การศึกษาแนวทางการจัดอาชีวศึกษาเพื่อสนองตอบความต้องการของสังคม : กรณีศึกษา วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร สามารถสรุปผลได้ดังต่อไปนี้
1. ยุทธศาสตร์หลักของจังหวัดพิจิตรยุทธศาสตร์จังหวัดพิจิตรในปริบทใหม่จะเน้นการทำงานแบบบูรณาการโดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน และต้องมีความเข้าใจที่ตรงกัน โดยกรอบการทำงานแบ่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ งานตามหน้าที่ซึ่งมีกฎหมายกำหนดชัดเจน งานตามนโยบายหรืองานบางเรื่องที่เน้นเป็นพิเศษ เช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคของกระทรวงสาธารณสุข นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นโยบายการแก้ปัญหาความยากจนของรัฐบาล และงานตามยุทธศาสตร์ที่เน้นพื้นที่เป็นหลักซึ่งจังหวัดพิจิตรจัดอยู่รวมกับจังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชรและอุทัยธานี
สถานศึกษาอาชีวศึกษาจำเป็นที่จะต้องเข้ามาส่วนร่วมในการดำเนินการยุทธศาสตร์ของจังหวัดในรูปของการทำงานแบบบูรณาการ ได้แก่ การพัฒนาผลผลิต การแปรรูปผลผลิตภัณฑ์ การปรับเปลี่ยนหมุนเวียนการปลูก การศึกษาความต้องการของตลาด การเพิ่มรายได้ของประชาชน การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การพัฒนาคุณภาพสินค้าOTOP การจัดการองค์ความรู้ การอบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตกำลังคนที่จะทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ของจังหวัด
2. การพัฒนายุทธศาสตร์จังหวัดพิจิตรกับการจัดอาชีวศึกษาจังหวัดพิจิตรกำหนดทิศทางในการพัฒนาไว้ 6 ประเด็นได้แก่
1. การแก้ไขความยากจน
อาชีวศึกษาควรเข้ามามีบทบาทในการให้ความรู้เรื่องการเกษตร การให้ความรู้เสริมในการประกอบอาชีพ การสร้างอาชีพเสริม และการจัดบริการชุมชนในระบบเปิด กล่าวคือ การให้ประชาชนเข้ามาศึกษาที่สถานศึกษาได้ตลอดเวลาพร้อมทั้งมีตัวอย่างให้เรียนรู้ได้
2. การผลิต การแปรรูป และการค้าข้าว
อาชีวศึกษาควรมีบทบาทในการส่งเสริมเทคนิค วิธีการใหม่ ๆ เพื่อสนองตอบการพัฒนาทั้งด้านปริมาณและคุณภาพของการผลิต ควรมีการสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็นผู้ผลิตที่ดีในอนาคต ควรมีการจัดเก็บและบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการผลิต ผลของการผลิต กรรมวิธีในการผลิต เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาองค์ความรู้ต่อไป ควรมีการกำหนดรูปแบบบรรจุภัณฑ์ และพัฒนาให้มีความแปลกใหม่ น่าสนใจมากขึ้น และควรมีกี่คิดค้นกระบวนการการผลิตให้ทันสมัยขึ้น
นอกจากนี้อาชีวศึกษาควรเข้ามามีบทบาทในเรื่องการตลาดและการค้าซึ่งได้แก่การคิดคำนวณต้นทุน กำไรและขาดทุน การคิดแผนธุรกิจเพื่อจูงใจและส่งเสริมประชาชนพัฒนาการผลิตข้าวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. การพัฒนาสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการศึกษา
อาชีวศึกษาจะมีบทบาทอย่างมากในการคิดค้นวิธีการ กิจกรรมที่จะส่งเสริมและสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น การพัฒนาสังคม การศึกษาและความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น โครงการเฉลิมพระเกียรติ โครงการอนุรักษ์ช่างสิบหมู่ โครงการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนี้อาชีวศึกษายังควรจะต้องมีบทบาทในการจัดการความรู้ จัดแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับสังคมและชุมชน
4. การพัฒนาที่ยั่งยืน
อาชีวศึกษาควรเข้ามามีบทบาทในการจัดการเรียนการสอนสาขาวิชาใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น สาขาการท่องเที่ยว สาขาการบริการ สาขาช่างผสมโลหะ สาขาเหมืองแร่
5. การแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน
อาชีวศึกษาควรมีบทบาทในการสนับสนุนงานด้านบรรเทาสาธารณภัยให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ได้แก่ การจัดบริการช่วยเหลือและแก้ไขความเดือดร้อน เช่น งานด้านการก่อสร้าง งานด้านซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องกลในครัวเรือนและการประกอบอาชีพ ฯลฯ
6. การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
อาชีวศึกษาควรมีบทบาทในการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์เพื่อส่งเสริมการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพของประชาชน เช่น การคิดค้นเครื่องสกัดน้ำมันจากสบู่ดำฯลฯ นอกจากนี้การให้บริการทางด้ายอาชีพอย่างกว้างขวางก็จะเป็นส่วนช่วยตอบสนองความต้องการของชุมชนและสังคมได้เป็นอย่างดี3. แนวทางในการจัดการอาชีวศึกษาการจัดการอาชีวศึกษาในปริบทของสถานศึกษาในจังหวัดพิจิตรที่มีหน้าที่ในการผลิตกำลังคนด้านอาชีพควรมีแนวทางในการจัดการด้านต่าง ๆดังต่อไปนี้
1. ด้านหลักสูตรหลักสูตรที่เหมาะสมกับสภาพสังคมในปัจจุบันและเหมาะสมกับปริบทของชุมชนและสังคมในจังหวัดพิจิตร ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
1.1 หลักสูตรมีความสอดคล้องกับสภาพจริงของการพัฒนาเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
1.2 หลักสูตรต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ได้ในสภาพจริงของการปฏิบัติงาน
1.3 หลักสูตรควรให้ความสำคัญกับการจัดการด้านการตลาดซึ่งมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จในอาชีพ
1.4 หลักสูตรอาชีวศึกษาควรให้ความสำคัญกับวิชาสามัญสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ
1.5 หลักสูตรควรจะมีการเตรียมผู้เรียนให้มีความรู้พื้นฐานเพียงพอที่จะเรียนทางด้านอาชีวศึกษา
2. ด้านการจัดการเรียนการสอนการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาควรมีการปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอนให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และสอดคล้องกับสภาพของจังหวัดพิจิตร ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
2.1 การจัดการเรียนการสอนควรเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริงมากยิ่งขึ้น และเน้นการสอนในภาคปฏิบัติมากกว่าเนื้อหาวิชาการ
2.2 การจัดการเรียนการสอนควรเน้นกระบวนการคิด ให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดที่หลากหลาย
2.3 การจัดการเรียนการสอนที่ดีและมีคุณภาพสมควรจะเป็นการจัดการเรียนการสอนที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการ
3. ด้านตัวผู้เรียนความคาดหวังของชุมชนและสังคมที่มีต่อตัวผู้เรียนหรือผู้ที่สำเร็จการศึกษาด้านอาชีวศึกษามีลักษณะดังต่อไปนี้
3.1 ผู้เรียนทางด้านอาชีวศึกษาควรเป็นผู้มีวัฒนธรรมในการทำงาน ได้แก่ มีวินัย เคารพกฎระเบียบ มีน้ำใจ รู้หน้าที่ ตรงต่อเวลา ฯลฯ
3.2 มีบุคลิกภาพที่ดี และมีความพร้อมที่จะเข้าสู่โลกของการทำงานอย่างแท้จริง
3.3 มีความรู้ความสามารถในการติดต่อสื่อสาร
3.4 มีความสามารถในการค้นหาความถนัดที่แท้จริงของตนเอง เพื่อเข้าสู่ระบบการจัดอาชีวศึกษา
3.5 ควรมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในด้านวิชาชีพและการทำงาน
3.6 ความรู้ความสามารถทางด้านคอมพิวเตอร์ และภาต่างประเทศถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เรียนโดยตรง
4. ด้านการจัดการการจัดการอาชีวศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมควรให้ความสำคัญกับปริบทของพื้นที่อย่างจริงจัง ควรมีการปรับบทบาทและพัฒนายุทธศาสตร์ในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับปริบทของพื้นที่เป็นสำคัญ ซึ่งควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
4.1 อาชีวศึกษาควรเป็นศูนย์ต่อยอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับประชาชนในพื้นที่
4.2 อาชีวศึกษาควรเป็นศูนย์บ่มเพาะทางด้านสมองให้กับชุมชนและสังคม
4.3 อาชีวศึกษาควรนำตนเองเข้าสู่ชุมชนและสังคมให้มากขึ้นกว่าปัจจุบันและมุ่งการทำงานนอกกรอบที่เคยปฏิบัติกันอยู่เป็นประจำ
4.4 อาชีวศึกษาควรเร่งรัดการร่วมมือและประสานงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถานประกอบการที่มีความต้องการแรงงานมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการประสานข้อมูลกันอย่างใกล้ชิด
4.5 อาชีวศึกษาควรมีการแสงหาความร่วมมือกับสถานประกอบการในการจัดการเรียนการสอนร่วมกันเพื่อสร้างกำลังคนที่มีทั้งความรู้และความชำนาญอย่างแท้จริง
4.6 อาชีวศึกษาควรมีการแสวงหางบประมาณจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและสถานประกอบการเพื่อให้เกิดความเพียงพอในการเอื้อประโยชน์ต่อการจัดการอาชีวศึกษาที่มีประสิทธิภาพ
4.7 การสร้างเครือข่าย และภาคีความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงาน องค์กรภายในพื้นที่จังหวัดพิจิตรเป็นภารกิจเร่งด่วนที่อาชีวศึกษาสมควรดำเนินการเป็นการจัดการอาชีวศึกษา ที่จัดหลักสูตรได้เหมาะสมกับสภาพสังคม จัดการเรียนการสอนสอดคล้องกับการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี สอดคล้องกับปริบทของพื้นที่ ผู้เรียนได้รับประสบการณ์จริงตรงความคาดหวังสังคมที่มีต่อตัวผู้เรียน
เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์ต่อการพัฒนาองค์กรจากระดับพื้นฐานสู่ระดับสากลโดยใช้ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญให้ความสำคัญในการศึกษาและประสพการณ์ขอเป็นให้สร้างสรรค์งานเพื่อจังหวัดและประเทศชาติต่อไป