ชาวเพลงดีใจได้พบศิลปิน (ตอนที่ 4) ปฏิบัติร้องเพลงแหล่
ชาวเพลงของผม
ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่แล้ว
เป็นศิลปินชื่อดัง
เข้ามาขอฝึกหัดเพลงพื้นบ้าน
ตอนที่ 4 (ปฏิบัติร้องเพลงแหล่)
อาจารย์ครับ “เพลงแหล่ขึ้นต้นอย่างไรก่อนครับ ร้องไปเลยหรือว่าจะต้องเอื้อนเอ่ยก่อน”ผมแนะนำว่า “การร้องเอื้อนเอ่ยก่อนร้องเข้าเนื้อเพลง เป็นการโชว์เสียงให้ผู้ฟังมีความประทับใจตั้งแต่เริ่มต้น ให้ได้ฟังเสียงใส ๆ เพราะ ๆ สำหรับนักร้องที่มีน้ำเสียงดี ๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้นจะขึ้นเนื้อร้องไปเลยก็ได้ หากไม่ต้องการโชว์เสียง แล้วผมก็เอื้อนเอ่ยและร้องด้นสดเพลงแหล่ให้ฟัง เป็นแบบกลอนหก ใช้คำร้องน้อย จะร้องง่ายหน่อย”
โอ่..โอ้.. โอ โฮ๊ะ โอ โอ้ โอ... เอ่อ เอย.. เออ เอิ้ง เงอ.. เอ่อ เอย..
ได้พบหน้า....มาจากไหน เพื่ออะไร ได้แถลง
เปิดเผยใจ ให้ชี้แจง รักสีแสง หรือแสร้งทำ
จากนักแสดง แปลงเป็นร้อง ฝึกทำนอง ที่สูงล้ำ
ด้นกลอนสด ไม่จดคำ เราต้องนำ ปฏิภาณ
เอาไหวพริบ หยิบจับมา..เงอ..เห็นตรงหน้า อย่ามองข้าม
คิดสร้างสรรค์ ปั้นแต่งตาม มีถ้อยคำ มาร้องเพลง....
ท่วงทำนอง ของเพลงแหล่ ไพเราะแท้ แหล่ตรงเผง
ฟังก็ง่าย รู้ได้เอง นักฟังเพลง ชอบมานาน
มีเทศนา มหาชาติ ที่เขาจัด สิบสามกัณฑ์
กัณฑ์ทศพล หิมพานต์ มหาพน นั้นนุ่มนวล
เพราะน้ำเสียง ที่ออกมา คล้ายกับว่า เป่าลมหวล
เสียงปี่ชวา มาคร่ำครวญ ให้โหยหวน จวนขาดใจ...
“โอ้โฮ เยี่ยมมากเลยครับ แล้วผมจะขึ้นต้นอย่างไร” ผมจึงบอกไปว่า “อยากร้องเอื้อนไหม ถ้าต้องการร้อง ก็ฝึกร้องตามผมนะ ผมก็สอนให้ร้องกันทีละวรรคไปเลย เพียงครู่เดียวเขาก็ร้องเกริ่นเอื้อนเอ่ย ก่อนที่จะเข้าเนื้อร้องเพลงแหล่ได้”
แต่มาถึงตรงนี้ การหาคำร้องที่จะนำเอามาใส่ในแต่ละบรรทัดซึ่งใน 1 บทกลอน จะมี 4 วรรค วรรคละ 6 คำ (ใน 1 วรรค ยังแบ่งเป็นหน้า 3 คำ และหลัง 3 คำ) ผมแนะนำให้เห็นว่า “คำที่นำมาร้องจะต้องผู้สัมผัสกันให้ได้อย่างลงตัว โดยตัดสัมผัสในออกไปก่อน เมื่อหาคำได้คล่องแล้ว ค่อยผูกสัมผัสในทีหลัง”
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt; line-height: 120%" class="MsoNormal"> เขาถามผมเกี่ยวกับการเอื้อนเอ่ยเสียงในระหว่างที่กำลังเดินเนื้อร้องเพลง เป็นการเอื้อนคั่นจังหวะว่า “จะมีหลักการอย่างไร ควรที่จะเอื้อน (เอิ้ง เหง่อ เอิ้ง เงอ เออ เอิ้ง เหง่อ เอิ้ง เงิ้ง เงอ …) ตรงไหน” ผมอธิบายตามความเข้าใจว่า “ส่วนมาก จะเอื้อนเสียงตอนที่มีเนื้อหาสำคัญ ๆ เพื่อที่จะได้ร้องทวนใหม่อีกเที่ยว และบางคนมีวิธีเอื้อนเอ่ยเสียงที่ดี เป็นการโชว์ลีล่าอีกนั่นแหละ ส่วนว่าจะเอาไว้ตรงไหน ก็แล้วแต่ดุลพินิจของผู้ร้อง”</p><p> ฝึกหัดร้องกันอยู่ได้สัก 30 นาที ดูท่าที่จะหาคำมาใส่ได้ยาก เนื่องจากข้อมูลเพลงแหล่ในตัวของผู้เรียนรู้มีน้อย ผมเลยเปลี่ยนกลอนไปเป็นร้องแบบกลอนเดียว ลงอักษรเดียวกันตลอดซึ่งจะหาคำร้องง่ายกว่า และถ้าลงด้วยกลอนไล จะยิ่งหาคำมาร้องได้มากว่าคำลงอื่น ผมร้องด้นกลอนสดให้ฟังก่อน เรื่องราวทำนองนี้ </p><p> เมื่อได้มา รับรู้ ได้มาดู ถึงที่ </p><p> สิ่งที่คิด ไว้ว่าดี ถึงตรงนี้ คิดใหม่ </p><p> นักร้อง เพลงแหล่ ตั้งแต่รุ่น เก่าก่อน </p><p> เขาต้องมี ครูสอน ฝึกกลอน ร้องให้ </p><p> ตั้งเรื่อง ขึ้นมา เออ เอิง เงิง เง๊ย แล้วก็หา คำร้อง </p><p> มีข้อมูล นำมากอง ในอากาศ หยิบมาได้ </p><p> เหลือบตา ขึ้นข้างบน มองเห็นผล เด่นชัด </p><p> คำไหลมาวาง บนบรรทัด จัดเอา มาใช้ </p><p> เรียกว่าด้น กลอนสด ไม่มีจด ไม่มีจำ เออ เอิ้ง เหง่อ</p><p> ทุกสำนวน ถ้อยคำ ไม่มีใครคาด คิดได้ </p><p> ว่าจะร้องประโยคไหน หรือจะร้องว่าอะไร ใครจะคิดไปก่อน</p><p> แต่พอมาได้ ฟังกลอน มันหาใช่คำ ที่นึกไม่ </p><p> ปัจจุบัน ทันด่วน ชวนให้ ไหลหลง </p><p> เป็นความวิจิตร บรรจง ที่กล้า ท้าทาย </p><p> ไม่มีอะไร ที่จะยาก เง้อ เอ่อ เออ เอิ้ง เงอ เอย. ลำบาก เกินเรียน</p><p> เป็นไปได้ ถ้าไม่เปลี่ยน อือ ..อื้อ ความตั้ง….ใจ </p><p> </p>
ความเห็น (1)
อยากแหล่เป็นต้องทำยังไง มีวิธีหัดร้องยังไง CD สอนมีรึเปล่าเนาะอยากได้