ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี ได้มีการประกวดคัดเลือกและรวบรวมพันธุ์ข้าวพื้นเมือง (ปี พ.ศ. 2493 2495) เพื่อให้เกษตรกรนำไปปลูกกว่า 600 ตัวอย่าง ได้ข้าวพันธุ์ดีหลายพันธุ์ และหนึ่งในนั้นคือ ขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งต่อมาเรียกกันว่า “ข้าวหอมมะลิ”
ข้าวขาวดอกมะลิ 105 พบครั้งแรกในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดย นายจรูญ ตัณฑวุฒ ได้นำมาปลูกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 ต่อมา กรมการข้าว กระทรวงเกษตรได้รวบรวมข้าวพันธุ์ดีของประเทศจากอำเภอบางคล้าจำนวน 199 รวง ส่งไปปลูกคัดเลือกที่สถานีทดลองข้าวโคกสำโรง และในปี 2500 ได้นำไปปลูกเปรียบเทียบพันธุ์ท้องถิ่นในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน คณะกรรมการพิจารณาพันธุ์จึงได้ออกประกาศให้พันธุ์ “ ขาวดอกมะลิ” เป็นพันธุ์รับรองเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2502 โดยใช้ชื่อว่าขาวดอกมะลิ 105 ที่มีชื่อเช่นนี้เพราะว่าจำนวนข้าวทั้งหมด 199 แถว ที่เจ้าหน้าที่เอารวงมาปลูกนั้น ต้นข้าวแถวที่ 105 ดีที่สุดมีเมล็ดยาว เรียว ขาวใส มีกลิ่นหอม จึงคัดเลือกแถวที่ 105 มาเป็นแม่พันธุ์ และเป็นพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่ปลูกกันทั่วประเทศในปัจจุบัน ที่เรียกชื่อพันธุ์ข้าวว่า ข้าวหอมมะลิ นั้นไม่ได้หมายความถึง ข้าวมีกลิ่นหอมเหมือนดอกมะลิ แต่เป็นเพราะข้าวที่ได้มีสีขาวเหมือนดอกมะลิแต่มีกลิ่นหอมเหมือนใบเตย เนื่องจากมีสารบางอย่าง เป็นตัวเดียวกับสารในใบเตยที่มีกลิ่นหอม และต่อมาก็เรียกเพี้ยนกันไปเป็น “ ข้าวหอมมะลิ”
ข้าวหอมมะลิเป็นข้าวที่ไวต่อช่วงแสง หมายถึง พันธุ์ข้าวที่จะออกดอกในวันที่กลางคืนยาวกว่ากลางวันเท่านั้น นั่นคือในฤดูหนาว จนปัจจุบันข้าวหอมมะลิ เป็นข้าวไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของไทย มีสุภาษิตจีนบทหนึ่งได้กล่าวถึงข้าวหอมมะลิว่า “ก่อนตายต้องกินอาหารสี่อย่าง ถึงจะไม่อายฟ้า ดิน” (อนันต์ ดาโลดม , 2545 )
ที่มา :
d ครับได้รู้จักความเป็นมาของพันธุ์ข้าว
bvcytnfykpfjru;fdkitrnjjr