“อยากได้ข้อเสนอแนะทำนองนี้อีกมาก ๆ ครับ และถ้าจะกรุณาช่วยกันคิดแปลงเป็นวิธีปฏิบัติที่เข้าใจและสามารถลงมือทำได้โดยง่ายยิ่งจะมีประโยชน์มากยิ่งขึ้น”
ผมก็เอาคำถามนี้มาคิดและหารือกับเครือข่ายการพัฒนาภาคประชาชน หลายหน่วย เมื่อวานนี้ ในที่ประชุมสรุปบทเรียนการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ ของกระทรวงเกษตรฯ
สมาชิกแกนนำหลายท่าน เขาบอกให้ผมกลับมาบอก และยืนยันว่า
การทำงานเราจะเริ่มที่จุดที่อ่อนแอไม่ได้
ต้องเริ่มที่จุดมีพลัง เข้มแข็ง ชัดเจน ที่พร้อมจะระเบิดขยายผล
แบบเดียวกับระเบิดปรมาณู ที่จะต้องเริ่มด้วยการยิงนิวตรอน เข้าไปที่อะตอม (ปรมาณู) ของโลหะหนัก ที่มีพลังสูงอยู่ในตัว
นิวตรอน คือ Knowledge
การยิงนิวตรอน คือ วิธีการทำงานที่ได้ผล (หรือ Best practice)
ที่ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนเชิงแนวคิด และ เกิดแรงระเบิดจากข้างใน ของโลหะหนัก หรือ “บ่มเพาะจนหนัก” (เพราะสังคมมีชีวิต เจริญเติบโตได้) ของ “สังคมอุดมปัญญา” (Community of practice) ที่ไม่ต้องมีมาก แม้แกนก็มีแค่ ไม่กี่ครัวเรือนก็ได้ แต่ต้องพร้อมระเบิด เป็นเงื่อนไขหลัก
การทำงานแบบเครือข่ายที่มีพลังสูง มีกิจกรรมอยู่แล้ว มีแกนนำ และสมาชิกที่มีความพร้อมสูง ที่จำเป็นต้องมีการค้นหาในชุมชน ในเขตพื้นที่ทำงานของแต่ละพื้นที่
จากประสบการณ์พบว่า นักวิชาการไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องนี้ แต่กลับทำตามสะดวกของตัวเอง ที่มักพลาด ในการหาที่จุดระเบิดจากข้างใน และกลายเป็นงานที่ไม่เกิดการขยายผลเท่าที่ควร ประสิทธิภาพต่ำ
ซึ่งเปรียบเสมือนการจุดระเบิดในจุดที่ระเบิดยากนั่นเอง แม้จะใช้ความพยายามมากเท่าใด ก็จะไม่ค่อยได้ผล
ผมจึงหวังว่า มหกรรม KM ภูมิภาค ที่ ม. นเรศวร
ควรจะจุดประกายแนวทางการทำงานกับชุมชนแบบ “ระเบิดปรมาณู (นิวเคลียร์)” นี้ให้ชัด
ขอบคุณท่าน อ.แสวง และทีมงานมากครับที่กรุณาช่วยกันคิดและเสนอแนะ ผมได้ idea และเกิดความมั่นใจในการจัดมหกรรม KM ภูมิภาคมากขึ้นเยอะเลยจากบันทึกของอาจารย์ จะพยายามทำให้ดีที่สุด ขอบคุณอีกครั้งครับ
ผมขออนุญาตเพิ่มเติมอีกนิดนึงครับว่า ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ไม่ควรเริ่มต้นจุดระเบิดที่นักวิชาการ แต่เราควรรู้จักใช้ศักยภาพและทรัพยากรของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในอันที่จะมาเป็นเบ้าหลอมบ่มเพาะให้เกิดการจุดระเบิดจากภายในชุมชนและขยายผลต่อไปด้วยพลังของเครือข่าย
สวัสดีครับ
.... ต้องเริ่มที่จุดมีพลัง เข้มแข็ง ชัดเจน ที่พร้อมจะระเบิดขยายผล ...
ใช่เลยครับ ที่ผ่านมามีการออกแรง สูญเสียเวลาและทรัพยากรกันไปไม่น้อยเลย เพราะไม่ตระหนักในเรื่องนี้ .. ทำสิ่งที่ไม่ถนัด ทำในสิ่งที่ไม่รู้จริง .. ที่ควรจับมือกันได้ในเครือข่ายดีๆที่มีอยู่ก็ไม่ทำ กลับดันไปแข่งขันกันทำจนเข้ารกเข้าพงไปก็มีไม่น้อย .. อนิจจา !
ขออนุญาตเพิ่มเติมอีกนิดครับ
ตอนนี้ ถ้าเราจะใช้แนวคิดระเบิดปรมาณู เราต้องคิดและเตรียม
ที่ผมทำตอนนี้ ผมกำลังลองใช้
นี้เป็นตัวอย่างที่ผมทำจริงๆครับ
การทำนาแบบประหยัด ลคค่าใช้จ่าย และระบบการเกษตรพึ่งตนเอง ปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อม และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ
ขอบคุณครับ จะตามไปดูครับ
ผมกำลังสร้างเครือข่าย
ทำได้สัก ๒-๓ ครัวเรือนก่อนก็ได้ แล้วค่อยปล่อยให้ระเบิดทีหลัง
ทำไมเรารู้จักกันช้าจัง!!!!!!!!!
สวัสดีครับท่านอาจารย์แสวง
คุณเม้ง
มองภาพหินซ้อนกันแล้วเพิ่งเข้าใจความคิดของคุณมากกว่าที่คุยกัน
คุณคิดว่าแค่หินซ้อนกันก้พอใช่ไหม
แต่ผมกำลังมองวงกลมซ้อนกัน ที่อาจเข้าใจยาก แต่อธิบายเชิงแนวคิดได้ง่าย
OK ผมพอตามความคิดคุณได้ทัน
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับท่านอาจารย์