ในช่วง 4-5 ปีมานี้ เรามีการปรับเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆในระบบสุขภาพไปมากมาย ยิ่งการเกิดขึ้นของรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ทำให้เกิดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช) และเกิดขึ้นของสำนักสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส)และล่าสุดเกิดสำนักงานสุขภาพแห่งชาติ (สช) แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอีกสิ่งหนึ่งคือประชาชนมีความต้องการบริการสุขภาพมากขึ้น
แนวคิดเพื่อทำให้ประชาชนได้บริการสุขภาพที่ใกล้บ้านใกล้ใจ ของ สปสช.ก็เป็นแนวคิดที่ดีแนวคิดหนึ่งเพื่อให้ประชาชนได้สิ่งที่ดี แนวคิดหนึ่งๆสามารถมีรูปแบบการปฏิบัติได้ในหลายๆรูปแบบ CMUก็เป็นผลผลิตอันหนึ่งของแนวคิดนี้
CMU=Community Medical Unit หรือศูนย์แพทย์ชุมชน เป้นรุปแบบใหม่ของสถานบริการสุขภาพที่ต้องการให้มีแพทย์ออกไปอยุ่ใกล้บ้านประชาชนมากขึ้น ส่วนใกล้ใจนั้นคงต้องดูผลที่ติดตามมาอีกครั้งว่าจะทำได้หรือไม่
CMUที่สมบูรณ์ จะต้องมีแพทย์ 5 วันทำการ มีแล็บ มีเอกซ์เรย์ครบครัน จึงต้องมีการลงทุนที่มากขึ้นกว่าการเป็นสถานีอนามัยเดิม ต้องเพิ่มทั้งเงิน คนและของตามไปด้วย
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำก็คือการปรับนแวคิดการทำงานของคนใหม่ที่เข้าไปเติมกับคนเดิมที่อยู่มาก่อน ว่าจะเชื่อมดยงการทำงานเข้าด้วยกันได้อย่างไร ระหว่างบรรดาแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางการรักษากับบรรดาหมออนามัยที่เชี่ยวชาญในการชุมชน ถ้าจูนไม่ดีก็จะมีปัญหาเหมือนภูเขาน้ำแข้งในทะเลลึก
การนำแพทย์ไปอยู่ที่CMUนับว่ายาก แต่ที่ผมคิดว่ายากยิ่งกว่าคือการทำให้ทีมใหม่กับคนเก่ายอมรับศักยภาพและจุดแข็งของกันและกันแล้วก้าวไปด้วยกันโดยมีประชาชนเป็นจุดศูนย์กลาง ถ้าทำได้จริงผลประโยชน์อย่างยิ่งยวดจะตกอยู่กับสุขภาพประชาชน แต่ถ้าทำไม่ได้ก้อาจจะได้แค่ ภาพ(การทำงานร่วมกัน)แต่ไม่ได้สุข(ของประชาชนและคนทำงาน)อย่างแท้จริง ภาพสร้างไม่ยากแต่สุขสร้างยากกว่า
ในความเห็นส่วนตัว อยากให้สถานีอนามัย เป็นสุขศาลา แบบอดีต เป็นสถานที่แห่งความสุข ที่คนทำงานก็มีความสุข ประชาชนก็มีความสุข ใครมีทุกข์ไปสุขศาลา ใครมีสุขก็ไปสุขศาลา ไม่จำเป็นต้องมีบุคลากรที่เลิศเลอทางด้านการรักษา แต่มีบุคลากรที่เข้าใจวิถีชีวิตและความเป็นมนุษย์ เข้าใจชุมชน รู้จักชุมชน รู้จักวิถีชาวบ้าน ทำงานสอดคล้องกับเวลาราษฎร ซึ่งตรงนี้หมออนามัยก็ทำได้ รักษาโรคง่ายๆให้ชาวบ้าน แนะนำสถานที่รักษาเมื่อเจอโรคยากๆ ทำเรื่องที่ใช้เทคโนโลยีง่ายๆคือการส่งเสริมป้องกันโรค เพื่อที่จะไม่ต้องมารักษาโรคยากๆที่เกิดขึ้น
ผมเองก็มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง CMU กับทิศทางสาธารณสุขไทย ตังผมเองคิดว่ายังไวเกินไปที่เสนอ model ที่มีแพทย์ประจำ 5 วันเพราะ
1.แพทย์มีน้อย หน้าที่หลักในช่วงเริ่มต้นน่าจะเป็นที่ปรึกษาเครือข่ายและบริหารงานบริการของเครือข่าย
2.primary health care
เท่าที่ได้สัมผัส CMU ด้วยตัวเอง พบว่าแพทย์มีการเอวใจใส่ชาวบ้านที่มารับบริการเป็นอย่างมาก แพทย์จะรู้จักชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้านนั้นๆและบริเวณใกล้เคียงที่มารับบริการ ที่CMU คิดว่าดีมากที่มีระบบนี้เพราะจะข่วยลดอัตราผู้ป่วยใน OPD ที่รพ.ลง และลดภาระการใช้จ่ายของชาวบ้าน แพทย์ พยาบาล ชาวบ้าน ก็สนิทกันเหมือนญาติ
วันไหนที่มีผู้ป่วยไม่มาตรวจหรือมาตรวจที่อนามัยไม่ได้ แพทย์จะไปหาถึงบ้านซึ่งเป็นภาพที่น่ามองมากค่ะ
เข้ามาเยี่ยมเยียนคะ