เก้าเทคนิค ฝึกสมองให้ไบรท์


    ได้รับ e mailจากคุณปาริชาติ เย็นใจ สาวปากน้ำ งานวิเทศสัมพันธ์ กลุ่มแผนงานสำนักบริหารงานกศน. ที่ forward มาให้ อ่านแล้วเห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่พวกเราในการฝึกสมอง จึงนำมาเผยแพร่ต่อให้เอาไปลองใช้กัน อัจฉริยภาพนั้นสร้างได้ ครับ

" 9 เทคนิค ฝึกสมองไบรท์ "

โดย วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพจาก ม.ฮาร์วาร์ด เป็นเจ้าของโรงเรียนและสถาบันอัจฉริยะสร้างได้ http://www.geniuscreator.com/GFam.htm

 


 

http://women.sanook.com/dreammodel/women/women_42610_3.php
ผู้หญิงสมัยนี้ อยากสวย ฉลาด และสุขภาพดี ทุกคนจึงพากันดูแลรูปร่าง ด้วยการออกกำลังกาย เคร่งครัดเรื่องอาหารการกิน แต่ไม่เคยมีใครสนใจว่าจะดูแลสมองอย่างไรให้มีสุขภาพดี ทั้งที่สมองเป็นอวัยวะที่ตัดสินใจทุกเรื่องของชีวิต เราจึงควรเอกเซอร์ไซส์สมองให้ไบรท์ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ต่อไปนี้
1. จิบน้ำบ่อย ๆ
สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เห่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมอง เห่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ
2. กินไขมันดี
คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที
หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน
4. ใส่ความตั้งใจ
การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน
5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ
ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ
6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน
สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์
7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน
ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง
8. เขียนบันทึก Graceful Journal
ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์
9. ฝึกหายใจลึก ๆ
สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %
การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม

หมายเลขบันทึก: 119671เขียนเมื่อ 15 สิงหาคม 2007 08:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)
ห้องสมุดประชาชนจ.ฉะเชิงเทรา
ขอบคุณเทคนิคดี ๆ ที่ผอ.แนะนำมานะค่ะ จะนำไปปฏิบัติพร้อมบอกต่อให้กับทุก ๆ คนทราบคะ

การฝึกสมองให้ไบรท์ มีความหมายเดียวกับคำว่า อัจฉริยภาพสร้างได้ ศาสตร์แห่งกลไกการทำงานของสมองเป็นศาสตร์ใหม่ที่คนยุคนี้ต้องเรียนรู้และศึกษาซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพราะยุคนี้เป็นยุคของการแข่งขัน ทั้งด้านการเรียนรู้ ด้านการจัดการความรู้  ด้านเศรษฐกิจและอื่นๆ ในสมัยก่อนผู้ที่เป็นอัจฉริยะอย่าง ไอสไตน์ , โมสาร์ท ฯลฯ เราจะคิดว่าท่านมีสมองที่ดีเยี่ยมเป็นอัจฉริยะโดยกำเนิด แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกท่านเหล่านั้นก็มีสมองที่เท่ากับคนปกติทั่วไปเพียงแต่ท่านเหล่านั้นได้รับการฝึกฝนที่ถูกวิธีและตรงกับความชอบความสนใจ ความถนัด  เพราะฉนั้นคนทุกคนสามารถเป็นอัจฉริยะสร้างได้เช่นกัน ( เริ่มได้ตั้งแต่ทารกจนถึงวัยทำงาน ) ลองปฏิบัติตนตามบทความข้างบนอย่างน้อย2-3 เดือนและถ้าให้ดีปฏิบัติตลอดไปเราจะพบความเปลี่ยนแปลงของตัวเราเอง(เป็นคนที่มีความสุข)

ห้องสมุดประชาชนจ.ฉะเชิงเทรา
ขอบคุณแนวคิดดี ๆ จากคุณนะโมนะค่ะ ขออนุญาตนำบทความ 9 เทคนิคดี ๆ ของผอ.ไปเผยแพร่ให้กับสมาชิกห้องสมุดด้วยคะ
นายเสน่ห์ อุ่นนาวงษ์ ศบอพนมสารคาม
         ขอขอบคุณครับ เป็นความรู้ที่ดีมีประโยชน์ มากเลยครับ
  • สวัสดีครับท่านผอ.ดิศกุล วันนี้แวะเข้ามาเรียนรู้ครับ
  • สาระที่นำมาเล่ามีคุณค่า มากเลยครับ
  • จะนำไปเผยแพร่ให้แก่คณะครูและนักเรียนที่โรงเรียนครับ

-สวัสดีครับ Pคุณบัวชูฝักครับ

        ขอบคุณครับในการเผยแพร่สิ่งดี  ต่อเพื่อนครูและนักเรียน ต่อไป

-ขอบคุณ คุณเสน่ห์ คุณหสม.ปชช.จว. และคุณนะโม ครับ
ได้มาเรียนรู้ด้วยค่ะ  จากคลองหลวง
เป็นเทคนิคที่ดีมากเลยขออนุณาตนำไปเผยแพร่กับองค์กรอื่น ๆ
ชูวิทย์ ศบอ.บางปะกง
     เทคนิคการนำไปใช้.....จงให้ความสำคัญ...จิตใจอันบริสุทธิ์สดใส......และสมองที่ชาญฉลาดจะก่อเกิด.....ตาม.......

ขอขอบคุณท่าน  ผอ.ดิศกุล  สำหรับการนำเทคนิค  ฝึกสองให้ไบรท์มาฝากในครั้งนี้  และคาดว่าจะลองนำเทคนิคในนี้ไปลองฝึกปฏิบัติ  และเผยแพร่ต่อไป

เป็นแนวทางปฏิบัติและแนวความคิดที่ดีนะครับ

ถ้าปฏิบัติได้จะเป็นประโยชน์อย่างมากเลยครับ

เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าเผยแพร่ต่อไป

ขอบคุณครับ 

-ขอบคุณ คุณไม่แสดงตน คุณชูวิทย์ คุณศบอ.สนามชัยเขต คุณเด็กบ้านสามขา คุณพัชราภรณ์ ครับ
ชุลีพร ห้องสมุดประชาชนอำเภอบางคล้า

       ขอบคุณค่ะ  สำหรับเทคนิคดี ๆ  ในการฝึกสมองที่ทำได้ไม่ยาก

ขอบคุณท่านผอ.ดิศกุลมากเลยครับ  ที่เผยแพร่ความรู้ที่มีประโยชน์ที่ดี   ผมจะนำไปปฏิบัติและเผยแพร่ให้ครูและเจ้าหน้าที่ได้รับทราบและปฏิบัติต่อไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท