคน
จากการศึกษาทางประชากรศาสตร์ ทำให้ทราบได้ว่า ในปี พ.ศ.2568 (50
ปีข้างหน้า จาก พ.ศ.2518) ประชากรโลกทั้งโลก จะเพิ่มเป็น 2 เท่า คือ
8,200 ล้านคน (เพิ่มขึ้น 100%) ในขณะที่ประชากรโลกสูงอายุ จะเพิ่มเป็น
1,100 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22.4% และรศ.ดร.ปราโมทย์
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ กล่าวว่า ประชากรอายุ 60
ปีขึ้นไปในปี 2543 มีเกือบ 9 %
ของประชากรทั้งหมดแต่ถ้าจะแบ่งประชากรตามอายุจริงๆแล้วตั้งแต่อายุ
60-79 ปีมี 8 % และประชากรผู้สูงอายุที่อายุ 80 ปีขึ้นไปมี 3 แสน5
หมื่นคนและในอนาคต 10-20 ปีจะมีผู้สูงอายุ 60 ปีจะมีจำนวนถึง 10
ล้านคน จากการข้อมูลผู้สูงอายุในปี 2546 จำนวนประชากร 596,639 คน
มีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 73,060 คน คิดเป็นร้อยละ 12.24 %, ปี
2547 จำนวนประชากร 604,752 คนมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 77,615
คน คิดเป็นร้อยละ 12.83 % และในปี 2548 จำนวนประชากร 611,296
คนมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 81,841 คนคิดเป็นร้อยละ 13.38
%
โลกกำลังจะกลายเป็นโลกของผู้สูงอายุ
นี่คือประเด็นที่ทุกคนในโลกนี้ต้องสนใจเพื่อดำเนินการ
สำหรับการรองรับกับภาวะที่โลก จะเข้าสู่โลกของผู้สูงอายุในอนาคต
งานเกี่ยวกับผู้สูงอายุ มิใช่เป็นแต่เรื่องสุขภาพอนามัยอย่างเดียว
หากแต่เป็นงานหลายวิชาชีพ หลายสาขามาทำงานร่วมกัน
เพื่อให้เกิดผลในด้านการพัฒนา และด้านมานุษยธรรมแก่ผู้สูงอายุ
อาทิเช่น งานด้านการศึกษา การอาชีพ รายได้ สวัสดิการ สังคม วัฒนธรรม
ครอบครัว ฯลฯ ดังนั้น ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมีองค์กร ประสานงานกลาง
ในการดำเนินงานบริหารจัดการเกี่ยวกับลักษณะทางประชากร จำนวน
และการกระจายตัว และอัตราการเป็นภาระของผู้สูงอายุ
ซึ่งในปี พ.ศ.2537 ประชากรทั้งสิ้น 59,243,740 คน เป็นผู้สูงอายุ
4,011,854 คน เท่ากับ 6.8% ของประชากรทั้งหมด ชาย : หญิง = 1,801,780
: 2,210,074 คน อาศัยอยู่ในเขตเทศบาล : นอกเขตเทศบาล = 1 : 4.3
อัตราส่วนการเป็นภาระ Dependency ratio = 58.2 (หมายความว่า
ประชากรวัยทำงาน 100 คน ต้องแบกภาระจะเท่ากับ 10.7 ซึ่งน้อยกว่า
การเป็นภาวะกับเด็ก แต่แนวโน้มในอนาคต
ผู้สูงอายุจะมีจำนวนและอัตราส่วนสูงขึ้น (บรรลุ ศิริพานิช,2548)
สำหรับประชากรในอำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาในปี 2546 จำนวนประชากร
49,132 คนมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4,331 คน คิดเป็นร้อยละ 8.81
% และในปี 2547จำนวนประชากร 51,000 คนมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
จำนวน3,500 คน คิดเป็นร้อยละ 6.9 %และ ปี 2548 จำนวนประชากร
56,100 คนมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 3,850 คน คิดเป็นร้อยละ 6.8
%
ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
ความหมายสำคัญของประเด็นผู้สูงอายุไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างเดียว
แต่ยังขึ้นอยู่กับภาวะสุขภาพ
เพราะเมื่อมีวัยสูงขึ้นย่อมมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
โรคภัยไข้เจ็บและปัญหาด้านจิตใจเพิ่มมากขึ้นด้วย
สาเหตุหลักๆที่พบในตำบลลำไทรอำเภอวังน้อย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาคือพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม
เช่นขาดการออกกำลังกาย รับประทานอาหารประเภทหวาน มัน เค็ม
ดื่มน้ำอัดลม มีภาวะเครียดค่อนข้างสูง
ไม่ได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี
จึงเป็นสาเหตุทำให้กลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้เสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง
จากการตรวจสุขภาพพบว่า ผู้สูงอายุมีค่า BMI ผิดปกติ คือ
น้ำหนักเกินร้อยละ27.30 โรคอ้วนร้อยละ10.53
ค่าความดันโลหิตมากกว่า140/90mmHg ร้อยละ *4.56
ค่าน้ำตาลในเลือดมากกว่า 140 mg/dl ร้อยละ 24.64
เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง
รวมถึงการนำหลักธรรมคำสั่งสอนมาเป็นกลวิธีหรือสอดแทรกในการส่งเสริมสุขภาพในชุมชน
ถือว่าเป็นแนวทางที่น่าสนใจและมีความเป็นไปได้
ในปัจจุบันหลักธรรมคำสั่งสอนทางพุทธศาสนาเป็นอีกมิติหนึ่งซึ่งนักวิจัยได้ให้ความสำคัญในการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับหลักธรรมกับการส่งเสริมภาวะสุขภาพพุทธศาสนิกชน
การเข้าถึงประชาชนโดยยึดหลักปฏิบัติตามบริบทของ
สังคมวัฒนธรรมและวิถีชีวิตในชุมชน
ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับพุทธพิธีเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธทุกคน
นักศึกษาปริญญาโท คณะพยาบาลศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เล็งเห็นความสำคัญและความจำเป็นของข้อมูลผู้สูงอายุ
จึงได้มีโครงการ ชุมชนร่วมใจสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงวัยในวันพระ ณ
วัดลาดทราย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยานี้ขึ้น.
วัตถุประสงค์
1.เพื่อค้นหาปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุในชุมชน
2.เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับความรู้เรื่องการปฏิบัติตนที่ถูกต้องตามภาวะสุขภาพ
การรับประทานอาหาร
การจัดการกับความเครียดและการออกกำลังกายที่ถูกต้อง
3.เพื่อให้ผู้สูงอายุมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม
4.เพื่อให้หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาเป็นแรงจูงใจให้ผู้สูงอายุเกิดการปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมกับตนเอง
เป้าหมาย
1. 80 % ของประชากรที่มีอายุ 60
ปีขึ้นไป
2. อาสาสมัครสาธารณสุข จำนวน 8
คน
3. พระนักเทศน์ จำนวน 1
รูป
4. แกนนำชุมชน จำนวน 6 คน
ระยะเวลาดำเนินการ
เดือน กรกฏาคม 2549 – ธันวาคม 2549
สถานที่ดำเนินโครงการ
ศาลาการเปรียญวัดลาดทราย หมู่ 4 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กิจกรรมโครงการ
1. ระยะเตรียมการ
-
เตรียมทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโรงพยาบาลวังน้อย
- ประสานงานผู้เกี่ยวข้องในชุมชน เช่น
แกนนำต่างๆ เพื่อเตรียมพื้นที่
- จัดทำโครงการ
-
จัดอบรมให้ความรู้แก่ทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
-
เตรียมเครื่องมือ/วิธีการเก็บข้อมูล
* เครื่องมือ 7 ชิ้น ของหมอโกมาตร
* การสังเกต
* การพูดคุย/ สัมภาษณ์ แกนนำ, ชาวบ้าน
* เวทีเสวนาชุมชน, เวทีชาวบ้าน
2.ระยะการศึกษาชุมชน
- ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาร่วมกับชุมชน
- เก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานบริบทชุมชน
สำรวจสถานการณ์ชุมชนและองค์กรต่างๆ ในชุมชน
- วิเคราะห์ข้อมูลของชุมชน จัดเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูล
3. ระยะการวางแผนพัฒนา
- เปิดเวทีเสวนาชุมชน
วิเคราะห์สาเหตุปัญหาและแนวทางแก้ไขทางเลือกในชุมชน
โดยประชาชน แกนนำชุมชน ในการเสนอแนวทาง
ทางเลือกและทางออก แนวทางในการแก้ไขปัญหา
- จากการเปิดเวทีเสวนา
ได้ค้นพบปัญหาที่สำคัญและเร่งด่วนต้องแก้ไข คือ ปัญหาสุขภาพ
โดยประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพไม่เหมาะสม
โดยมีทางเลือกในการแก้ไขปัญหา
4. ระยะปฏิบัติการ
- การจัดการองค์ความรู้ โดยใช้เทคนิคกระบวนการ
วิธีการต่างๆ ในการพัฒนาชุมชน ได้แก่ Empowerment
5.ระยะประเมินผลการปฏิบัติงาน
เดือนที่ 4 และ 6
-
ติดตามเยี่ยมบ้าน
-
ประเมินพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ
กิจกรรมโครงการ แบ่งกลุ่มตามภาวะสุขภาพ
๏ ครั้งที่1 เดือนที่ 1
-
ประเมินพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ
-
คัดกรองโรคเรื้อรัง DM, HT
-
ประเมินภาวะโภชนาการ
-
กิจกรรมการแก้ไขปัญหาแบบมีส่วนร่วม “ โยนไข่ ”
-
กิจกรรมสาธิตการออกกำลังกายแบบจีน
-
พระภิกษุเทศน์ให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างสุขภาพ เช่น
การรับประทานอาหาร, การออกกำลังกาย ,
การทำสมาธิและการจัดการกับความเครียด
โดยยึดหลักธรรมคำสั่งสอนตามพระพุทธศาสนา
๏ ครั้งที่2 เดือนที่ 2
-
ประเมินสมรรถนะของร่างกาย
-
เสริมทักษะการออกกำลังกาย
-
กิจกรรมสร้างความตระหนักเพื่อให้ผู้สูงอายุมีอายุยาวยืน “
ฉีกกระดาษ”
- นวดคลายเครียด
-
พระภิกษุเทศน์ให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างสุขภาพ เช่น การทำสมาธิ,
การจัดการกับความเครียด เป้าหมายของชีวิต การเดินทางสายกลาง,
การช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยยึดหลักธรรมคำสั่งสอนตามพระพุทธศาสนา
๏ ครั้งที่ 3 เดือนที่ 3
-
ตรวจสุขภาพปากและฟัน
-
กิจกรรมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่คาดหวัง ” ตัดแปะภาพ”
-
พระภิกษุเทศน์ให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างสุขภาพ เช่น
การดูแลสุขภาพตนเอง , การพึ่งพาตนเอง ( ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ),
การเดินทางสู่นิพพาน ( End of life
)โดยยึดหลักธรรมคำสั่งสอนตามพระพุทธศาสนา
๏ ครั้งที่4 เดือนที่ 4
-
ติดตามเยี่ยมบ้าน
-
ประเมินพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ
๏ ครั้งที่ 5 เดือนที่ 6
-
ติดตามเยี่ยมบ้านรายบุคคลในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วย
ส่วนในกลุ่มปกติติดตามเยี่ยมหลังเข้าโครงการ 1 ปี
-
ประเมินพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ
- การรับผิดชอบต่อสุขภาพ
- การรับประทานอาหาร
- การออกกำลังกาย
- การจัดการกับความเครียด
- การสร้างสัมพันธภาพกับชุมชน
- การพัฒนาทางด้านจิตวิญญาณ
ประมาณค่าใช้จ่ายและแหล่งที่มา
๏ งบประมาณ / แหล่งสนับสนุน
1.
ได้รับการสนับสนุนจากกองสุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข
2. ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลลำไทร
3. ได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลวังน้อย
4. ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชน
5. ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วไป
6. สมาชิกระดมทุนกันเอง
รายละเอียดค่าใช้จ่าย
1.ค่าอาหารว่างและอาหารกลางวัน คนละ 100 บาท×100 คน ×3ครั้ง = 30,000
บาท
2.ค่าอุปกรณ์เจาะระดับน้ำตาลในเลือด คนละ 20 บาท × 100 คน =
2,000 บาท
3.ค่าวัสดุอุปกรณ์เอกสาร คนละ 10 บาท× 100 คน× 3 ครั้ง = 3,000
บาท
4.ค่าใช้จ่ายอื่นๆ จำนวน 2,000 บาท
รวม
37,000 บาท
การประเมินผลลัพธ์และผลผลิต
1. 80% ของผู้สูงอายุได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพ
2.
ผู้สูงอายุมีความรู้และพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม
- ทำ Post- test คะแนนสูงกว่า Pre
–test
- ผู้สูงอายุรับประทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว,
ใช้น้ำมันพืชแทนน้ำมันหมู,
รับประทานแกงส้มแทนแกงกะทิและรับประทานสัตว์เล็กแทนสัตว์ใหญ่
เช่นปลา
- ผู้สูงอายุมีการออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวัน เช่น
สมัครเป็นสมาชิกชมรมสร้างสุขภาพ
( ซึ่งมีชมรมเดิมอยู่แล้ว ) ออกกำลังกายรำไม้พลองที่บ้าน
ทำบุญตักบาตรหน้าบ้านทุกเช้า เวลาเครียดมีวิธีการคลายเครียดที่เหมาะสม
เช่น สวดมนต์ไหว้พระ พูดคุยกับสมาชิกในครอบครัว
3. ผู้สูงอายุมีสุขภาพอนามัยที่พึงประสงค์
4.
ผู้สูงอายุสามารถนำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม
เช่น การเดินสายกลาง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การรับประทานอาหาร
โดยการรับประทานสัตว์เล็กแทนการรับประทานสัตว์ใหญ่
และรับประทานผักมากขึ้น
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ผู้สูงอายุสามารถดูแลและพึ่งตนเองได้
มีชีวิตอย่างผาสุกตามบริบทสังคมและวัฒนธรรม
2. ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุ
3.เกิดชมรมผู้สูงอายุ ตำบลลำไทร
การเทียบผลลัพธ์และค่าใช้จ่าย
1. ลดอัตราการป่วย/การตายจากโรค
DM/HT
2. มีภาวะสุขภาพดีขึ้น ( องค์รวม
)
3. เพิ่มสมรรถนะ
ผู้สูงอายุสามารถดูแลตนเองได้ , สามารถประกอบอาชีพได้ ,
มีรายได้และลดปัญหาทางเศรษฐกิจ