ใน ธัมมจักกัปปวัตตนสูตต์ คุณโยม นายขำ มีความเห็นว่า...
ข่าวคราวพระที่ออกมาตอนนี้(ทั้งพระเป็นๆและพระเครื่อง)ยิ่งทำให้เห็นว่า...หลังยุคท่านพุทธทาสแล้ว...หามีผู้ใดกล้าออกมากระตุกสังคมแห่งความเชื่อให้ชลอเส้นทางแห่งความเสื่อมได้เลยจริง ๆ....
ทำให้ผู้เขียนผุดเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งผู้เขียนคิดว่าพระสงฆ์แยกออกไปจากการเมืองได้ยาก แม้จะมีกฎหมายห้ามสิทธิบางอย่างในทางการเมืองของพระสงฆ์ก็ตาม... โดยการแยกออกไปจากการเมืองได้ยากนี้ อาจมี ๒ สาเหตุ กล่าวคือ
.....
การเมือง คือ กระบวนการแสวงหาอำนาจเพื่อความเป็นไปและความเป็นอยู่ทางสังคมตามที่พึงประสงค์ ซึ่งมีบุคล กลุ่มบุคล หรือองค์กรจัดตั้งอื่นๆ เคลื่อนไหวไปตามวัตถุประสงค์นั้นๆ....
พระสงฆ์ คือ พระ-เณรรูปใดรูปหนึ่ง คณะสงฆ์ หรือองค์กรจัดตั้งของสงฆ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นๆ...
ตามนัยข้างต้น เมื่อถือว่า พระสงฆ์เป็นสมาชิกของสังคมแล้ว ก็ไม่สามารถแยกออกจากการเมืองได้...
ส่วนประเด็นว่า พระ-เณร คือ นักบวชไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือน ผู้สละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแสวงหาการพ้นทุกข์... ซึ่งประเด็นนี้ก็รับรู้กันอยู่ทั่วไป
.....
การเมืองกับพระสงฆ์ หรือ พระสงฆ์กับการเมือง ผู้เขียนมีเรื่องที่จะบ่นมากมายในหัวข้อนี้ แต่จะพักไว้ก่อน รอผู้มีความเห็นเข้ามาเยี่ยม...
พระอาจารย์ครับ...
ที่จริงประเด็นพระสงฆ์ต้องออกแรงอดอาหารเพื่อต่อรองให้บรรจุพระพุทธศาสนาในรัฐธรรมนูญ...คล้ายกับว่าสวนทางกับความเชื่อแบบพุทธแท้นะครับ...
พุทธองค์ทรงสั่งสอนให้สาวกรู้...แจ้ง...ในโลก...เพื่อให้เบื่อ...หน่าย...คลายจากความอยากความต้องการ(กิเลสอาสวะ) เพื่อเข้าสู่หนทางพ้นทุกข์...
กระผมจึงวิเคราะห์ว่าผู้คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนั้น... จึ่งยากนักที่จะหาแนวร่วมจำนวนมากเพื่อสร้างพลังกดดันทางการเมือง...
ซึ่งแทบไม่แตกต่างจากกลุ่ม นปก....อิอิ...เลยเถิดไปจนได้นะเรา....55555
รบกวนท่านผู้รู้ ช่วยตอบคำถาม ด้วยนะครับ
1. พระพุทธศาสนา มีหลักการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนอย่างไรบ้าง?
2. บทบาทของพระสงฆ์ กับการมีส่วนร่วมทางการเมืองที่เหมาะสมมีอย่างไรบ้าง?
ช่วยตอบให้รู้แจ้งด้วยนะครับ
ขอส่งมาทาง E-mail ด้วยนะครับ
ขอขอบคุณอย่างสูงครับ