เมื่อมองย้อนกลับถึงสาเหตุของความยากจนของเกษตรกร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำการเกษตร โดยพยายามมองข้าม(เป็นการชั่วคราว) ทั้ง
· ลักษณะนิสัยการบริโภค
· การบริหารการเงินในครอบครัวของเกษตรกร
· สถานการณ์ทางด้านความเสื่อมโทรมของสังคม ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม
เราก็จะเริ่มมองเห็นลักษณะการทำการเกษตรที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตก่อนยุคการพัฒนาการเกษตรหรือ ปฏิวัติเขียว โดยเฉพาะการทำการเกษตรที่สอดคล้องกับ
· ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
· สังคมและความต้องการของตนเองo ไม่ค่อยมีการฝืน ดัดแปลง และทำลายธรรมชาติมากนัก เพราะถ้าทำลายจะอยู่ไม่ได้ ทำต่อไปไม่ได้
o ไม่ทำในสิ่งที่จะเกิดปัญหาทางสังคม และสิ่งที่จะทำให้เกิดผลเสียกับตนเอง
o ไม่ใช้สารพิษ
แต่เมื่อวิถีการผลิตทางการเกษตรเปลี่ยนไป มีการทำลาย
· ฐานทรัพยากร
· ระบบสังคม และ
· ระบบเศรษฐกิจของตนเอง
และ มีแต่พยายามพึ่งพาระบบที่เขากำลังทำลายอยู่โดยไม่รู้ตัว ทำให้ความสามารถในพึ่งตนเองลดลงไปเรื่อยๆ
จนแทบจะไม่มีช่องทางเหลือ ให้สามารถเลือกจัดการเพื่อการพึ่งตนเองได้ ทุกอย่างแทบจะตีบตันไปหมด ทั้ง
· จำนวน และความสะดวกของแต่ละทางเลือก
· ระบบความคิด แบบสวามิภักดิ์ระบบการผลิตกระแสหลัก
· ระบบความรู้ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ และ
· ระบบสนับสนุนที่คอยแต่จะดึงออกนอกทาง
จนเมื่อพอมาหารือ หรือคุยกันเรื่องการทำการเกษตรแบบพึ่งตนเอง ในกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ก็มีแต่บอกว่า “ทำได้ยากมาก”
เพราะทวนกระแสเกือบทุกด้าน แม้กระทั่งความรู้สึกของตนเอง
ดังนั้น การทำการเกษตรแบบพึ่งตนเองจึงต้องมีการพัฒนาทุกระบบไปพร้อมๆกัน และอย่างสอดคล้องกัน แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องเริ่มที่ระบบคิด เพราะเป็นแกนนำไปสู่ระบบ
· การค้นหาทางเลือก
· การค้นหาและพัฒนาความรู้
· การค้นหาศักยภาพ และพัฒนาระบบทรัพยากร
· การพัฒนาระบบคิด ระบบชีวิต และระบบการเกษตรที่เหมาะสมต่อ ทรัพยากร สังคม ครอบครัว และตนเอง
ระบบคิดในการค้นหาทางเลือก ก็ได้แก่ การเปิดช่องทางความคิด ให้รับเอาแนวคิดที่แตกต่างเข้ามาเปรียบเทียบ และประมวล เพื่อหาทางเลือก ในการทำงานและแก้ปัญหาต่างๆ ที่ดีกว่าเดิม
ระบบคิดในการค้นหาและพัฒนาความรู้ ก็ได้แก่การพัฒนา จิตวิญญาณ “นักวิจัยชุมชน” เพื่อการแก้ปัญหาในระบบต่างๆ ของตนเอง ในรูปแบบของ
· การวิจัยเชิงปฏิบัติการ ทำไฟปรับไป ให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา
· การวิจัยเชิงประจักษ์ ทำให้เห็นจริงๆ แล้วจึงขยายผล
· รวมทั้ง หมั่นตรวจสอบและแก้ไขอยู่ตลอดเวลา
ระบบคิดในการค้นหาศักยภาพ และพัฒนาระบบทรัพยากร ที่จะทำให้มีช่องทางการทำงานที่สอดคล้องกับทรัพยากรและความต้องการของตนเอง
ระบบคิดที่จะพัฒนาระบบคิด ระบบชีวิต และระบบการเกษตรที่เหมาะสม ที่ทำให้มีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาในทุกๆด้าน
ที่ในที่สุดแล้ว จะทำให้มีการพัฒนา
· ฐานทรัพยากรที่พึ่งตนเองได้ ดิน น้ำ พืช สัตว์ ที่อยู่แบบพึ่งพาอาศัยกัน
· ฐานทางสังคมที่เข้มแข็ง ช่วยเหลือเกื้อกูล เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน
· ฐานทางครอบครัว ที่ทำให้มีความสุข ชีวิตมีคุณภาพ มีคุณค่า
· ฐานทางความคิดและจิตวิญญาณ ที่รู้จักตนเอง ครอบครัว สังคม และธรรมชาติ ที่เป็นตัวเชื่อมทุกสิ่งทักย่างเข้าด้วยกัน ให้พึ่งพาตนเอง พึ่งพากันเอง ช่วยเกลือเกื้อกูล จนเกิดการพึ่งตนเอง ทั้งระดับปัจเจก ครอบครัว สังคม และทรัพยากรรอบตัว ได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์แบบ
นี่คือสิ่งที่ผมเห็นมาในการพัฒนาการพึ่งตนเอง และผมกำลังทำอยู่ในแปลงเกษตรของผมครับ
สวัสดีครับอาจารย์
เข้ามาเยี่ยมอาจารย์ก่อนแล้วจะกลับมาใหม่ครับ ช่วงนี้สังเกตได้ว่าบันทึกของอาจารย์กำลังหมุนติ้วๆเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆด้วยความปรารถนาดีต่อสังคมเกษตรกรรม ซึ่งเป็นรากฐานของประเทศ...รู้สึกเช่นนั้นจริงๆครับ
(ต่อครับ)
กรณีศึกษา: เรื่อง อาหารปลอดภัย
สวัสดีค่ะอาจารย์
ทุกครั้งที่ได้เขามาอ่านล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ และให้แง่คิดดี ๆ
ขอบคุณครับพันธมิตรแห่งการสร้างสรรงานเพื่อชาติทั้งหลาย
ผมดีใจมากครับที่ท่านได้เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยน และต้องบอโทษที่ตอบช้า เพราะเพิ่งเข้าเนตได้ตะกี้ ไม่ทราบมีปัญหาอะไร
ด้วยความเคารพครับ
ผมพยายามจะกลี่นกรองสิ่งที่เป็นปัญหาของชาติ
ความจริงบางอย่างที่ไม่ใคร่มีใครกล้าพูดถึง เพราะในอดีต ต้นกล้าความคิดที่พูดความจริงในประเด็นนี้เคยถูกกล่าวหาว่าเป็น"คอมมิวนิสต์" และหายไปจากโลกนี้แล้วนับไม่ถ้วน
เพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งครับ
สวัสดีครับ อาจารย์
สุดยอดครับ
ผมขอเก็บไว้เป็นการบ้านครับ
บัตรเครดิตก็เป็นวิกฤติชาติอีกมุมหนึ่งครับ
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีงานทำ เป็นเหยื่อกลุ่มใหญ่เลยครับ
มีแต่หนักๆทั้งนั้นครับ เรื่องความยากจนนี่
ครับ
ขอบพระคุณในความเข้าใจครับ เราจะได้เป็นพันธมิตรที่เข้าใจปัญหาของชาติกันต่อไปครับ
ไปดูของเก่าผมอีกบล็อกหนึ่งด้วยนะครับ
ตามคำขอของท่านครับ
จัดให้พิเศษเลยครับ อยากเห็นอะไรบอก ไม่มีก็จะไปหามาให้ครับ
หมอชาวนา มีผลงานวิจัยอิสระเรื่อง ปัญหาความยากจนของเกษตรกร โดยเฉพาะกลุ่มชาวนา พบวิธีแก้ไขปัญหาง่าย ๆ หลายแนวทาง สามารถทำให้เกษตรกรรวยกว่าพ่อค้า ดีกว่าข้าราชการ ได้มากกว่ากองทุนเงินล้าน มีเงินให้รัฐบาลกู้ยืม รวยจากการให้ ได้จากความสามัคคี ยิ่งนานยิ่งรวย รวยด้วยศักยภาพและการพึ่งพาตนเอง ทุกปัญหามีคำตอบ แม้จะเป็นปัญหายุทธศาสตร์ขนาดใหญ่แต่ก็เป็นได้แค่เส้นผมบังภูเขา โอกาสเราสร้างเองได้ และชัยชนะเราสามารถสร้างขึ้นได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว ชนะแบบไม่ต้องออกแรงสู้ อยู่เฉย ๆ ก็ชนะ หรือชนะทางยุทธศาสตร์ ชนะโดยไม่ต้องรบ ปราบทุจริตให้สิ้นไปไม่มีใครกล้าทุจริตอีก ไม่เกิดความสิ้นเปลืองเสียหายร้ายแรง เน้นการเอาชนะปัญหา ไม่ใช่เอาชนะกันเอง เพราะความขาดสติไร้ปัญญาคนจึงฆ่ากันตาย ทำร้ายกันเอง ปัญญาเป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุด ต้องเป็นปัญญาของตนเองไม่ใช่เป็นเครื่องมือของใคร ไม่ว่าใครจะเรียนรู้อะไร จบจากไหน ระดับใด ถ้าขาดสติก็ไร้ปัญญา ชี้ทางสวรรค์ให้ก็ไปไม่ถูก เพราะใช้อารมณ์ ไม่ใช้ปัญญา ปัญญามาจากความจริง ทุกคนมีเป้าหมายอยากไปสวรรค์แต่พากันเดินลงนรกก็ไม่มีวันจะเห็นสวรรค์ ถ้าอยู่ร่วมกันด้วยการเบียดเบียนแก่งแย่งอย่างทุกวันนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีสันติสุขแท้จริง ยกเว้นแข่งกันทำความดี โดยใช้ความจริง สภาพปัญหาความยากจนสอดส่ายกันคล้ายใยลูกบวบ คนรู้ไม่จริงแก้ไม่ตกมืด 8 ด้าน ขอเชิญผู้มีเกียรติที่พร้อมด้วยสติปัญญาทุกท่านที่สนใจการแก้ไขปัญหาลองเข้าไปอ่านในอินเทอร์เน็ตหัวข้อ msgent of thai สงสัยติดต่อสอบถาม [email protected]