ชีวิตที่พอเพียง : (351) นักตั้งคำถาม (3) ปุ๋ยขี้วัวทำอะไร


         เช้าวันอาทิตย์ที่ 12 ส.ค.50  ผมเอาสายยางไปรดน้ำปุ๋ยขึ้วัวที่เอามาใส่กระถางและโคนต้นไม้เมื่อวานนี้   พลางนึกในใจว่า รดน้ำเพื่อให้จุลินทรีย์ในขี้วัวเจริญเปลี่ยนจากสภาพสงบนิ่ง (dormant) มาอยู่ในสภาพฟื้นชีพ  แบ่งตัวขยายพืชพันธุ์ (vegetative)   ผมมีสมมติฐานว่าการใส่ปุ๋ยขี้วัวลงในกระถางหรือโคนต้นไม้ที่บ้านผมซึ่งเต็มไปด้วยใบไม้ถึงไม้ผุ   ประโยชน์ที่ได้มาจากจุลินทรีย์ในขี้วัวมากกว่าอนินทรียสารและอินทรียสารในขี้วัว   ผมเข้าใจว่าจุลินทรีย์ในขี้วัวที่ขยายพืชพันธุ์จะทำหน้าที่ย่อยสลายอินทรียสารในดิน  ให้ปุ๋ยมากกว่าปุ๋ยที่มากับขี้วัว   ผมเข้าใจถูกไหมครับ

         ท่านผู้รู้โปรดแนะนำด้วย

วิจารณ์  พานิช
 12 ส.ค.50
วันแม่

หมายเลขบันทึก: 122289เขียนเมื่อ 27 สิงหาคม 2007 09:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 13:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • อยากแนะนำอาจารย์ทำปุ๋ยหมัก ( Compost )ใช้เองที่บ้าน ( Backyard Composting )  โดยใช้เศษผัก เศษผลไม้ เศษอาหารที่บ้านผสมกับกิ่งไม้ใบหญ้า  เป็นการลดปริมาณขยะไปในตัวด้วยครับ
  • ถ้าอาจารย์สนใจจะส่งรายละเอียดให้อาจารย์ครับ

 

อาจารย์หมอครับ

ปุ๋ยอินทรีย์จะทำหน้ามีบำรุงดินโดยเป็นแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัย ให้กับจุลินทรีย์ ที่ทำให้เกิดระบบสำรองและหมุนเวียนธาตุอาหารในดิน

ถ้ามีมาก จะเกิด pool ที่ใหญ่ พืชโตได้ดี

ดินดีไม่ดี ขึ้นอยู่กับขนาดของ  pool นี้ครับ

pool จะเกิดได้ดีก็ต้องสมดุล และมีการเติมอย่างต่อเนื่อง ที่เป็นระบบธรรมชาติครับ

การไถพรวนจะทำให้ pool นี้แตกสลาย และปล่อยธาตุอาหารมามาก ที่คนคิดว่าดี เพราะทำให้พืชโตเร็ว แต่ดินก็เสื่อมโทรมเร็วเช่นกัน จนต้องหันไปพึ่งปุ๋ยเคมี ที่ยิ่งเร่งให้ pool นี้แตกสลายมากขึ้น จนถึงกับเป็นดินตาย

การใส่อินทรียวัตถุจึงเป็นการฟื้น-ฟูดิน โดยการสนับสนุนให้เกิดพลังสำรองดังกล่าว แต่บางทีก็ไม่ทันใจเพราะการสร้างสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น

เมื่อคนอยากเห็นแบบเร็วๆ ก็เลยเข้าไปติดกับดักของระบบเคมี

หวังว่าอาจารย์คงมองกลไกออกนะครับ

ว่าการใส่ปุ๋ยขี้วัวเป็นการสร้าง ไม่ใช่ทำลายอย่างที่อาจารย์เขียนไว้ข้างบน

สวัสดีครับ 

 

วุฒิชัย สังข์พงษ์

สำหรับเรื่องของปุ๋ย กระผมก็พอจะมีประสบการณ์บ้างเล็กๆน้อยๆ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับกระผมได้นำพวกเศษพืชเศษผักมาหมักกับกากน้ำตาลและน้ำธรรมดา สัดส่วนก็อาศัยการสังเกตุปฏิกริยาการย่อยสลาย(เกิดฟองก๊าซและการยุ่ยของวัตถุดิบ)และกลิ่น(กลิ่นค้ลายกลิ่นกากน้ำตาลและมีกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆ ออกไปทางหอมไม่เหม็นบูด) นานไปซากพืชก็สลายไปจนหมดกระผมก็ได้นำไปให้นักเรียนทดสอบโดยการดมกลิ่น คำตอบที่ได้มีหลากหลาย มีทั้งกลิ่นยาแก้ไอ กลิ่นสาโท เหล้าขาว ยาดอง และยังมีกลิ่นอื่นๆ แต่กระผมนำมาในส่วนที่อยากให้นำไปใช้ต่อคือแอลกอฮอล์ กระผมก็ถามต่อว่าแอลกอฮอล์ใช้ทำอะไรได้บ้าง ก็ได้คำตอบว่าใช้ฆ่าเชื้อโรค และเป็นเชื้อเพลิง  กระผมก็ถามว่าแล้วจะเอาไปทำหรือไม่ ก็ไม่มีคำตอบ ก็คงคล้ายๆกับที่ท่าน ดร. แสวง  รวยสูงเนิน ได้กล่าวไว้ข้างต้น ว่าสุดท้ายเราก็จะเห็นคนติดกับดักความสะดวก รวดเร็ว เอาง่ายไว้ก่อนจนไม่ได้มองผลกระทบที่ตามมา เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากครับ หลังจากที่กระผมได้ผันตัวจากเจ้าหน้าที่ประมงมาเป็นครูทำให้ได้สัมผัสใกล้ชิดกับเด็กในปัจจุบัน ที่เติบโตท่ามการความสะดวกและรวดเร็ว จนบางอย่างเด็กรับไปโดยที่ตัวเองก็ไม่ทราบว่ารับไปแล้ว แล้วพอผู้ใหญ่เห็นว่าไม่ถูกต้อง  ควรแก้ไขเค้าก็ไม่รู้ว่าตัวเค้าเองจะต้องแก้ไขอะไรอย่างไร  ก็เห็นใครๆก็ทำกันทั้งนั้น จนกลายเป็นความไม่เข้าใจกัน หรือปัญหาอื่นๆอีกมากมาย  กระผมคิดว่าพื้นฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ต้องทำพื้นฐานให้ดี เช่นเดียวกับการจะทำให้ดินดี ก็ต้องมีอินทรีย์สารเป็นพื้นฐาน แล้วจึงเติมจุลินทรีย์ที่เหมาะสม จึงจะได้ดินที่ดีมีธาตุอาหารเหมาะสม และต้องรู้จักวิธีใช้ด้วยครับ เพราะหากนำไปใช้ไม่เป็นก็อาจทำให้ต้นไม้ตายได้ กระผมเคยให้เกษตรกรนำปุ๋ยน้ำชีวภาพไปทดลองใช้ แนะนำวิธีใช้จนเข้าใจ ผ่านไป หนึ่งสัปดาห์แวะไปติดตามผลปรากฏว่าด้วยความใจร้อนอยากเห็นผลเร็วใส่เข้าไปเต็มที่  ดีว่าแค่ใบร่วง แต่ถ้าดูแลไม่ดีก็อาจทำให้ตายได้เช่นกัน แต่อีกคนใส่กล้วยไม้ใช้ทีละน้อยตามคำแนะนำ แต่ใส่บ่อยๆ เพราะสิ่งที่ให้ใส่เป็นปุ๋ยน้ำที่มีจุลินทรีย์มีชีวิต ถ้าสภาพแวดล้อมไม่ดีเค้าก็จะตายแล้วอาจทำให้เกิดของเสีย แต่ถ้าสภาพแวดล้อมเหมาะสมเค้าก็จะให้ธาตุอาหารและช่วยย่อยเซลล์ที่ตายแล้ว  ปรากฏว่าต้นกล้วยไม้ของคนนี้ออกดอกตลอด ดอกใหญ่และอยู่ทนนานกว่าที่ไม่ใส่ปุ๋ยน้ำชีวภาพ อันนี้เป็นเพียงบางกรณีที่นำมายกตัวอย่าง จริงๆแล้วยังกรณีอื่นๆอีกมากมาย กระผมจึงคิดว่าเด็กก็เช่นเดียวกันควรจะได้รับพื้นฐานที่ดี(นั่นก็คือการอ่านเป็น เขียนเป็น พูดเป็น และสรุปความเป็น)เพื่อการต่อเติมเสริมแต่งที่จะทำให้เค้าพัฒนาไปในทางที่ดีและยั่งยืน

ผมได้อ่านแล้วก็ได้ความคิดอะไรที่ดีๆ เหมือนกันนะครับเพราะผมเองก็ใช้ขี้วัวในการปรับดินที่แปลงหญ้าในฟาร์มเหมือนกัน แรกๆ ก็แปลกๆ ไม่ค่อยเห็นผลเท่าไรนักแต่ก็ยังไม่ยอมนะเพราะว่าได้อ่านจากบทความของนักวิชาการเขียนๆ เอาไว้ว่าต้องใจเย็นๆ ค่อยเป็นค่อยไป หลังจาก6เดือนผ่านไป ผลเริ่มเห็นออกมา ข้าวโพด หญ้าที่ปลูกในฟาร์มเริ่มเขียวขึ้น สมบรูณ์ขึ้น เริ่มเป็นไปอย่างที่เราฝันเอาไว้เพราะขี้วัวนี่เอง ผมใช้จุลินทรีย์ฉีดพ่นคอกวัว และใช้ผสมน้ำให้วัวกินตลอดเวลานะครับ สิ่งที่ผมได้มานั้นวัวในคอกผมไม่เคยป่วยหนัก ผมอยากจะขายขี้วัวของผมเพื่อหารายได้พิเศษบ้างแล้ว ถ้ามีเพื่อนๆ ท่านใดสนใจผมขนเข้ากรุงเทพ สะพานใหม่ดอนเมือง ทุกอาทิตย์เลยนะครับ ครั้งละประมาณ 20 ถุงๆละ 30 กก โทร 081-8591575 วิโรจน์

เรียนผู้จัดการ ฝ่ายขาย/จัดส่ง

เรื่อง : แนะนำขนส่งสินค้า

ต้องขอโทษด้วยที่ส่งจดหมายมารบกวนท่าน โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต

ทาง หจก. แต้กีกวง ได้ดำเนินธุรกิจในการขนส่งสินค้าภายในประเทศและต่างประเทศ(ไทย-ลาวด่านมุกดาหาร อุบล นครพนม หนองคาย )พร้อมบริการชิปปิ้ง รับบรรทุกสินค้าข้ามภาคเช่น อีสานปลายทางภาคเหนือ หรือภาคอีสานลงใต้ เป็นต้น บริการ Export - Import service, Logistics service provider, บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โกดังเก็บสินค้า งานบริการผ่านพิธีการศุลกากร

มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับท่าน โดยขอแจ้งรายละเอียดการติดต่อประสานงานดังนี้

คุณจิรทีปต์ มือถือ 0801752907

Email Add :[email protected], [email protected]

ทาง หจก. แต้กีกวง ทำการบรรทุกสินค้าโดยมีประกันภัยสินค้าเต็มมูลค่าสินค้า น้ำหนักในการบรรทุกสินค้า - ประเภทรถตู้ห้องเย็น ส่งอาหารสด

- ประเภทรถบรรทุก รถสิบล้อ 15 – 16 ตัน

- ประเภทรถพ่วง 28-30 ตัน

- ประเภทรถเทรลเลอร์ 28-30 ตัน

- หกล้อบรรทุก 9 ตัน ยาว 6 เมตร

- ปิ๊กอัพ ประ 1ตัน -1.5 ตัน

กรณีมีรถบรรทุกอยู่แล้ว ถ้าหากยังไม่มีสินค้าบรรทุกขากลับก็โทรมาติดต่อเราได้

ทางห้างฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงมีโอกาสได้ร่วมงานกับท่านและขอขอบคุณท่านมา

ณ โอกาสนี้

ต้องขออภัยเป็นอย่างมากด้วย หากอีเมลล์นี้เป็นการรบกวนท่าน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท