ในสมัยโบราณมนุษย์เห้นดวงอาทิตย์ขึ้นก็รู้ว่าวันใหม่เริ่มขึ้นแล้ว และการบอกเวลาว่าเป็นเช้า สาย บ่าย หรือเย็นก็อาจดูจากความยาวของเงาที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดแนวคิดในการกำหนดเวลา 1 วัน ว่าเป็นเวลาที่โลกหมุนรอบตัวเองครบ 1 รอบพอดี เมื่อมนุษย์ได้เรียนรู้จากดาราศาสตร์มากขึ้น จึงมีแนวคิดในการกำหนดเวลา 1 ปีทางสุริยคติ ว่าเป็นเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบพอดี ต่อมานักดาราศาสตร์ได้พบว่า เวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบเป็นเวลามากกว่า 365 วันเล็กน้อย ระบบปฏิทินในสมัยแรกๆท่ีนิยมใช้กัน ได้แก่ ระบบปฏฺทินจูเลียน ((Julian Calender) ระบบนี้จึงกำหนดว่า 1 ปีมี 365.25 วัน เมื่อใช้ไปได้ระยะหนึ่ง พบว่า การใช้ปฏฺทินนี้ในทุกๆ 400 ปีจะนับวันมากเกินความเป็นจริงไป 3 วันเศษ หลังจากนั้นจึงได้มีการปรับปรุงเป็น ระบบปฏฺิทินเกรกอเรียน (Gragorian Calende) ซึ่งเป็นระบบปฏิทินที่ใช้กันอยุ่ทั่วโลกในปัจจุบันนี้และมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงทางดาราศาสตร์น้อยที่สุด
ระบบปฏิทินเกรกอเรียน กำหนดให้ 1 ปี มี 365.2425 วัน โดยกำหนดเงื่อนไขว่าในปีปกตินั้น 1 ปีมี 365 วัน แต่ในปี อธิกสุรทิน ซึ่งเป็นวันที่มีเดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันนั้น 1 ปีมี 366 วัน
การกำหนดปีอธิกสุรทินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
1. ถ้าปี ค.ศ. ใดหารด้วย 4 ไม่ลงตัว จะไม่เป็นปีอธิกสุรทิน เช่น ปี ค.ศ. 2007 หารด้วย 4 ไม่ลงตัว จึงไม่เป็นปีอธิกสุรทิน
2. ถ้าปี ค.ศ. ใดหารด้วย 4 ลงตัวและหารด้วย 100 ลงตัว แต่หารด้วย 400 ไม่ลงตัว ปี ค.ศ. นั้นจะไม่เป็นปีอธิกสุรทิน เช่น ปี ค.ศ. 2100 หารด้วย 4 และ 100 ลงตัว แต่หารด้วย 400 ไม่ลงตัว ดังนั้นจึงไม่เป็นปีอธิกสุรทิน
3. ถ้าปี ค.ศ. ใดหารด้วย 4 ลงตัวแต่หารด้วย 100 ไม่ลงตัว ปี ค.ศ. นั้นจะเป็นปีอธิกสุรทิน เช่น ปี ค.ศ. 2004 หารด้วย 4 ลงตัว แต่หารด้วย 100 ไม่ลงตัว จึงเป็นปีอธิกสุรทิน
4. ถ้าปี ค.ศ ใด หารด้วย 4 ลงตัว และหารด้วย 400 ลงตัว ปี ค.ศ. นั้นจะเป็นปี อธิกสุรทิน เช่น ปี ค.ศ. 2000 หารด้วย 4 และ 400 ลงตัว จึงเป็นปีอธิกสุรทิน
อ้างอิงจาก : ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. (2547). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
ไม่มีความเห็น