ความวิตกกังวลหลังจาก Transferring Knowledge
เสร็จภารกิจจากการใช้ชีวิตปกติสองสัปดาห์บนฝั่ง ภายใต้เวลาอันจำกัดดูจะยุ่งเหยิงพอสมควร ที่จะสะสางภารกิจและงานที่คั่งค้างได้ทั้งหมด เอาเป็นว่าได้ทำแล้วไม่มีอะไรเสียหายก็ถือว่า สำเร็จแล้วและก็ผ่านไปอีกหนึ่งรอบLive cycle กลับลงทะเลมาทำงานวันพุธ เมื่อวานเป็นวันแรก ที่นี่ (องค์กรที่ผมทำงานอยู่) เมื่อเรากลับเข้าทำงานวันแรกก็จะต้องฟังการสรุปงานในรอบ สองสัปดาห์ที่ผ่านไปให้รับทราบก่อนไม่เช่นนั้นจะงงจับแพะชนแกะไม่ถูก เพราะมีทั้งงานประจำ งานโปรเจ็คต์ งานซ่อมบำรุง ฯ มี 140 ชีวิต บนแท่นผลิตผลัดเปลี่ยนกะกันทำงาน ผมได้ฟังการสรุปเรื่อง Multi skills ของงานซ่อมบำรุง เขาบอกว่ากำลังไปได้ดี (ให้กำลังใจตัวเอง) แต่เหนื่อยลำบากใจที่ต้องขอร้องทุกๆฝ่ายให้ช่วยกันเข็นโครงการนี้ให้ผ่านหน่อย เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องงบ แต่เรื่องคนเรื่องใจ มันพูดกันยาก สาเหตุที่รู้ๆกันอยู่ก็คือ ช่วงเวลานี้องค์กรกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง ปรับโครงสร้างใหม่หมด
การที่จะให้แต่ละคนถ่ายทอดความรู้ ทักษะส่วนตัวในงานของตัวเอง แลกเปลี่ยนกันในรูปแบบ cross training ทำให้หลายคนวิตกกังวลว่า หากคนคนเดียวทำงานได้หลายหน้าที่แล้ว โอกาสที่องค์กรจะปรับลดจำนวนพนักงานให้น้อยลงมีความเป็นไปได้สูง ดังนั้นความเต็มใจในภารกิจส่วนนี้จึงหายไป จะมีก็เพียงแต่บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรณีพิเศษให้ทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนเท่านั้น ซึ่งก็คงไม่ช่วยให้ประสบความสำเร็จได้เท่าไหร่ ในเรื่องภารงานเพราะตัวผู้ฝึกสอนเองไม่ได้สัมผัสกับงานโดยตรง ทางแก้ไขก็คงไม่มีอะไรมากนอกจากผู้บริหารระดับสูงจะออกมาให้ความมั่นใจกับพนักงานระดับรองลงมา เพื่อที่จะทำให้งานส่วนนี้ประสบความสำเร็จ หรืออาจจะรอจนกว่าการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมดผ่านพ้นไปก่อน แต่โครงการก็คงชะลอออกไป บางครั้งการแก้ปัญหาเรารู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ แต่บางทีทำไมจึงทำไม่ได้ หรือบางทีไม่อยากทำ จึงไม่ได้ทำ งงแล้วจบ…