ยอมรับว่าในปุถุชนคนธรรมดาย่อมมีความโกรธซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดได้ง่ายมาก แต่กำจัดได้ยากมากๆ วันหยุดคราวนี้มีธรรมะของหลวงพ่อเทียน (พระอาจารย์เขมานันทะ) มาร่วมแบ่งปันให้ข้อคิด เตือนสติ ไม่ให้ตกหลุมพลางทางความคิดมากเกินไป
ท่านกล่าวว่า เป้าหมายของการเจริญวิปัสสนา คือ การก้าวทันความคิด การที่คนเรามีความโกรธ ความโลภ ความหลง ก็เพราะคนเราคิดก่อนจึงเกิดอาการเหล่านี้ แสดงว่าเรารู้ไม่เท่าทันมัน สุดท้ายเราก็ตกไปในหลุมพลางของความคิด ความคิดสร้างสรรค์ทำให้คนเราก้าวหน้าด้วยวิทยาการก็จริง แต่ขณะเดียวกันก็อาจย้อนกลับมาทำร้ายทำลายเราได้ ก็ต่อเมื่อเราใช้ความคิดให้เป็นประโยชน์ หากใช้ไม่ถูกที่ถูกทางก็อาจกลับทำร้ายเราได้เหมือนกัน
ท่านแนะนำให้เรากลับเข้าไปในตัวเอง โดยอาจปฏิบัติด้วยการเคลื่อนไหวมือเป็นจังหวะ 14 จังหวะ ที่อาจคล้ายกับการเดินจงกรมด้วยมือก็ว่าได้ เพื่อให้เราตามและก้าวทันความคิดของเรา ให้เรามีสติรู้เท่าทันกับดักทางความคิดได้
การกลับเข้าไปในตัวเอง อาจเปรียบได้เหมือนกับต่านาหรือเต่าทะเลที่หดทุกส่วนเข้าไปในกระดอง กระดองเต่านั้นวิเศษที่สุด เหมือนเสือกินเต่า ยากมาก คือถ้าเมื่อใดที่เต่าหดเข้าไปในกระดองแล้วเสือก็ทำอะไรไม่ได้ พระพุทธเจ้าทรงแนะนำให้ปฏิบัติเช่นนี้ คือ การกลับเข้าไปในตัวเอง ผู้หญิงก็กลับเข้าไปในตัวเอง ผู้ชายก็กลับเข้าไปในตัวเอง แล้วค่อยๆ ค้นพบความโล่งโถงภายในหัวใจเราเอง
ท่านกล่าวว่า เมื่อเรารู้สึตัวได้ดีขึ้น เราจะพบว่า เราเป็นชีวิตเดียวกันกับผู้อื่นแล้วเราจะมีความรู้สึกดีกับคนอื่น มีความปราณีและเอ็นดูคนอื่นเสมอ ตลอดเวลาเราเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว แต่เราไม่เข้าใจ เราพยายามวิ่งหนีตัวเอง พยายามยึดถือไขว่คว้าสิ่งที่ต้องการ
"ของเหล่านี้เป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ เป็นของนอกกาย ดังนั้น เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะกลับไปรู้สึกตัว ทำให้บ่อยๆ ทำให้มากๆ แล้วความรู้สึกสดๆ ความตื่นตัว (ที่ไม่มีกิเลสครอบงำ) จะเกิดขึ้น เป็นการตื่นรู้ที่มีสติแจ่มชัดในเวลานั้น เมื่อสติแจ่มชัดปัญญาก็จะมาเร็วกว่าความคิด และทำให้เราตัดสินใจแก้ปัญหาได้ดีขึ้น"
สวัสดีค่ะ
กำลังฝึกปฏิบัติค่ะ ขอบคุณค่ะ
เรียน ท่านสายน้ำแห่งความคิด วิชิต แห่ง มมส