ต่อจากบันทึก ทำอย่างไรให้เกิดการรวมตัวของคนพิการทุกประเภทได้สำเร็จ
โจทย์ “ทำอย่างไรให้เกิดการรวมตัวเพื่อสร้างพลังของคนพิการทุกประเภทได้สำเร็จ”
กลุ่มเป้าหมาย ต้องเป็นคนที่สนใจ
และมีประวัติความพยายามดำเนินงานเพื่อคนพิการมาก่อน
กลุ่มเป้าหมายหลัก 30 คน ประกอบด้วย
ตัวแทนคนพิการและญาติจากชมรมเพิ่มพูนพลังคนพิการ อ.เขาชัยสน 5
คน
ตัวเทนคนพิการจาก อำเภอที่เหลือ อีก 10 อำเภอ ใน จว.พัทลุง (ยกเว้น
อ.เขาชัยสน) อำเภอละ 1 คน รวมเป็น 10 คน
ตัวเทนคนพิการจากสมาคมคนตาบอด จว.พัทลุง 5 คน
นายกสมาคมคนพิการจังหวัดพัทลุง 1 คน
ตัวแทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 5 คน แยกเป็น
สสจ.พัทลุง 2 คน
พมจ.พัทลุง 1 คน
การศึกษาพิเศษจังหวัดพัทลุง 1 คน
ศูนย์ฝึกอาชีพฯ (อ.ควนขนุน) 1
คน
กลุ่มเป้าหมายสังเกตการณ์ ... คน (แล้วแต่ทาง สวรส.ภาคใต้ มอ.)
สถานที่ อ.หาดใหญ่ ก็ได้ ได้ปรึกษาลุงช่วง เรื่องจันทร์ แล้ว ท่านมีความเห็นว่าเห็นด้วย และเพื่อว่าจะได้ให้คนพิการได้กินช้อนยาวบ้างตามที่ท่านเคยกล่าว และได้เปิดหู เปิดตา (บางคน)
ระยะเวลา 2 วัน 1 คืน (4-5 หรือ 11-12
ก.พ. 2548) ลองปรึกษากันดูอีกทีก็ได้
ตารางที่สำคัญ ๆ นะครับ
วันแรก
08.00 – 09.00 น. ลงทะเบียน เปิดเวที และทำความรู้จักกัน
09.00 – 11.00 น. เรื่องเล่าประทับใจ
“การเคลื่อนไหวให้คนพิการเข้าถึงสิทธิ”
11.00 – 12.00 น. ช่วยกันสกัดขุมความรู้จากเรื่องเล่าประทับใจ
12.00 – 13.00 น. พักรับประทานอาหารเที่ยง
“สุมหัวคุยกันบนโต๊ะอาหาร”
13.00 – 13.30 น. ได้อะไรจากบนโต๊ะอาหารเพิ่มอีกบ้าง
“นำมาเติมในขุมความรู้”
13.30 – 14.30 น. แบ่งกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม “เกมส์กลุ่มสัมพันธ์”
และสรุปบทเรียนจากเกมส์
14.30 – 16.00 น. แบ่งกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม
“คิดแผนเดินเรื่องสร้างพลังจากการรวมกลุ่มของคนพิการทุกประเภท”
16.00 – 16.30 น. รวมกลุ่ม “ถอดบทเรียนประจำวัน”
16.30 – 18.30 น. พักผ่อนตามอัธยาศัย
และร่วมรับประทานอาหารเย็น
18.30 – 20.00 น. แบ่งกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม
“นำเสนอผลการยกร่างแผนฯ”
วันที่สอง
06.00 – 07.00 น. ร่วมกันออกกำลังกายตอนเช้า
07.00 – 08.30 น. รับประทานอาหารเช้าร่วมกัน
08.30 – 09.00 น. เกมส์ “ทบทวนการเรียนรู้เมื่อวาน”
09.00 – 11.00 น. แบ่งกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม
“แผนเดินเรื่องสร้างพลังจากการรวมกลุ่มของคนพิการทุกประเภท
ส่วนเติมรายละเอียด”
11.00 – 12.00 น. แบ่งกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม “นำเสนอแผนฯ”
12.00 – 13.00 น. พักรับประทานอาหารเที่ยง
“สุมหัวคุยกันบนโต๊ะอาหาร”
13.00 – 13.30 น. ได้อะไรจากบนโต๊ะอาหารเพิ่มอีกบ้าง
“นำมาเติมเต็มในแผนฯ”
13.30 – 14.30 น. แบ่งกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม
“เกมส์นำแผนสู่การปฏิบัติ และกำหนด RaodMap”
และสรุปบทเรียนจากเกมส์
14.30 – 15.30 น. รวมกลุ่ม “ร่วมอภิปราย ปรับแผน และเชื่อมต่อ
RaodMap”
15.30 – 16.00 น. รวมกลุ่ม “สร้างปฎิญญาเครือข่ายฯ
ความร่วมมือ”
16.00 – 16.30 น. รวมกลุ่ม “AAR เวที ลปรร.”
16.30 น. เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
วิทยากรนำ (แล้วแต่ทาง สวรส.ภาคใต้ มอ.)
ในขณะที่คนกลุ่มหนึ่งมุ่งมั่นที่จะพยายามผลักดันสิทธิและสิ่งที่พึงควรจะได้ในกลุ่มคนพิการเพื่อที่จะให้เขาได้ยืนหยัดอย่างสง่างามในสังคม...ภายใต้ศักดิ์ศรีของความเป็นคน...แต่ในกลุ่มคนที่มีอำนาจในภาครัฐกลับผลักดันให้เขาเป็นผู้ไร้ซึ่งคุณค่าที่ควรพึงมีด้วยการใช้ตัวล่อด้วยจำนวนเงินเพียงไม่กี่บาทต่อเดือน..เพื่อให้เขาเหล่านั้นไปขึ้นทะเบียนผู้พิการ...นอกจากเงิน..ที่จะได้ในแต่ละเดือนเพียงเล็กน้อย...มากกว่านี้ได้อะไร..ทั้งๆ ที่ศักยภาพที่เขายังคงมีเหลืออยู่สามารถที่จะพัฒนาต่อไปได้บ้างเพื่อทดแทนสิ่งที่เขาขาดหายไป...แต่กลับต้องมาถูกตีตราด้วยทะเบียนของคนพิการ..และถูกตัดโอกาสที่ควรพึงได้ในสังคม...
ท่านผู้เขียนมีความคิดเห็นอย่างไรกับการที่คนพิการ...เดินขายของตามร้านอาหาร เช่น...ขายขนม..ขายดอกไม้...หรืออื่นๆจิปาทะคะ
ตอบที่ค้างเก่าประเด็นแรก
จะแฟร์ไหม หากผมจะมองว่าการขึ้นทะเบียนเป็นเพียงกลไกของภาครัฐ ที่มาช่วนหนุนเสริมความพยายามให้เขา (ที่เหมือนเรา) ได้รับสิทธิอันพึงมีพึงได้ในการเพิ่มโอกาสแห่งการเข้าถึง เพราะความพิการของเขาทำให้การเข้าถึงโอกาสนั้นลดน้อยลง ขึ้นอยู่กับผู้ที่นำไปปฏิบัติครับว่าเป้าอยู่ที่ "ให้เขาเข้าถึงสิทธิ" หรือ "ให้เข้าได้ขึ้นทะเบียน" ถ้าอย่างหลังเห็นด้วยกับคุณ Dr.poomnui ทุกประการ
โจทย์ “ทำอย่างไรให้เกิดการรวมตัวเพื่อสร้างพลังของคนพิการทุกประเภทได้สำเร็จ” มีข้อมูลอยากที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้..เกี่ยวกับการสร้างความรู้ (Knowledge management) ภายใต้แนวคิดฐานทฤษฎี Cognitive Learning Theoryเพื่อให้เกิดความยั่งยืน...ในการรวมตัว.. เพื่อให้เขาเกิดกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดมาจากภายในของตัวเอง...แล้วนำกระบวนการ KM มาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนต่อไป...เพราะมนุษย์นั้นเกิดกระบวนการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา หากเราสามารถออกแบบสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่ตอบสนองให้เขาเกิดการเรียนรู้ได้อยู่ตลอดเวลา..ก็สามารถทำให้เขาเกิดความยั่งยืน...ในการสร้างความรู้..และนำมาเป็นพลังในการขับเคลื่อน..ในทุกๆเรื่องในชุมชนกลุ่มคนพิการ (ขออนุญาติใช้คำนี้)