วรรณกรรมคำถาม 4 :วรรณกรรมที่รอคำตอบจากคุณ


เชื่อเถิดว่า พ่อแม่สอนย่อมดีที่สุด เพียงแต่จะสอนอย่างไรเท่านั้น?

วรรณกรรมคำถาม 4 :วรรณกรรมที่รอคำตอบจากคุณ 

 

        ผมมีวรรณกรรมคำถามอีกเรื่องหนึ่ง ที่จะให้ท่านทั้งหลายอ่านและตอบคำถามท้ายเรื่อง  วรรณกรรมเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เราต้องอาศัยโอกาสอันดีจากคำถามของเด็กที่แสนบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา นี้ สอนเขาให้เข้าใจเรื่อง เพศ   เพราะเป็นหน้าที่ของเราในฐานะพ่อแม่ จะหวังให้เขารู้เอง บางทีอาจจะสายเกินไป หรือเสี่ยงต่อผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้  แม้ในโรงเรียน ก็ยังไม่ค่อยให้ความรู้เรื่องนี้แก่เด็ก  ทำให้เด็กต้องเรียนรู้เองจากการลองผิดลองถูก  เชื่อเถิดว่า  พ่อแม่สอนย่อมดีที่สุด  เพียงแต่จะสอนอย่างไรเท่านั้น?   ลองอ่านเรื่องนี้ดูครับ       

 

6. หนูอยากมีน้อง

         ๐ คุณแม่ขา! ...หนูอยากมีน้องเด็กหญิงหน้าใส ตาแป๋ว จีบปากกับคุณแม่ในบ่ายวันหนึ่ง

คุณแม่ยิ้มกว้าง  ดึงเด็กหญิงมากอด หอมแก้ม แล้วพูดอย่างอารมณ์ดีว่า

 

          ๐ หนูไปบอกคุณพ่อสิคะ

 

          ๐ ทำไมต้องบอกคุณพ่อด้วยคะ?

 

เด็กหญิงเอียงคอถามอย่างน่ารัก

 

          ๐ ก็...คุณพ่อสามารถหาน้องให้ลูกได้ไงล่ะคะ

 

คุณแม่ตอบ ยิ้มละไม

           ๐ คุณพ่อจะไปหาน้องที่ไหนคะ?    น้องคนอื่นไม่เอานะคะ

             หนูอยากได้น้องในท้องคุณแม่

 

เด็กหญิงจิ้มนิ้วไปที่ท้องคุณแม่

 

          ๐ ค่า!..คุณแม่ทราบค่ะ , แต่..คุณแม่จะมีน้องได้ยังไง ถ้าไม่มีคุณพ่อ

 

          ๐ แล้ว...คุณพ่อจะทำยังไงล่ะคะ?  ก็คุณแม่ทำเองซีคะ , คุณแม่มีน้องในท้องได้   คุณพ่อมีน้องไม่ได้หรอก ,  คุณครูบอก ,  คุณครูบอกว่า หนูเกิดจากท้องของคุณแม่นี่คะ

 เด็กหญิงพูดเสียยืดยาว

คุณแม่เริ่มอึดอัด  พยายามหาเหตุผลมาอธิบายอย่างจริงจัง

 

         ๐ ใช่ค่ะ!  , หนูเกิดจากท้องของคุณแม่ , แต่คุณพ่อ กับ คุณแม่ ต้อง...เอ่อ... ต้องรักกันเสียก่อน  จึงจะมีน้องได้

 

คุณแม่โล่งใจที่คิดคำตอบนี้ได้ 

 

         ๐ ก็...คุณพ่อกับคุณแม่ก็รักกันอยู่แล้วนี่คะ?  ทำไมถึงไม่มีน้องล่ะคะ

เด็กหญิงซักไม่ลดละ  ท่าทางสงสัยจริงๆ

คุณแม่เริ่มอึดอัดอีกครั้ง  เริ่มพูดเน้นย้ำ

 

         ๐ คือ...อย่างงี้ลูก ,  คือ คุณพ่อกับคุณแม่เนี่ย! ต้อง...นอนด้วยกันน่ะ

 

เด็กหญิงสงสัยอีก

 

         ๐ ก็ คุณพ่อกับคุณแม่ก็นอนด้วยกันทุกวันแล้วนี่คะ?

 

คุณแม่ไม่รู้ว่าจะหาคำตอบมาอธิบายได้อย่างไร ครั้นจะพูดตรงๆ ก็คิดว่าลูกคงไม่เข้าใจ และยังไม่ถึงเวลาจะรับรู้เรื่องเพศตรงๆ อย่างนี้  คุณแม่จนใจ  จึงพูดตัดบทว่า

 

         ๐ เอายังงี้ , คุณแม่สัญญาว่าจะมีน้องให้หนูก็แล้วกัน  ดีมั้ยคะ?

 

         ๐ ไชโย!....หนูจะมีน้องแล้วๆ  คุณแม่ต้องสัญญานะคะ  อุ๊บอิ๊บด้วย...!

 

เด็กหญิงตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ วิ่งตื๋อออกไปเล่นข้างนอก

  

คำถาม  :  ถ้าคุณเป็นคุณแม่  คุณจะอธิบายแบบเดียวกันนี้หรือไม่?  หรือจะหาทางบอกอย่างไรดี 

หมายเลขบันทึก: 137605เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2007 21:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 20:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
เป็นหนูก็ต้องอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ค่ะ
"คุณพ่อเป็นเพศชายมีสเปิร์ม คุณแม่เป็นเพศหญิงเหมือนหนู แต่เป็นผู้ใหญ่แล้วเป็นเรื่องปกติที่ร่างกายจะผลิตไข่ที่รอการผสม พอถึงเวลาที่เหมาะสมไข่ตกและได้รับการผสมโดยสเปิร์ม จากนั้นก็จะเริ่มขบวนการปฏิสนธิกลายเป็นเด็ก แต่ต้องรออีก 9 เดือน ถึงจะคลอดออกมากลายเป็นน้องของหนู" คือ...เลือกที่จะอธิบายให้เป็นวิทยาศาสตร์เข้าไว้ ไม่ต้องปิดบัง แต่ก็ไม่รู้สึกลำบากใจที่จะอธิบายค่ะ

--------------------------------------------------------------------

หนูตัดปัญหาเรื่องนี้โดยให้หลานดู "นิทานชีวิต... ชุดจักรกลของร่างกาย" เป็นการตูนที่ผลิตโดยประเทศฝรั่งเศส เคยเอามาฉายในบ้านเราด้วยสัก 20 ปีที่แล้ว มันเล่าเรื่องเด็กเข้าใจได้ดี เริ่มตั้งแต่การให้กำเนิดชีวิตจนโต เล่าเรื่องส่วนต่างๆ ในร่างกาย ระบบการทำงานทุกส่วน รวมถึงระบบสืบพันธุ์ การถ่ายทอดยีนส์ทางพันธุกรรม หลานชายก็เลยเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง ดูไปด้วยอธิบายเพิ่มเติมไปด้วยค่ะ ขออนุญาตแนะนำให้ท่านอื่นๆ นะคะ

ใครมีเด็กในบ้านแล้วสนใจก็ดูรายละเอียดได้ค่ะ เหมาะสำหรับเด็ก 4-5 ขวบขึ้นไปจนถึงเด็กโต เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี "Once upon a time...Life" หรือ "Il était une fois... l'Homme"
มีตัวอย่างให้ดูเป็นคลิปวิดีโอด้วย และมีตอนอื่นๆ นอกจากชุดจักรกลของร่างกายด้วย น่าสนใจมาก เสียดายที่ไม่มีใครนำมาฉายในเมืองไทย





โอ๊ะโอ๋ ลิงค์ชุดภาษาอังกฤษผิดพลาด พิมพ์ h เกินไปตัวนึง ขออภัยค่า เอาใหม่ "Once upon a time...Life"

สวัสดีด้วยความระลึกถึงอย่างสูงค่ะพี่กรเพชร

วรรณกรรมคำถามของพี่กรเพชรสนุกชะมัดเลยค่ะ  มีคุณค่าในการฝึกคิดมากด้วย  แอมแปร์ตามตอบในใจอย่างคล่องแคล่ว (แปลว่ารู้สึกว่าตอบได้)จนกระทั่งมาถึงบันทึกนี้  .....ก็เริ่มไม่ใคร่แน่ใจ  โชคดีที่หลานไม่เคยถามตรงๆ  เพราะถ้าถาม  แอมแปร์ก็คงตอบหลานไม่ถูก  รู้สึกลำบากใจ  ไม่รู้จะอธิบายยังไง

ที่จริงเด็กๆเขาไม่ได้คิดอะไรมากมายเลย  บางทีเราก็กังวลไปเอง  บางเรื่องแอมแปร์ก็เคยเผลอตัดบทหลานเหมือนกัน 

ประทับใจคำตอบของน้องซูซานจังค่ะ  มีสื่ออธิบายด้วย  ดีจัง  ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีครับคุณP

          อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ววาดรูปประกอบด้วยน่าจะช่วยได้มากครับ   เป็นคุณแม่ที่ดีได้แล้วครับ  เรื่องเพศศึกษาในประเทศไทยดูจะยังไม่ทันสมัยเหมือนประเทศอื่น เด็กๆ ของเรายังไม่เช้าใจเรื่องพวกนี้อีกเยอะ  ลองอ่านคอลัมน์หมอนพพรดูสิ  บางทีถามอะไรแล้วก็คาดไม่ถึงว่าจะไม่รู้ถึงขนาดนั้น

น้องP

          สวัสดีด้วยความระลึกถึงเช่นกันครับ  เด็กไม่คิดอะไรมากมาย  คงต้องระวังเหมือนกัน  เพราะบางทีการไม่คิด เด็กจะใช้จินตนาการแทนความคิดและจินตนาการของเด็กนี่แหละอาจจะทำร้ายเด็กในภายหลังได้เหมือนกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท