สมัยจบใหม่ๆ สมัยนั้นมช.จะให้เลือกว่าจะอยู่แผนกไหนคล้ายๆกับตอนสอบ Entrance เลือก 3 อันดับ เราก็นึกอยู่ว่าจะเลือกแผนกไหนดี ก็เกร็งข้อสอบว่าถ้าเลือกแล้วเขาจะเลือกเราหรือเปล่าบวกกับการวัดดวงดู ..ก็แล้วกัน ก็เลยเลือกโดยเอาใจชอบเป็นหลัก และคิดว่าถนัดสุด...
อันดับ 1 ก็ห้องผ่าตัดสูตินรีเวช OR-OB เพราะที่ ม.ช.จะแยกห้องผ่าตัดออกจากกันเลย จะมีแต่เวรเช้า แล้วที่คิดไว้คือ งานจบเลยไม่ต้องเรื้อรัง
อันดับ 2 ก็แผนกเด็ก เพราะเด็กน่ารักดี ไม่มีพิษสงแล้วตอนเรียนได้คะแนนสวยหน่อย
อันดับ 3 ก็แผนกสูติกรรม เพราะเป็น case ไม่หนักหนาสาหัสแล้วก็มีแต่บรรยากาศน่ารื่นรมย์ อยู่ไม่กี่วันก็กลับบ้าน
ก็ได้รับเลือกเข้าอยู่ห้องผ่าตัดตามที่ต้องการ...ดีใจมาก เพราะไม่คิดว่าพี่เขาจะเลือกเพราะสมัยเป็นนักศึกษาไปฝึกงาน เราเคยถูกพี่หัวหน้าดุด้วยล่ะ ..แต่คงด้วยโชคดี เลยมีอะไรมาบังตาพี่เหมา...หัวหน้าเรา อิ๊ อิ๊ แต่เหตุผลจริงๆไม่เคยถามพี่เขาซักทีว่าทำไมเลือก
ชีวิตสมัยทำงาน OR ต้องบอกว่าสนุกมาก จะมีเวร 2 รอบ ถ้าเป็นเวรเช้าต้องขึ้นทำงานก่อน 07.30 น.ลง15.30 น.แต่ถ้าเวรสายก็ขึ้น 08.00 น.ลง 16.00 น. ถ้ามี case ต่อเนื่องต้องเกินเวลาตามข้อตกลงก็ให้ลงสมุดบันทึกสะสมยอดไว้เพื่อไว้ขอหยุด แต่ต้องมีเวลาที่เกินมากกว่า 30 นาทีขึ้นไป ถ้าไม่เกินกว่านี้ก็ยกให้หลวงไป ไม่มี OT
ต้องแต่งชุดพยาบาลเดินขึ้น ward ไปเปลี่ยนชุดข้างบน โดยมีคนงานซักให้และจัดเรียงเก็บใส่ locker ให้ตามชื่อของเจ้าหน้าที่ทุกคนเรียบร้อย เพราะยึดหลักสะอาด การเดินออกนอก ward ก็ให้ใส่เสื้อคลุมและให้เดินเฉพาะชั้นเดียวกันเท่านั้นเพราะเป็น zone สูตินรีเวชเหมือนกัน ถ้าไปตามแผนก ต่างชั้นต้องเปลี่ยนชุดอย่างเดียวเท่านั้น
สมัยนั้นเราต้องล้างเครื่องมือกันเอง นึ่งเองใน OR เลยทำให้เราจะสนิทกันดีทั้งกับแม่บ้าน พี่ผู้ช่วยพยาบาล คนงาน แล้วจะใช้ของอย่างระมัดระวัง scrub nurse คือพยาบาลที่ทำหน้าที่ส่งเครื่องมือให้แพทย์ขณะผ่าตัดจะเช็ดและพยายามล้างเครื่องมือให้เกลี้ยงที่สุดก่อนส่งห้องล้าง เพราะเดี๋ยวซักวันเราก็ล้างเหมือนกัน..เพื่อนช่วยเพื่อน
พอขึ้นไปถึง OR ทุกเช้าเราต้องเช็ดห้องกันใหม่ด้วย Alcohol ยกเช็ดทั้งหมดทั้งที่ห้องเก็บของ ห้องผ้า ห้องกินข้าวแล้วก็จัดคิวตามตารางการผ่าตัดที่แผนกสูติกรรมและนริเวชกรรมแจ้งเรามาเมื่อวันก่อน ทางเราก็มีหน้าที่โทร.ตาม case แล้วก็ตามแพทย์ถ้าถึงเวลาควรมาแล้วยังไม่มา เพราะปกติแพทย์และดมยาจะมากันเอง พอใกล้จบ case ก็โทร.ตามรายใหม่ แล้วทั้งแพทย์ พยาบาล ดมยาจะช่วยกันยกเคลื่อนย้าย case หลังผ่าตัด เข็นไปส่งห้องพักฟื้นเพื่อส่งเวรอาการ
ความประทับใจที่สมัยอยู่ OR ที่ได้ก็คือ
1. ทีมงานเราช่วยเหลือกันดี ไม่มีใครเอาเปรียบใคร
2. พี่เหมา หัวหน้าเราน่ารักมากพอใกล้เวลาพักจะเดินเปลี่ยนน้องแต่ละห้องให้ไปกินข้าวกัน บางทีเราก็เพิ่งรูว่าพี่เขายังไม่ได้กินเลย...เนี่ยล่ะ พี่เรา
3. ทุกคนจะมีความสามารถพิเศษ กินข้าวได้แล้วเสร็จใน 5 นาที แล้วไม่เคยได้กินข้าวตรงเวลาซักวัน แต่ก็ไม่ยักจะมีใครเป็นโรคกระเพาะ เพราะบางครั้งต้องรีบกลับมาเข้า case แล้วก็ต้องบวกลบเวลาไว้ว่า case จะนานหรือช้า เพราะถ้าเข้าไปเป็น scurb nurse แล้วออกไม่ได้ นอกจากจำเป็นจริงๆ
4. ประทับใจหมอนกด้วย...หมอนกเป็นแพทย์ฝึกหัด ก็ถูกอาจารย์หมอบางท่านเอาเปรียบอยู่บ่อยๆ เช่น case HIV อาจารย์ไม่เข้า บางรายอาจารย์มาไม่ทันเพราะติดทำคลอดอยู่ก็ให้ทำแทน แต่พอเยี่ยมอาจารย์ไปเยี่ยมรับตังส์ค่าฝากพิเศษตามระเบียบ เป็นอย่างนี้จนพยาบาลอย่างเราอดแอบถามไม่ได้ว่าทำไมหมอนกไม่เคยบ่น ไม่เคยว่าอะไรเลย คำตอบที่ได้ยินแล้วประทับใจมาทุกวันนี้คือ
" การมีงาน มาให้ทำก็ถือว่าเป็นการเพิ่มประสบการณ์ตัวเอง"
5. อาจารย์หมอหลายท่านฝีมือสุดยอดมาก แล้วเราก็ได้ประสบการณ์ในการทำงานร่วมกันอาจารย์ท่านต่างๆ ที่แต่ละคนก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป แต่ทุกคนก็ไม่มีการก้าวก่ายงานกัน ทุกคนรับผิดชอบในส่วนของตัวเอง มีความสำคัญเท่าเทียมกันและต้องพึงพากัน
อดีต ที่นำมาเล่าสู่กันฟังน่ะคะ ..เพราะปัจจุบันก็มีอะไรดีๆให้น่าประทับใจอีกมากเช่นกัน แต่ด้วยอดีตเป็นเหมือนแฟนคนแรกน่ะคะถึงจะอย่างไรก็ลืมไม่ลง...ว้าว!! จบแบบนี้ได้งัยไม่รู้เนี่ย
สวัสดีน้องลูกช้าง
ยินดีจ้าดนักคะ ที่คุณปู่ช้างเข้ามาทักทาย ...แอบไปตามดูแล้วน้องลูกช้างรู้สึกปลื้มกับสถาบันจังที่มีปู่เก่งๆแบบนี้โต้ย...
แวะมาทักทาย กันหน่อย ไม่ได้เจอกันนานแล้ว
นักเรียนใต้
สวัสดีคะคุณชายฯ ได้ข่าวว่าวันนี้ไปสอบ...ขอให้โชคดีหลายเด้อ! ..อิ๊ อิ๊ เค้าเป็นลูกครึ่งน่ะ
อยากเรียนพยาบาลดมยาเหมือนกัน