คืนวันเสาร์ที่ ๑ กันยายน ผมนั่งดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ระหว่างลิเวอร์พูล กับ ดาร์บี้ การคาดหวังให้ดาร์บี้ชนะลิเวอร์พูลนั้นเป็นความหวังที่ลมๆ แล้งๆ มาก แต่ทีมเสื้อขาวกางเกงดำก็มีโอกาสเกือบได้ประตูหลายครั้ง เกมส์ฟุตบอลก็เหมือนชีวิตที่ต้องอาศัยโชคบ้าง ผมคิดในใจว่า ถ้าลิเวอร์พูลขึ้นนำก่อนคงเลิกดู ปาฏิหาริย์อาจเกิดกับทีมฟุตบอลทีมเล็กๆ แต่ทว่าส่วนมากมันไม่ค่อยเกิด พอนาทีที่ ๒๙ ซาบี อลองโซก็ยิงประตูให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำด้วยฟรีคิกระยะไกล ผมกดรีโมตหนีทันที แต่นักฟุตบอลดาร์บี้ไม่มีรีโมตให้กด และพวกเขา ก็ต้องสู้ต่อไปจนจบเกมร์
...
แถวหอผมมีบ้านเช่าหลังหนึ่งชอบเปิดเพลงดัง ระยะนี้ไม่ปรากฏเสียงเพลงแล้ว อาจเป็นเพราะคนเปิดไม่อยู่ ผมคิดว่าเค้าคงไปอ่านหนังสือ เพราะช่วงนี้ใกล้จะสอบปลายภาค หรือไม่ก็คงไปที่ไหนซักแห่ง อาจเป็นงานกลุ่ม ผมอาจมองโลกในแง่ดีเกินไป แต่ผมว่าซักพักเค้าคงกลับมา แล้วเสียงเพลงจะดังขึ้นอีก มนุษย์ชอบอะไรก็มักจะชอบอยู่อย่างนั้น และเสียงเพลงของเค้าก็จะดังมากขึ้นในเวลาที่เค้าและเพื่อนตั้งวงสุรา ที่สำคัญคือเค้ายึดมั่นกับเพลงคาราบาวอย่างเหนียวแน่น หน้าบ้านของเค้ามีกระถางต้นไม้อยู่หลายกระถาง เวลาที่เค้าตั้งวงสุรา ต้นไม้ก็มักจะได้ส่วนแบ่งแอลกอร์ฮอไปหล่อเลี้ยงชีวิต แม้วันนี้คนเปิดเพลงจะไม่ค่อยเปิดเพลง แต่กระถางต้นไม้ก็ยังอยู่
ผมแอบสังเกตชีวิตของคนเปิดเพลงมาพอสมควร ด้วยความที่หออยู่ใกล้กัน เมื่อผมเห็นเค้าผมก็อดนึกถึงเพื่อนผมบางคนไม่ได้ คนที่รีบตื่นเช้าๆ มาอ่านหนังสือ รีบไปเรียน คนหนุ่มที่กระตือรือร้นในชีวิต และพร้อมจะสอบอยู่ทุกเมื่อ แต่คนเปิดเพลงไม่ใช่เด็กหนุ่มเช่นนั้น เขาอยู่ในประเภทจะถูกแม่ด่าหากแม่เค้ามาเห็นสภาพ ชีวิตของคนเปิดเพลงอาจเหมาะกับเพลงอะไรซักเพลงของคาราบาว แต่ก็ดีแล้ว ที่ตอนนี้เขาไม่ค่อยได้เปิดเพลงดัง ผมไม่เห็นเขาอยู่ในหอมาซักพัก .... ชีวิตรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิมอาจทำให้เค้าได้พบกับบทเพลงใหม่ๆ
ดาร์บี้แพ้ลิเวอร์พูลไป ๖ - ๐ โดยไม่มีเรื่องให้ประหลาดใจ ถ้าพวกเค้าแพ้แค่ ๑ - ๐ ก็คงจะดีกว่านี้ในเรื่องความรู้สึกที่เหมือนเกือบสู้ได้ สำหรับลิเวอร์พูลชัยชนะนัดนี้คงไม่ทำให้ทีมภาคภูมิใจได้เท่าการชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอลหรือเชลซี แต่ถึงอย่างไรชัยชนะก็เป็นสิ่งที่สมควรจะยินดี และบางกรณีแค่ไม่แพ้ก็เป็นเรื่องที่วิเศษที่สุดแล้ว
หากทีมอย่างลิเวอร์พูลคือคน ก็จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มีทั้งชื่อเสียงและเงินทองมากมาย คนที่ชื่อลิเวอร์พูลเวลานี้คงไม่ต้องกลัวยากจน แค่มีหน้าที่ไล่ล่าความสำเร็จต่อไป และความสำเร็จก็จะนำเงินทองมาให้มากขึ้นกว่าเดิม ลิเวอร์พูลจึงนึกแต่การเป็นอันดับ ๑ ผิดกับทีมอย่างพวก ดาร์บี้ หรือ รีดดิ้ง ที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น ใครรอดมาได้ก็ไม่แตกต่างจากการได้รับชัยชนะ โลกนี้มีชัยชนะหลายรูปแบบ เหอๆ
..........
ชีวิตของคนเรามีลักษณะคล้ายๆ กับฟุตบอลในลีก มีคนอยู่หัวตาราง กลางตาราง และท้ายตาราง ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครอยากอยู่ท้ายตารางหรอกครับ เรากลัวการตกอันดับ กลัวการต้องตกต่ำ เราดีใจเมื่ออันดับเราสูงขึ้น หลายคนในโลกมีชีวิตอยู่เพื่อแข่งขัน มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป มีคนจำนวนไม่น้อยเกิดมาท้ายตาราง โตมากลางตาราง แล้วก็ไปแก่ลงที่ท้ายตาราง บางคนมีบุญมีวาสนา เกิดมาก็อยู่หัวตารางเลย คนเรารวยบ้างจนบ้าง ทุนชีวิตมีแตกต่างกัน ความรักดีมีแตกต่างกัน โชคชะตามีแตกต่างกัน โอกาสในอันดับของตารางก็แตกต่างกัน
ในตารางของผู้ใหญ่บางคนที่จัดอันดับเด็กรักดี คนเปิดเพลงข้างหอผมอาจไม่ได้อยู่หัวตาราง แต่ถ้าเพื่อนๆ ในกลุ่มของคนเปิดเพลง จัดอันดับตารางของความเป็นเพื่อน เค้าก็อาจจะอยู่หัวตารางเลยก็ได้ ในแต่ละสังคมก็มีหลายตาราง หลายการแข่งขัน แม้แต่ในมหาวิทยาลัยนเรศวรก็มีการแข่งขันมากมาย ซึ่งผลที่ได้ก็คงแตกต่างกันไป ท่านผู้อ่านก็ลองคิดดูนะครับว่าเรากำลังแข่งขันในตารางไหน สิ่งไหนควรแข่ง สิ่งไหนที่จะนำผลการแข่งขันไปใช้ในชีวิตได้ ผมว่าทุกคนรู้ แต่จะทำหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง บางทีการแข่งขันกับความคิดฝ่ายต่ำอาจเป็นการแข่งขันที่ประเสริฐที่สุด
ช่วงแรกๆ ที่คนเปิดเพลงย้ายเข้ามาอยู่ ผมเคยนึกรำคาญเสียงเพลงที่บางวันอาจดังเกินพอดี แต่ตอนหลังผมคิดว่าผมอาจเข้าใจ - ทำไมเขาต้องเปิดเพลงเสียงดัง ... นั่นอาจเป็นเพราะเพลงที่ถูกเปิดให้ดังนั้น ยังช่วยยืนยันต่อสังคมอันกว้างใหญ่ว่า เค้ายังคงแข่งขันอยู่บนโลกใบนี้ ...
............ จบแล้วครับ ..............
อืม
ใ ช่ ไ ด้ เ น อ ะ ล า ว เ พ ช ร บู ร ณ์
คิดด้ายงายเนี่ย คิกๆๆ ดูบอลยังคิดดีเลย
______________________________________
สิ่งใดที่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด วันหนึ่งก้อย่อมกลับคืนสู่สามัญ
ชีวิตคนเปิดเพลง... เหมือนข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าชอบเปิดเพลงดังๆ แต่ฟังคนเดียว
ใส่หูฟัง ฟังจังหวะ ฟังเนื้อหา ฟังหัวใจ
เห็นด้วยนะคะ กับที่ว่า แค่ไม่แพ้ก็ดีแล้ว เหมือนกับชีวิตคนเรา เราจะต้องการอะไรมากไปกว่าความไม่มีโรคภัย มีบ้านให้อยู่ มีคนที่เรารัก และรักเรา
ตอบ ไม่แสดงตน
ตอบ น้องจุฑามาศ
สวัสดี หนูบีเวอร์
หนูนี่เหมาะจะเป็นนักเขียนนะ อ่านบทความหนูเมื่อไร เพลิน
ตารางชีวิตของคนเราแตกต่างกัน และแต่ละคนก็มีตารางหลายตาราง เมื่อหนูจบและมีงานอาชีพที่หนูชอบ และวันนั้นหนูก็จะเห็นตารางชีวิตอีกแบบ
ดีใจที่ได้อ่านบทความหนูเรื่อย ๆ
ขอบคุณป้าวิไลมากครับ
มีมุมมองที่อยากให้คิด...ชอบหัวเรื่องของน้องจัง..ชีวิตท้ายตาราง..จริงๆ แล้ว ถ้ามองอีกมุมนะว่าชีวิตท้ายตารางอาจมีแง่มุมที่ดีนะ การที่ไม่ได้อยู่ด้วยความคาดหวังของคนอื่น แต่ทำด้วยใจและมุ่มมั่นในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง..และไม่รู้ว่าผลจะออกมาดีหรือไม่ แต่มุ่งมั่นและตั้งใจ สำคัญกว่านะคะ..พี่ว่าบางคนที่เกิดมาในกลุ่มท้ายตารางอาจจะแซงหน้าคนที่อยู่เหนือตารางก้อได้ เพราะคนเหล่านั้นทำด้วยใจและไม่สนคนอื่น สนแต่ว่ามันสะใจและท้าทายตัวเอง...อิอิ
ตอนนี้ คนเปิดเพลงไม่อยู่หรือลูก สงสารกระถางต้นไม้บ้านคนเปิดเพลงจัง เวลาหิวน้ำก็ไม่มีขาจะเดินไม่มีปากจะบอกใครว่ามั้ย
........แม่คิดถึงเลยแวะมาทักทาย
ตอบ พี่กระบี่สี่ชมพู
ตอบ แม่