ครั้งหนึ่งทีอุตรดิตถ์


สิ่งแรกที่เขาแสดงความดีใจมากคือ เทียนพรรษาน้อย ใหญ่ที่เราขอจากวัดไป กอดไว้เหมือนหวงแหน

      จำได้ดี ว่าเช้าวันหนึ่งในปี 2548 ตื่นขึ้นมา พร้อมกับพบข่าวที่ เหมือนกันทุกช่อง คือ การเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มีบ้านเรือนที่สูญหายไปกับกระแสน้ำนับร้อยๆหลัง หมู่บ้านหายไป จากที่ตรงนั้นเหมือนไม่เคยมีสิ่งปลูกสร้าง และสิ่งมีชีวิตอยู่มาก่อน ภูเขายุบตัวลงมา และร่องดินสีแดงไหลมากองยังตีนเขา รู้สึกหนาวเยือกขึ้นในจิตใจ รู้สึกสงสาร  เป็นห่วงเขาเหล่านั้น และที่ยิ่งกว่านั้น ผู้เขียน มีนายแพทย์ที่คุ้นเคยท่านหนึ่ง เป็นสาธารณสุขจังหวัดอยู่ที่นั่น ด้วยความลำเอียง แอบนึกภาวนาว่า ขอให้เพื่อนเรา บังเอิญอยู่ในที่ปลอดภัยด้วยเถิด แต่ข่าวก็ออกอากาศว่า เขตอำเภอเมือง ก็ถูกกระแสน้ำ พัดผ่าน สร้างความเสียหายมากมาย

     พยายามโทรเท่าไหร่ ก็ติดต่อไม่ได้ จนสายวันนั้น คุณหมอก็     ปรากฎตัวในข่าวทีวี ยืนอยู่ที่ริมน้ำ โคลนท่วมรองเท้าบูท กำลังสาระวนช่วยคนอยู่ รู้สึกดีใจ และตัดสินใจบัดนั้นว่า เราต้องไปช่วยผู้ประสบภัย แล้วก็เริ่มรวบรวมสิ่งของ บอกบุญ และชวนเพื่อน อีก 3 คนขับรถปิกอัพไปกัน ข้าวของได้มากเกินควร จึงนำไปส่งที่ศาลากลางเสีย 1 เที่ยวรถเต็มๆ ส่วนของที่นำไปมีดังนี้ เทียนเล่มใหญ่ที่ขอจากวัด ชาม จาน ช้อน แก้วน้ำ ส่วนเงินที่ได้ ก็นำมาซื้อ ไฟแช็ก มุ้งหลังใหญ่ หมอน เสื่อ มีเพื่อนที่ไม่ได้ไป ซื้อหมูฝอย 20 กก. ฝากไปด้วย นี่เป็นสิ่งที่ผู้เขียนได้รับทราบความต้องการจาก คุณหมอหลังจากติดต่อกันได้ครั้งหนึ่ง และสัญญาว่า จะไปช่วย ท่านบอกว่า มีแต่คนเอาของแห้งมา แต่เขาทำกินไม่ได้ ไม่มีอุปกรณ์ แม้แต่อาหารที่เขามาบริจาค ก็ไม่มีช้อนชามใส่กิน และอยู่ในความมืดตลอดเวลา

   เป็นโชคดี ที่มีคนอุตรดิตถ์ที่รู้จักคนหนึ่ง อยู่ที่ศรีราชา ได้ติดต่อญาติเขาซึ่งบ้านไม่ได้ถูกน้ำท่วม มาพาเราไปพัก เมื่อเดินทางไปถึง พวกเราใช้ชีวิตอยู่กับสภาพอันน่าสังเวชนั้น 3 วัน เช้าก็เข้าหมู่บ้าน นำข้าวของที่พอจะนำติดไปได้ แจกจ่าย ให้กำลังใจเขา พูดคุย แล้วก็ให้ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เขาประสบเคราะห์กรรม ฝนยังตกอยู่เกือบทุกวัน พวกเขาจะนั่งมองระดับน้ำ เหมือนคนขวัญเสีย ได้ยินเสียลมฝนเมื่อใดขนหัวจะลุกขึ้นมาทันที เขาอยู่ในความมืดมาเป็นอาทิตย์ นั่งลืมตาโพลง กับการเฝ้าดูสิ่งเหล่านั้น  วันที่เราเข้าไปในหมู่บ้าน สิ่งแรกที่เขาแสดงความดีใจมากคือ เทียนพรรษาน้อย ใหญ่ที่เราขอจากวัดไป กอดไว้เหมือนหวงแหน บางคนก็จะนำไปตัดแบ่งกัน โชคดี ที่เราซื้อไฟแช็กไป ถูกน้ำก็ไม่เป็นไร อีกสิ่งหนึ่งที่เขาขอบคุณมากคือมุ้งคนที่มาช่วยจะเอาแต่ผ้าห่มมาให้ แต่มุ้งไม่มี เขานอนตากยุงกันมาหลายวัน ได้จานชามกันไป พอแจกจ่ายทั้งหมู่บ้าน เขาจะเอาไปใส่อาหารกลับมากินที่บ้าน เนื่องจากมีหน่วยมาตั้งทำอาหารเลี้ยงพวกเขา ก็ต้องเดินไปกินทุกมื้อ

   เมื่อเดินทางเข้าไปอีกหมู่บ้านหนึ่งชื่อ น้ำรี และน้ำต๊ะ ที่หมู่บ้านหายไปทั้งหมู่บ้าน จะหลงเหลืออยู่บ้างก็ไม่กี่คน มีเด็กวิ่งเล่นกันตามประสา คนโตก็เอาแต่นั่งเหมอลอย เขาเหล่านั้น เป็นผู้เป็นส่วนเหลือของแต่ละครอบครัว ไม่ใช่แม่ลูก ไม่ใช่พ่อลูก ไม่ใช่สามีภรรยา ทั้งนั้น เขานั่งอยู่ข้างๆกองถุงข้าวสาร อาหารแห้ง เสี้อผ้า แต่ก็ไม่ได้สนใจใยดี ยิ่งนานวัน สิ่งเหล่านี้ก็กองสูงขึ้นๆ เพราะเขาก็ไม่รู้จะเอาไปเก็บรักษาไว้ทีไหน

    ภัยพิบัติ ไม่ได้ทำลายแต่ข้าวของ และชีวิตคน สัตว์ เท่านั้น แต่ได้ทำลายความหวัง ของผู้ที่หลงเหลืออยู่ด้วย น้ำใจคนไทยไม่เคยเหือดหาย พบชาวชลบุรี ตั้งเต้นท์ ทำอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ อย่างตั้งอกตั้งใจ และจากคำบอกเล่า จะผลัดกันขึ้นมาเปลี่ยกันปฏิบัติงานนี้ อีกเป็นเดือน

   วันนี้ดูข่าวทีวี ว่ามีหลายพื้นที่น้ำท่วมอีกแล้ว จึงนึกขึ้นได้ว่า ถ้าใครจะขึ้นไปช่วยเหลือ ลองนำสิ่งของที่กล่าวมานี้ ติดไปบ้าง ก็จะช่วยเหลือที่ตรงประเด็น ตรงใจผู้ทุกข์ยาก เป็นที่สุด

    เช้าวันสุดท้ายก่อนกลับชลบุรี ได้เห็นพระธุดงค์รูปหนึ่งเดินผ่านหน้าบ้านที่พัก พวกเราจึงได้นำอาหารไปใส่บาตรท่าน ท่านให้พรยาว นาน  ทำให้รู้สึกได้ว่าการมาสร้างบุญ สร้างทานที่ดินแดนแห่งนี้ ช่างครบถ้วน สมบูรณ์แบบจริงๆ........   สวัสดีค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #น้ำท่วม#น้ำใจ
หมายเลขบันทึก: 127463เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2007 21:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่ บอกเล่าถึงสิ่งของที่จำเป็นจริงๆ ที่เราควรนำไปทำบุญค่ะ

สวัสดีค่ะพี่P

     และวันนั้น ได้ถามเขาว่าต้องการอะไรอีก เขาเขียนใส่กระดาษมามากมาย และมีอยู่ข้อความหนึ่งเขียนแล้วฆ่าทิ้ง แล้วเขียนอีก คือ อยากกินปลาร้าค่ะ

    สวัสดีครับ

  • เมื่อคืนดูข่าวเห็นท่านสมิธออกมาประกาศ เรื่องแผ่นดินไหว กลัวจะเป็นสึนามิ
  • การช่วยคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยากเป็นบุญกุศลที่ใหญ่หลวงนัก
  • ขอบคุณมาก

สวัสดีค่ะพี่P

  มีโอกาสก็ทำไปสุดกำลัง ไม่กี่ปีก็ หมดโอกาสแล้ว คราวสึนามิ ไปไม่ได้

สวัสดีครับ... ผมกำลังฟูมฟักตัวเองเพื่อกลับเข้าสู่โลกแห่งการบันทึกนี้../// อุตรดิตถ์ คือ ความทรงจำที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่พาน้องนิสิตเดินทางไปช่วยผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมโคลนถล่ม /// ... ทุกครั้งที่คนไทยประสบภัยพิบัติ เราก็จะเห็นชัดว่าน้ำใจคนไทยหลากไหลไปอย่างน่าชื่นชม /// ... แต่บทเรียนที่เราต้องกล้าที่จะเรียนรู้ก็คือ ต้นสายปลายเหตุของภัยธรรมชาติ ส่วนหนึ่งมาจากการเบียดเบียนของมนุษย์ /// เป็นวิถีการใช้ที่ไม่รู้จักความพอเพียง ... นี่คือบันทึกที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของผมกับน้องนิสิตนะครับ ..http://gotoknow.org/blog/pandin/69325 (มหกรรมคนอาสาหนีเรียนไปเกี่ยวข้าว) http://gotoknow.org/blog/pandin/86677 (กิ่วเคียน)

สวัสดีค่ะคุณPแผ่นดิน

   ห้ามหายไปนานๆอย่างนี้อีกนะ ชาวG2K เขาคิดถึงกันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท