เมื่อวานผมได้ไปประชุมกลุ่มย่อยในการสรุปประเด็นการรับฟังความคิดเห็นเรื่อง “พรบ น้ำแห่งชาติ”
ผมประทับใจและซึ้งใจกับเพื่อนร่วมงานที่ทุกท่านทำงานแบบอิงระบบ แบบสุดๆ
เพื่อความสะดวกในการเล่าเรื่องที่ไม่กระทบใคร ผมขอใช้ตำแหน่งสมมติในการทำงานแทนชื่อในการเล่าเรื่องนะครับ
“ท่านประธาน”
ปัจจุบันเกษียณแล้วจากตำแหน่งบริหารระดับสูง จึงมีคนในหน่วยงานนับถือมาก มีลูกน้องเก่ามาก
พูดอะไรมักจะไม่ค่อยมีคนขัด จะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยก็ไม่แน่ใจ ไม่มีใครแย้ง
แต่ท่านก็ทุ่มเท พยายามทำให้ทุกคน (รวมทั้งผม) ที่ร่วมงานทำงานแบบ “อิงระบบ” “เชิงประจักษ์” เอาใจทุกฝ่ายกันทุกคน ที่ทำให้ทั้งฝ่ายรัฐ ประชาชน และข้าราชการได้ร่วมกิจกรรมกันอย่างเต็มที่
เพื่อให้ พรบ. มีจุดอ่อนน้อยที่สุด ถูกใจทั้งชาวบ้าน คณะกรรมการกฤษฎีกามากที่สุด
และทันเวลาในทุกเรื่อง การส่งงาน และแม้แต่เวลากลับบ้านของผู้เข้าร่วมประชุม
“ท่านหัวหน้า”
เป็นนักวิชาการประสานสิบทิศ ทุกฝ่าย ทำงานแบบ “ไม่บ่น ไม่จน ไม่เจ็บ” ทั้งด้านการทำแผนงาน ความคิด ความบันเทิง การวิเคราะห์ข้อมูลบนรถหลังการประชุมทุกครั้ง
และการทำงานแบบทุ่มเททั้งส่วนตัว และครอบครัวในการทำงานโครงการนี้ (และอีกหลายโครงการ)
“ท่าน ผอ.”
เป็นเจ้าของงานที่ต้องการเห็นผลสัมฤทธิ์ ทั้งเสร็จ และสำเร็จ
ช่วยประสาน และสนับสนุน ทุกอย่างในทุกมุมที่ตัวเองทำได้ ไม่สนใจขีดจำกัดของระเบียบราชการ
“ท่านผู้ใหญ่”
เป็นข้าราชการเกษียณแล้วเคยมีตำแหน่งและบารมีสูง ปัจจุบันทำหน้าที่ประสานงานกับนักวิชาการและนักบริหารระดับพื้นที่แบบสุดๆ ในทุกเรื่อง เช่นเดียวกัน
“ผม”
เป็นตัวประสานความคิดของชุมชน NGO กลุ่มองค์กร เพื่อให้ได้ความคิดจากภาคประชาชน และสาธารณะทุกภาคส่วน ให้ผู้คณะกรรมการกฤษฎีกาที่ออกกฎหมายได้รับรู้และนำไปปฏิบัติ
“คณะกรรมการกำกับการทำงาน”
ก็ประกอบด้วยคนที่ทุ่มเท อยากเห็น พรบ คลอดแบบทันเหตุการณ์ ก่อนที่น้ำ(การเมือง) จะลง แบบ “น้ำขึ้นให้รีบตัก”
ผิดนิดผิดหน่อย ช่วยกันดู ช่วยกันแก้ เสนอแนะแบบกันเองสุดๆ และสร้างสรรค์ แบบ กัลยาณมิตร
รีบอนุมัติ รีบเบิกจ่ายให้ทัน “ความจำเป็นการใช้เงิน” ของโครงการ และตามแผนงาน
“ทีมประเมิน”
ก็ติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิดทุกหนทุกแห่งที่โครงการจัดประชุม ดูทุกข้อด้อยที่จะทำให้งานช้า สะดุด ผิดเงื่อนไข
ที่จะทำให้การทำงานของเราไม่ผ่าน จึงทำให้เราแก้ไข “วิกฤติการทำงาน” แบบ นาทีต่อนาที
แม้ผมจะมีปัญหาเรื่องไวรัสคอมพิวเตอร์ ก็ยังมาช่วยแบบไม่เห็นแก่เหนื่อยยาก หรือตามหน้าที่ที่ “เจ้านายสั่งมา”
ถ้าผมไม่ได้ทีมงานแบบ “อิงระบบ” ที่ทำงาน ใจถึงใจ “เชิงประจักษ์” แบบครบทีมกันแบบนี้
อย่าได้หวังเลยว่า พรบ ดังกล่าวจะได้เข้า ครม ได้ทัน “กระแสน้ำ” ขึ้นให้รีบตัก ครับ
และก็อาจจะเป็นการสูญเปล่าแบบสมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับงาน “ราชการ” ส่วนใหญ่ที่เคยเห็นมา ครับ
ท่าน ดร.แสวง ครับ
อ่านแล้วเห็นถึงความเชื่อมโยงของตัวละคอนทุกตัวที่อาจารย์สมมมติขึ้นมา.....เชื่อมกันด้วยใจจริงๆ...งานจึงเสร็จทันกำหนด พ้นวิถีราชการไปได้....นี่ถ้าเป็นแบบราชการจ๋า...ผลจะเป็นอย่างไรก็น่าจะรู้ๆกันอยู่
เป็นกรณีศึกษาที่ดีครับ
สวัสดีครับท่าน ดร.แสวงครับ