เรื่องเล่าจากดงหลวง 150 นายกเยี่ยมดงหลวงวันนี้


ดงหลวงคือพื้นที่ที่คุณพ่อท่านเข้าป่าเป็นครั้งแรกที่นั่น และพี่น้องดงหลวงได้ดูแลคุณพ่อท่านเป็นอย่างดียิ่ง ปัจจุบันสหายเกือบทุกคนที่เคยดูแล พันโทโพยม(สหายคำตัน) นั้นยังมีชีวิตอยู่ บางคนเป็นผู้ใหญ่บ้าน บางคนเป็นผู้นำความคิด เป็นปราชญ์ชุมชน และแน่นอนหลายคนเป็นชาวบ้านธรรมดา
วันนี้ท่านนายกเดินทางไปที่ดงหลวง โดยมุ่งตรงไปที่เป้าหมายคืออ่างห้วยขี้หมู โดยแวะรับประทานอาหารกลางวันก่อนที่อ่างห้วยไผ่ ซึ่งมีสำนักงานป่าไม้อยู่ที่นั่น อยู่ในเขตบ้านแก่งนาง ตำบลกกตูม หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้วก็จะเดินทางไปอ่างห้วยขี้หมู ตำบลดงหลวง 
ผู้บันทึกทราบเรื่องการเดินทางของท่านนายกมาก่อนแล้วโดยสหายล่าให้ฟัง ประเด็นก็เพื่อติดตามงานที่ท่านเคยสั่งการไว้ว่ามีความก้าวหน้ามากน้อยแค่ไหน อย่างไร  
ทำไมต้องไปดงหลวง ? อาจจะไม่ใช่ประเด็นสำหรับท่านทั้งหลาย เพราะท่านจะไปไหนก็ได้ที่ท่านต้องการจะติดตามงาน  แต่ที่เป็นดงหลวงเพราะว่า 
  • ดงหลวงคือพื้นที่ที่คุณพ่อท่านเข้าป่าเป็นครั้งแรกที่นั่น และพี่น้องดงหลวงได้ดูแลคุณพ่อท่านเป็นอย่างดียิ่ง ปัจจุบันสหายเกือบทุกคนที่เคยดูแล พันโทโพยม(สหายคำตัน) นั้นยังมีชีวิตอยู่ บางคนเป็นผู้ใหญ่บ้าน บางคนเป็นผู้นำความคิด เป็นปราชญ์ชุมชน และแน่นอนหลายคนเป็นชาวบ้านธรรมดา

 

  • กองทัพเคยรับปากสหายเก่าไว้ว่าจะช่วยเหลือด้านต่างๆเมื่อออกมาจากป่าแล้ว เช่น ที่ดินทำกิน การพัฒนาอาชีพ การพัฒนาแหล่งน้ำ ฯลฯ บางอย่างทำไปแล้วแต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ทำ หรือทำไม่สำเร็จ เป็นที่ค้างคาใจของเหล่าผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเป็นอย่างยิ่ง เมื่อท่านนายกรับตำแหน่งสูงสุดของการบริหารประเทศชาติ ท่านก็พยายามหาช่องทางทำตามที่กองทัพเคยรับปากไว้

  • ตรงอ่างห้วยขี้หมูนี้แหละครับคือบริเวณที่คุณพ่อท่านมาใช้ชีวิตในป่าตรงนี้เป็นปี ก่อนที่จะย้ายขึ้นไปภาคเหนือ  การทำอ่างเก็บน้ำและพัฒนาความจุให้มากขึ้นและจัดทำระบบส่งน้ำให้เกษตรกรได้นำน้ำไปใช้ประโยชน์ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่พี่น้องไทยโซ่แถบนี้

 นี่คือน้ำใจท่าน ความรับผิดชอบของท่านต่อบ้านเมือง ต่อคนยากจนที่ห่างไกลปืนเที่ยง  ผู้บันทึกไม่ได้เข้าร่วมต้อนรับท่านนายกฯ แต่ได้คุยกับบรรดาผู้นำชุมชนหลายคนมาก่อนแล้ว  ชาวบ้านเคยเรียกร้องหลายเรื่องแต่ระบบราชการตามปกติไม่สามารถตอบสนองได้ ด้วยหลายเหตุผล การที่ท่านนายกพยายามตอบสนองชาวบ้านนับว่าถูกต้องแล้ว

  

วัน เดือน ปี ชาวบ้านกลุ่มนี้ถูกดูถูกเสมอว่า โง่ ไร้การศึกษา สกปรก ฯลฯ ทัศนคติแบบนี้ยังมีอยู่ แล้วจะไปพัฒนาอะไร หากคิดเช่นนั้นตั้งแต่ต้นแล้ว เมื่อเกษตรกรเขาไม่ได้รับการพัฒนาตามที่คุยกัน ตกลงกัน จะให้เขาทำอย่างไร เขาก็ดิ้นรนไปตามเงื่อนไขที่เขามีอยู่ การทำงานแบบเก่าๆ ก็เป็นช่องว่างสำหรับนักธุรกิจท้องถิ่น หรือผู้ที่มีเงื่อนไขที่ดีกว่าที่ทำมาหากินกับชาวบ้าน ซึ่งมักจะเป็นการซ้ำเติมเขาไปอีกในทางตรงและทางอ้อม 

ภารกิจการพัฒนาสังคมนี่ใหญ่โตเหลือเกิน  ช่วยกันเถอะครับ

หมายเลขบันทึก: 118705เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2007 17:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 10:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

แวะมาเยี่ยมคะ อ่านบันทึกนี้คิดถึงครั้งยังเด็ก เขตระแวกมุกดาหารช่วงนั้นเป็นพื้นที่สีแดงของภาคอีสานที่อันตรายมาก

สวัสดีครับ P MOO

  • เคยเข้าดงหลวงช่วงนั้นหรือครับ น่าสนใจ
  •  เมื่อศึกษาและใกล้ชิดเขามากๆแล้วก็เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเขตปลดปล่อยที่นานที่สุด และเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ลงจากป่าหลังสุด
  • และปัจจุบันเขาก็ยังเกาะกลุ่มกันอยู่ และปรับตัวมาใช้ชีวิตแบบปัจจุบันครับ

ดีใจจังค่ะ ที่ท่านนายกฯดงหลวง ไปอ่างห้วยไผ่

ท่านไปครั้งนี้คงได้พบเห็นอะไรที่ดีๆ และไม่ค่อยดี เห็นอะไรที่ควรช่วย ไม่ควรช่วย

เพราะหนูเองเป็นคนเขาวงแต่มีชีวตอยู่คู่กับเทือกเขาภูพานบริเวณภูดงหมูนี้มาตั้งแต่เกิด และมีไร่อยู่ห่างจากอ่างห้วยไผ่ประมาณ 1 กิโลเมตรได้ รู้ซึ้งถึงคำว่าภู คำว่าป่า คำว่าน้ำ คำว่าอาหาร

แต่เมื่อป่าหมด เหลือแต่ภูหัวโล้น ทุกอย่างจึงหมด

แต่ด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทำให้อ่างห้วยไผ่ก่อกำเนิดขึ้น และยังประโยชน์แก่ชาวบ้านตาดำทั้งหลายที่อยู่ในละแวกบ้านแก่งนาง บ้านนาหินกอง มีชีวิตที่ดีขึ้น 

ขอภาวนาให้ท่านนายกฯได้ช่วยชาวบ้านได้ดังที่หวังค่ะ ภาวนา

 

สวัสดีครับ P นาง พันดา เลิศปัญญา

  • น่าที่จะมีอะไนดี ดี เล่าสู่กันฟังนะครับ ช่วงยุคก่อนของดงหลวง โดยเฉพาะก่อนและหลัง ผกค.เข้ายึดครองถิ่นนั้นครับ
  • สิ่งที่ท่านนายกพยายามทำคือ ช่วยเหลือชาวบ้านตามสัญญาของกองทัพเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ทราบว่าก่อนหน้านี้ท่านพยายามผลักดัน แต่ไม่เคยมีนายกคนใดทำตามที่ท่านร้องขอ
  • มาบัดนี้ท่านเป็นนายกก็เลยทำตามที่สัญญากับชาวบ้านครับ
  • ข้อเท็จจริงมากกว่านี้ ผมไม่ทราบครับ
  • ยินดีที่รู้จักคนเขาวง เพื่อผมเป็นนายกองค์การอยู่นากะเดา ชื่อเขาโด่งดังอยู่หรอกครับ บำรุง คโยธา วันนี้ท่านนายกก็ไปดูงานของเขา และเห็นออกทีวีตอยค่ำด้วยครับ

       แวะมาระลึกความหลัง  เมื่อครั้งเดินทางเข้าพื้นที่ชมพูค่ะ    กับการเดินทางสาย  กาฬสินธุ์- มุกดาหาร  -หว้านใหญ่  เราจะไม่คุ้นเคยกับรถรา  เพราะไม่มีให้เห็นมากนัก   ที่คุ้นตาคือ  รถบัสสีส้มเป็นรถประจำทาง  ใช้เวลาในการเดินทาง  เช้ามืดจากกาฬสินธุ์ ถึงหว้านใหญ่ มืดพอดีค่ะ  รับรองไม่มีรถสวนทางมาตลอดระยะเวลาที่นั่งอยู่บนรถ  เพราะมีคันเดียวภายในรอบ  1 วัน    อีกยี่ห้อนึงคือรถหกล้อมีตัวถังเป็นไม้  แต่มีอีกชนิดคือรถขนท่อนซุง  ซึ่งไม่เคยพบเจอมาเป็นเวลาเกือบ  30  ปีแล้ว    รถขนซุงใหญ่ๆ  มันน่าดูมากเลยนะค่ะพี่บางทราย    และจะได้บรรยากาศในการเดินทางมากขึ้นถ้ามีรถขนซุงสวนทางมา   มันเหมือนเราเดินผ่านพญาเสือโคร่งตัวใหญ่ๆ   มันมีความสุขมากค่ะ  แล้วความรู้สึกนั้นก็หายไป         

โห...ไม่เล่าให้ฟังบ้างเลยครับ

นี่ครูองุ่น ต้องเขียนบันทึกเล่มใหญ่แล้วหละครับ  เอาออกมาประสบการณ์ช่วงนั้นน่ะ  มันไม่มีอีกแล้ว และมันเป็นประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ชาติ เรานะครับที่คนหนุ่มสาวสมัยนั้นตัดสินใจเช่นนั้น

เด็กสมัยนี้ทำอะไรกันอยู่.. ว่างๆเล่าให้ฟังบ้างนะครับ อยากฟังจังเลย

  • ชาวบ้านที่อยากได้ไม่ได้
  • ชาวบ้านที่ไม่อยากได้ ถูกยัดเยียดให้
  • งง จริงกับการทำงาน
  • เป็นกำลังให้พี่น้องชาวโซ่ครับ

สวัสดีครับ P ออต

  • เรามีความเชื่อมานานว่าข้าราชการคือตำแหน่งงานที่มีเกียรติ ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นนั้น
  • แต่ระบบงานหมดสมัยไปแล้วครับ ไม่เหมาะสมกับยุคสมัยนี้แล้ว นับวันเขาจะล้าหลังและกลายเป็นตัวถ่วงในที่สุด ถ่วงการพัฒนาประเทศนะซีครับ
  • พี่คลุกคลีกับงานพัฒนาภายใต้กรอบระบบนับ20-30 ปีมาแล้ว มีแต่บุคคลากรบางท่านเท่านั้นที่เข้าใจและอุทิศงานให้กับชาวบ้าน และพยายามเอื้อระบบให้เข้ากับความต้องการของชาวบ้าน ให้สอดคล้องกับหลักการทำงานใหม่ที่เอาชาวบ้านเป็นตัวตั้ง
  • เมื่อไม่เปลี่ยน ปัญหาก็เกิด สิ่งที่จะทำกับชาวบ้านมาไม่ตรงเวลา มาแล้วไม่มีประสิทธิภาพ
  • พี่ตำหนิระบบ ครับว่าควรปรับเปลี่ยน ซึ่งรู้ว่ายากเย็น  แต่ต้องจารึกไว้ว่ามีคนที่มีความเห็นเช่นนี้ และพยายามสะท้อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครับ 

สวัสดีค่ะ พี่บางทราย

      เขาวงในอดีตก็คืออดีตค่ะ เราคงทำให้ดีเหมือนในอดีตไม่ได้  แต่ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันทำให้ได้สักครึ่งหนึ่งของอดีตก็คงดี

    เขาวงเคยอุดมสมบูรณ์ ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล ผู้คนใจดี ถ้ามีงานบุญก็เป็นบุญล้นฟ้า

    แต่ช่วงปี 19 - 24 เขาวงเป็นพื้นที่สีแดง มีเครื่องบินบินดังกระหึ่มลั่นฟ้า บินไปมาเหมือนฝูงเหยี่ยวที่คอยมาเก็บเกี่ยวกินไก่ตัวน้อย ทุกๆ วันจะมีใบปลิวโจมตี ผกค. ปลิวว่อนทั่วท้องฟ้า 

      สนามกีฬาที่โรงเรียนเป็นสนามบินของกองทัพ มีฮอมาจอดรอและจอดรับทหารหารไม่เว้นวัน พลอยทำให้นักเรียนที่ไม่รู้เรื่องตื่นเต้นที่ได้เห็นเครื่องบิน

    ทุกค่ำคืนจะได้ยินเสียงปืนก้อง รุ่งเช้าก็รอฟังข่าวว่า ผกค.บุกบ้านไหน ตายกี่ศพ เศร้ารายวันจากน้ำมือของคนที่ไม่เข้าใจและคนที่ใจเป็นพิษ

    พอมีโครงการผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย มีถนนสายเขาวงดงหลวง เต่างอย

   ถนนที่คราคร่ำด้วยรถจีเอ็มซีเปลี่ยนเป็นถนนของรถขนซุงที่วิ่งฝุ่นตลบให้นักเรียนกินฝุ่นต่างข้าว

  เมื่อรถขนซุงหมดไปก็กลายเป็นรถขนถ่าน จากน้ำมือของรัฐผ่านระบบการสัมปทานทั้งนั้น

  ชาวบ้านได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ กับผืนป่าที่เฝ้ารักษามาชั่วชีวิต

 เมื่อไม่มีป่ามีหรือชาวบ้านจะงอมืองอเท้า ก็เร่งรุดรุกป่าที่เจียนตายต่อท้ายจากนายทุน สุดท้ายป่าไม้กลายเป็นป่ามันสำปะหลัง เขากลายเป็นเขาหัวโล้น

  นึกถึงที่ไรได้แต่สะท้อนใจ รัฐต่อว่าชาวบ้านปาว ๆ ว่าเป็นคนทำลายป่า

  แต่ตัวปัญหาตัวจริงเสียงจริง คือรัฐที่หยิบยื่นสิ่งไม่พึงประสงค์ให้กับชาวบ้าน

  ได้แต่หวังค่ะว่าสักวันคงได้กลับไปพัฒนาบ้านเกิด

  ขอบคุณมากค่ะที่ให้โอกาสได้บอกเล่า

  สวัสดีค่ะ

 

 

   

สวัสดีครับ P นาง พันดา เลิศปัญญา
  • โอ้ โห รายละเอียดเหล่านี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากนะครับ หากมีโอกาสขยายรายละเอียดนะครับ
  • ขอบคุณมากครับ อยากรู้ละเอียดๆมากกว่านี้ครับ

สวัสดีค่ะ พี่ชาย

  • คิดถึงจังเลยค่ะ พี่ชายคนดี
  • ไม่เขียนอะไรให้น้องอ่านเลย
  • สบายดีไหมคะ  ครูอ้อยกับพ่อบ้านคิดถึงพี่ชายเสมอค่ะ

รักษาสุขภาพนะคะ

สวัสดีครับน้องสาวน้องชายที่แสนดีและคิดถึงเช่นกันครับ

พี่กำลังลุ้นให้พนักงานเขียนงานมาลงในนี้ ดูเหมือนง่าย แต่ยากจังเลยนะครับที่จะผลักดันให้คนอื่นเขียนบันทึก

คงอีกสักพักหนึ่งครับหากพนักงานเริ่มดีขึ้นก็จะลงมาแน่นอนครับ

 

ฝากความคิดถึงสะมะนึกะด้วยนะครับ

 

ขออภัยน้องอ้อยพี่ไปเที่ยวเหมืองปิล็อกมา ไม่ได้จับคอมเลยครับหลายวัน

สวัสดีครับท่านบางทราย จากกันเหมือนจากไกล ตามไปลานปัญญา มีปัญหาเวลาเข้า

ดีใจได้ฟังเรื่องเล่า เรื่องราวแห่งดงหลวง......

ดีใจจริงๆครับท่าน

สวัสดีครับ  วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

 

พ่อครูบาพูดให้ฟังถึงวอญ่าอยู่ครับ อีกสักพักจะมาลุยต่อครับ กำลังรลกับทีมงานให้ฝึกเขียนบันทึกอยู่ครับ สำหรับเขานี่มันยากเย็นจริงๆ  อิอิ

อ.ดงหลวง ธรรมชาติสวยงาม มากมีในสิ่งที่ยังไม่รู้ วัดภูกำพร้าประวัติที่มายิ่งหน่าสนใจ

เห็นด้วยครับ วัดภูำพร้ามีที่มาที่น่าสนใจครับ นังมี "ถ้ำเสรีไทย" วัดที่บ้านนาหลักที่ไม่มีพระ แต่ชาวบ้านมาทำพิธีกับ "ห่มขาว" ในเชิงประวัติศาสตร์ที่นี่คือเขตปลดปล่อยแห่งแรๆของ พคท. และเป็นเขต ผรท.ออกจากป่าเป็นกลุ่มสุดท้าย เป็นที่พักของคณะกรรมการกลาง พคท. นักการเมืองทั้งแดงทั้งเหลืองมาใช้ชีวิตที่นี่มาก่อน นั่นในแง่ประวัติศาสตร์ แง่ที่ไม่ดี ก็คือ แหล่งปลูกกัญชา ค้าไม้เถื่อน สิ่งเสพติด เส้นทางผ่านสินค้าที่ผิดกฏหมาย ฯลฯ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท