“ไอคิโดกับตัวฉัน” : หนึ่งเสียงเด็กไทใหญ่จากการฝึกไอคิโด


จำไว้นะคะ ถ้าคุณเจ๋ง รักจะฝึกไอคิโด คุณอย่าตัวโตแต่ใจปลาซิวนะคะ

สวัสดีค่ะดิฉันชื่อ เด็กหญิง ยู่ยี่  อายุ 14 ปี เป็นชนเผ่าไทใหญ่ หลังจากที่ดิฉันได้ฝึกไอคิโด เป็นเวลา 2 เดือนแล้วก็ทำให้ดิฉันคิดอยู่เสมอว่าไอคิโดทำให้เราจิตใจสงบลง     

 และจากที่ฉันคิดอยู่เสมอว่าไอคิโดใช้ความรุนแรง แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้วไอคิโดใช้สมาธิ ลมหายใจ และจิตใจไม่ควรวอกแวก ถ้าใจเราถึงอะไรก็มาลบความตั้งใจเราไม่ได้แน่     

  เมื่อก่อนตัวดิฉันเป็นคนใจร้อน แต่พอได้เล่นไอคิโดแล้ว ทำให้ฉันสามารถสงบอารมณ์ได้ ใครมาพูดอะไรฉันก็ยอมรับฟัง  

ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน คนส่วนมากจะไม่รู้จักไอคิโด เพราะไอคิโดไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการเผยแพร่ให้คนรู้จัก แต่เป็นศิลปะป้องกันตัวที่ต้องใช้สมาธิ และลมหายใจ

 

 ที่อำเภอปางมะผ้า มีเด็กเข้าร่วมฝึก 4-5 คน รวมตัวฉัน และมีผู้ฝึกต่างโรงเรียน คือโรงเรียน ศูนย์ปางมะผ้าตามโครงการพระราชดำริ ซึ่งเขาไม่มีโอกาสที่จะได้ฝึกมากเพราะครูผู้สอนได้ไปสอนแค่ทุกวันเสาร์ และบางเสาร์ก็ไม่ได้ไปสอน

ในขณะที่ตัวฉันและเด็กๆมีโอกาสที่จะได้ฝึกมากกว่า บางเดือนก็ไปสอนแค่ 2-3 ครั้ง ซึ่งตัวดิฉันและเด็กๆก็ไปช่วยสอนอีก  รุ่นดิฉันก็ไม่มีผู้ฝึกมาก มีประมาณ 2-3 คน และมีเด็กมาร่วมฝึก 5-6 คน อายุประมาณ 7-9 ขวบ แต่ถ้ารวมกับ โรงเรียน ศูนย์ปางมะผ้าก็รวมเป็นสิบกว่าคนได้  

รุ่นของดิฉัน ตัวใหญ่แต่ใจปลาซิวคะ ตัวโตซะเปล่า แต่ถ้ามาให้เล่นไอคิโดแล้ว มาฝึกได้แค่ 30 นาทีก็ไม่ถึง หายหัวไปหมดแล้ว     

แต่สำหรับตัวดิฉันแล้ว ดิฉันคิดว่าไอคิโดเป็นศิลปะป้องกันตัวที่เหมาะกับฉันมากที่สุด เชื่อไหมคะฉันเคยเล่นมวยไทยมาก่อน ซึ่งเป็นพ่อฉันเองที่สอน

พ่อของฉันอยากให้ดิฉันเกิดมาเป็นผู้ชาย พอพ่อของฉันรู้ว่า แม่ฉันเกิดลูกเป็นผู้หญิง  พ่อฉันโกรธมาก พ่อบอกว่าจะเอาฉันไปจ่อมเบ็ดปลาซะเลย อุ้ย! เผลอพูดไปซะไกลเลยเรามาคุยต่อกันเลยนะคะ      

 พอฉันเล่นมวยไทยแล้วฉันรู้สึกว่าฉันไม่เป็นตัวของฉันเองเลย ฉันเลยเลิกเล่นและได้เห็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนมาเล่นไอคิโด ฉันเห็นแล้วฉันอยากเล่นมากๆ แต่ฉันก็ยังไม่กล้าเข้ามาเล่น     

พอถึงปี 2550 ฉันเห็นเด็กๆมาเล่น ฉันเลยมาเล่น เพราะฉันคิดว่ามันเป็นศิลปะป้องกันตัวที่ท้าทาย แต่พอมาเล่นแล้ว คือ  การหนีเพื่อชนะ 

จำไว้นะคะ ถ้าคุณเจ๋ง รักจะฝึกไอคิโด คุณอย่าตัวโตแต่ใจปลาซิวนะคะ

---------------------------------------------------------------------------------------

เกี่ยวกับผู้เขียน

  <p style="margin: 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center"></p> <p style="margin: 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center"> </p> <p style="margin: 0pt; text-align: center" class="MsoNormal" align="center"></p> ด.ญ. ยู่ยี่  ไม่มีนามสกุล อายุ 14 ปี ชาวไทใหญ่   <p style="margin: 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> ยู่ยี่เป็นเด็กหญิงที่คมทั้งดวงหน้าและถ้อยวาจา นิสัยกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว สมกับเป็นพี่สาวคนโตที่ต้องดูแลน้องๆอีก 3 คน</p>   <p style="margin: 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> อาจกล่าวได้ว่าเธอเด็กหญิงชาวไทใหญ่ไร้สัญชาติที่ขยันที่สุดคนหนึ่งในสโมสรเยาวชนของเรา นับแต่วันแรกที่เธอเข้ามาฝึก ผมยังคงเห็นเธอมาซ้อมอย่างสม่ำเสมอ วันไหนที่เธอขาดฝึก หากไม่เพราะเธอป่วย ก็เป็นอันเชื่อได้ว่าเธอต้องไปทำงานช่วยพ่อแม่ที่ยากจนอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง</p>    <p style="margin: 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> นอกจากไอคิโดแล้ว เธอยังเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของสโมสร ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย งานทำสื่อ หรืองานบำเพ็ญประโยชน์อื่นๆ เรียงความนี้ เป็นส่วนหนึ่งจากความรู้สึกที่เธอยินดีถ่ายทอดมา ณ โอกาสนี้</p>   

หมายเลขบันทึก: 140917เขียนเมื่อ 22 ตุลาคม 2007 17:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ลุงว่าหลานเก่งมากเลย เพราะลุงนี่แหละปลาซิวตัวจริง ลุงวางแผนเอาไว้เมื่อ สักสองปีมาแล้วว่าจะไปเรียนไอกิโด หลังจากเป็นแฟนพันธ์แท้ของ steven seagull แต่ก็อ้างโน่นอ้างนี่ ไกลบ้าง เวลาไม่ว่างบ้าง เหนื่อยบ้าง เลี้ยงลูกบ้าง อายุพอๆกับหลานยู่ยี่นี่แหละ สงสัยต้องไปเสียแล้ว อายหลานน่ะ ขอบคุณนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท