เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ได้อ่านจากวารสารเพื่อนรักษ์สุขภาพจิตของกรมสุขจิต เหตุผลที่ได้อ่านเพราะเปลี่ยนการออกกำลังกายจากการเต้นแอโรบิกมาเป็นการปั่นจักรยานอยู่กับที่ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาก็เลยหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านขณะปั่น อ่านแล้วประทับใจมากจึงอยากจะเล่าให้ผู้อ่านคนอื่น ๆ ทราบด้วยเผื่อบางทีอาจจะสามารถนำไปใช้ได้กับตนเองและคนอื่น ๆที่อยู่รอบตัวเรา
คุณครูทอมป์สันโกหกนักเรียนชั้นป.5 ของเขาตั้งแต่วันแรก เพราะเขาบอกนักเรียนของเขาว่า”ครูรักนักเรียนทุกคนเท่ากัน” ที่ว่าโกหกเพราะว่ามีนักเรียนขี้เกียจคนหนึ่งชื่อ เท็ดดี้ สต็อดดารด์ ครูทอมป์สันได้จับตาดูเท็ดดี้มาปีหนึ่งและสังเกตเห็นว่าเขาจะเกเรกับเด็กคนอื่น นอกจานั้นเสื้อผ้าของเขายังสกปรกและตัวเหม็นหึ่งอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหากต้องให้ F ครูทอมป์สันจึงไม่ลังเล
นอกจากการสอนครูทอมป์สันยังต้องตรวจประวัติของเด็กแต่ละคนด้วย และครูก็ไม่ยอมดูประวัติของเท็ดดี้ จนกระทั่งเหลือแฟ้มสุดท้ายแต่เมื่อครูทอมป์สันตรวจแฟ้มเขาก็แปลกใจมากเมื่อพบว่าครูชั้นป.1 ของเท็ดดี้ระบุมาว่า”เท็ดดี้เป็นเด็กที่ฉลาดร่าเริง ทำงานเรียบร้อย มารยาทดีเป็นเด็กที่น่ารักมากทีเดียว” คุณครูที่สอนเท็ดดี้ตอนป.2เขียนว่า”เท็ดดี้เป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก เพื่อน ๆ ชอบกันทุกคนแต่กำลังมีปัญหาเพราะแม่ของเท็ดดี้กำลังป่วยหนักและชีวิตทางบ้านต้องลำบากมากแน่ ๆ “คุณครูที่สอนเท็ดดี้ตอนป.3 เขียนว่า”เขาเสียใจมากที่แม่เสียไป เขาพยายามเต็มที่แล้วแต่คุณพ่อก็ไม่ค่อยให้ความรักความสนใจเขาเท่าไหร่และชีวิตที่บ้านเขาต้องส่งผลกระทบต่อเขาแน่ ๆ ถ้าไม่มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ”คุณครูที่สอนเท็ดดี้ตอนป.4 เขียว่า”เท็ดดี้ไม่ยอมเข้าสังคมและไม่ค่อยสนใจการเรียนเท่าที่ควรไม่ค่อยมีเพื่อนและหลับในห้องเรียน”
ตอนนี้ครูทอมป์สันรู้ถึงปัญหาแล้ว เขารู้สึกละอายในการกระทำของตนเองและยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิมอีก เมื่อนักเรียนในห้องซื้อของขวัญวันคริสต์มาสมาให้ห่อกระดาษสีสด ๆ พร้อมผูกโบว์อย่างดี ยกเว้นของเท็ดดี้ถูกห่ออย่างหยาบ ๆ ด้วยกระดาษสีน้ำตาลที่ได้มาจากถุงใส่ของครูทอมป์สันกัดฟันเปิดกล่องของเท็ดดี้ เด็กบางคนเริ่มหัวเราะเมื่อเห็นเท็ดดี้ให้กำไลลูกปัดที่มีลูกปัดไม่ครบและน้ำหอมที่มีน้ำหอมเหลือติดอยู่แค่ก้นขวด แต่ครูก็หยุดเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ เมื่อครูเอ่ยขึ้นว่ากำไลเส้นนั้นสวยเพียงใด เขาสวมมันไว้ที่ข้อมือและฉีดน้ำหอมไปบนมือด้วย เท็ดดี้ สต็อดดารด์ พูดว่า”ครูทอมป์สันครับ วันนี้ครูตัวหอมเหมือนที่แม่ผมเคยหอมเลยครับ”
หลังจากที่นักเรียนทุกคนกลับบ้านครูทอมป์สันก็ร้องไห้อยู่เป็นชั่วโมง วันนี้เองที่ครูทอมป์สันเปลี่ยนจากการสอนหนังสือ สอนการเขียนและสอนเลขคณิต มาเป็นการสอน”เด็ก ๆ” แทนและคุณครูทอมป์สันเอาใจใส่เท็ดดี้เป็นพิเศษ เมื่อครูพยายามช่วยเขา จิตใจของเท็ดดี้ก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ยิ่งครูให้กำลังใจเขาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตอบรับเร็วขึ้นเท่านั้น ภายในสิ้นปีนั้นเท็ดดี้ได้กลายเป็นเด็กที่ฉลาดที่สุดในห้อง และแม้ว่าคุณครูจะบอกว่าครูรักเด็กทุกคนเท่ากัน แต่เท็ดดี้ก็ได้กลายเป็น”ศิษย์โปรด” ของครูไปเสียแล้ว
หนึ่งปีต่อมา คุณครูพบจดหมายใต้ประตู จดหมายนั้นมาจากเท็ดดี้ เขาบอกครูว่าคุณครูเป็นครูที่ดีที่สุด ที่เขาเคยที หกปีต่อมาครูก็ได้รับจดหมายจากเท็ดดี้อีก เขาบอกว่าเขาเรียนจบมัธยมปลายแล้ว สอบได้ที่สามของระดับและคุณครูก็ยังคงเป็นครูที่ดีที่สุดที่เขาเคยเจอมาในชีวิต สี่ปีหลังจากนั้น คุณครูก็ได้รับจดหมายอีกบอกว่าแม้ว่าชีวิตเขาจะลำบากบ้าง แต่เขาก็ไม่ทิ้งการเรียนหนังสือ และจะจบปริญญาตรีในเร็ว ๆ นี้ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งและยังย้ำกับครูทอมป์สันว่าคุณครูเป็นครูที่ดีที่สุดและเป็นครูคนโปรดของเขา
สี่ปีต่อมาก็มีจดหมายอีกฉบับหนึ่งจากเท็ดดี้ ครั้งนี้เขาอธิบายว่าหลังจากที่เขาได้รับปริญญาตรีแล้วและเขาตัดสินใจที่จะเรียนต่ออีก จดหมายนั้นอธิบายว่าคุณครูยังเป็นครูคนที่ดีที่สุดที่เขาเคยมี แต่ตอนนี้ชื่อของเขายาวขึ้นอีกหน่อย จดหมายนั้นลงชื่อว่า ด็อกเตอร์ทีโอดอร์ เอฟ. สต็อดดารด์
ฤดูใบไม้ผลิปีนั้นก็ยังมีจดหมายมาอีก เท็ดดี้บอกว่าเขาได้เจอสาวคนหนึ่งและจะแต่งงานกัน เขาอธิบายว่าพ่อของเขาได้เสียไปเมื่อสองสามปีก่อนและเขาไม่แน่ใจว่าครูทอมป์สันจะยอมมานั่งในที่นั่งสำหรับพ่อเจ้าบ่าวในพิธีแต่งงานหรือไม่ แน่นอนที่สุด ครูทอมป์สันต้องมาและทายสิว่าเกิดอะไรขึ้น คุณครูใส่กำไลข้อมือเส้นนั้น เส้นที่มีลูกปัดหายไปหลายลูกและฉีดน้ำหอมที่เท็ดดี้จำได้ว่าเขาฉีดตอนที่ฉลองคริสต์มาสครั้งสุดท้ายด้วยกัน ครูกับศิษย์กอดกันกลม และด็อกเตอร์เท็ดดี้ก็กระซิบในหูครูทอมป์สันว่า”ขอบคุณมากนะครับคุณครูที่เชื่อในตัวผม ขอบคุณมากที่ทำให้ผมรู้สึกสำคัญและแสดงให้ผมเห็นว่าผมสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้” ครูทอมป์สันกระซิบตอบพร้อมน้ำตานองหน้าว่า”ด็อกเตอร์เท็ด เธอเข้าใจผิดแล้วล่ะเธอต่างหากที่สอนครูว่าครูสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้ ครูไม่รู้จักการสอนจนกระทั่งครูได้พบและได้รู้จักเธอนั่นแหละ”
มีบทเรียนสองสามประการจากเรื่องนี้
ประการแรก อย่ามองแค่รูปร่างภายนอก แต่ให้มองถึงเนื้อแท้ของเขา คนบางคนภายนอกอาจดูไม่เอาไหนแต่เขาอาจเป็นอัญมณีอันทรงคุณค่าซึ่งรอคอยการเจียรนัยเหมือนอย่างเท็ดดี้ก็ได้
ประการที่สอง เมื่อเรามองเห็นใครคนใดคนหนึ่งเป็นอัญมณีอันทรงคุณค่าซึ่งรอคอยการเจียรนัยที่รอคอยการเจียรนัย การให้ความเชื่อถือในตัวเขาเป็นเรื่องสำคัญมาก เท็ดดี้คงไม่ได้เป็น ด็อกเตอร์เท็ดดี้หากไม่มีครูทอมป์สันที่คอยให้ความเชื่อถือในตัวเขา
ประการที่สาม เราทุกคนสามารถเป็น”ครูทอมป์สัน”ได้ มีคนแบบเท็ดดี้มากมายที่กำลังรอคอยคนอย่างครูทอมป์สันอยู่ ลองหันไปดูคนรอบ ๆ ตัวคุณซิคน ๆนั้นอาจเป็นคู่สมรสของคุณ เป็นลูก ๆ ของคุณหรืออาจเป็นเพื่อนร่วมงานของคุณก็ได้ เขากำลังรอ ”คุณ” อยู่ คุณเป็นครูทอมป์สันได้โดย
- เชื่อในตัวคนนั้น
- ให้กำลังใจและสนับสนุน
- ให้โอกาส ให้โอกาสและให้โอกาส
- เป็นเพื่อนซื่อสัตย์และจงรักภักดีของเขา
- จริงใจและไว้ใจได้เสมอ
- ปกป้องและประคับประครอง
- ปรารถนาดีและปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดี
ขอบคุณครูทอมป์สันทุกคน
สวัสดีครับ
ขอบคุณครับ ได้เรียนรู้หลายอย่างจากเรื่องนี้ครับ
ดิฉันรู้สึกว่ามีเทดดี้อยู่ข้างๆ คงต้องทำตัวเป็นคุณครูทอมสัน แทนที่จะเป็นแม่มดอย่างทุกวันนี้
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ...ดารณี