การตักบาตรเทโวของพุทธสานิกชน จะกระทำกันในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ คือหลังจากวันออกพรรษาแล้ว ๑ วัน
ซึ่งมีประวัติความเป็นมาของประเพณีการตักบาตรเทโวว่า
ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม และเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาโดยจำพรรษาอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเวลา ๑ พรรษา และเมื่อออกพรรษาแล้วพระองค์ได้เสด็จกลับยังโลกมนุษย์ ณ เมืองสังกัสสคร การที่พระพุทธองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เรียกตามศัพท์ภาษาบาลีว่า "เทโวโรหณะ" ในครั้งนั้นบรรดาพุทธศาสนิกชนผู้มีความศรัทธาเลื่อมใส เมื่อทราบข่าวต่างพร้อมใจกันไปรอตักบาตรเพื่อรับเสด็จกันอย่างเนืองแน่น จนถือเป็นประเพณีตักบาตรเทโวปฏิบัติสืบทอดกันมาจนตราบเท่าทุกวันนี้
ด้วยผู้เขียนจำเป็นต้องมีใข้ข้อมูลอ้างอิงที่สมจริง จึงต้องลงพื้นที่เช็คข้อมูลไปด้วย วันนี้(27 ตุลาคม 2550) ใช้พื้นที่ของวัดสะกัดน้ำมัน บ้านวังส้มซ่า อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เหตุที่เลือกวัดนี้มีความต้องการทราบวัดนี้เหตุใดจีงชื่อว่าวัดสะกัดน้ำมัน ซึ่งมีการอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ว่า เมื่อพระมหาจักรพรรดิ์ และสมเด็จพระมหินทราธิราชเดินทางมาจากอยุธยา ทางเรือ มีพระประสงค์ จะมารับ สมเด็จพระนเรศวร พระเอกาทศรถ ซึ่ง ทรงพระเยาว์ พระมหาธรรมราชา ครองเมืองพิษณุโลก ไม่ประสงค์ให้สองพระองค์มารับหลานไป จึงเทน้ำมันลงในน้ำจุดไฟ เพื่อสะกัดเรือไว้ พระมหาจักรพรรดิ จึงโปรดให้เสะกัดน้ำมันไว้ไม่ให้ไหลมาถูกเรือ จึงเรียกบริเวณนี้ว่า สะกัดน้ำมัน วัดนี้จึงมีชื่อว่าวัดสะกัดน้ำมัน
พระภิกษุรับข้าวสารอาหารแห้ง
พานรับ ดอกไม้ธูปเทียน บูชา ค่ะ
ชูชก กัณหา-ชาลี ทานที่สูงสุด กุศโลบาย การบริจาคทาน ให้กับพุทธสานิกชน
นางฟ้าน้อย รับบริจาคปัจจัย ดอกไม้ 3 ดอก บานบนศรีษะน้อยๆๆ ผู้ใหญ่ช่างแต่งให้ น่ารักนะคะ
ขอขอบคุณ แหล่งอ้างอิง : http://www.thai-folksy.com/L2Qua/L91-120/104-L2Q.htm วัดสะกัดน้ำมัน
เป็นครั้งแรกพี่เห็นพานรับดอกไม้ธูปเทียนค่ะ ที่บ้านพี่ไม่มีค่ะ