การทำขวดฆ่าแมลง
การจับแมลงขนาดกลาง ขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก ควรมีอุปกรณ์พื้นฐานคือขวดฆ่าแมลง(killing bottle) แมลงหรือสัตว์ที่เราจับจะได้คงสภาพสมบูรณ์เพื่อนำไปศึกษาชนิด นิเวศ พฤติกรรม ศัตรูธรรมชาติ เป็นต้น เริ่มต้นด้วยการเลือกขวด ควรเป็นขวดแก้วใส ปากกว้าง ทรงสูง ขวดกาแฟ สูงประมาณ 1 คืบ จะดูเหมาะกว่าขวดแยมที่ป่องตรงกลางแต่ก้นขวดเล็กเนื่องจากใส่สารเคมีฆ่าแมลงได้น้อยกว่า เลือกชนิดฝา 3 เกลียว ควรใช้ขวดแก้วไม่ควรใช้ขวดพลาสติกเพราะสารเคมีสามารถซึมออกมานอกขวดได้ เตรียม ตัดกระดาษแข็งสำหรับปิดทับปูนพลาสเตอร์ ขั้นต่อไปเติมสารโปรแตสเซียมไซยาไนด์ หรือแคลเซียมไซยาไนด์ ลงไปที่ก้นขวด(มีลักษณะเหมือนเกลือสีขาวขุ่นเวลาถูกผิวหนังจะแสบ ๆคัน ๆ ต้องไปรีบล้างออก มันจะลื่น ๆ มีอันตรายมาก ต้องทำด้วยความระมัดระวัง) ใส่ 2 ช้อนกาแฟ จากนั้นใส่ปูนพลาสเตอร์ลงไปหนาประมาณ 3 ซม. กดให้แน่น ผิวหน้าเรียบ ลองเอียงดูถ้าปูนไม่แตกออกมาเป็นผงข้างขวดก็ใช้ได้ จากนั้น ฉีดน้ำเป็นละอองฝอยลงไปด้านข้างขวดพร้อม ๆกับ หมุนขวดกาแฟไปตลอดเวลาอย่าหยุด ดูว่ารอยน้ำซึมลงไปประมาณ 1 ซม. ให้ปิดฝาขวด ลองเอามือแตะบริเวณที่เพิ่งฉีดน้ำลงไปจะรู้สึกว่าร้อนนิด นิด แสดงว่าปูนพลาสเตอร์ทำปฏิกริยากับน้ำ ส่วยสารเคมีให้ดูที่ก้นขวด ยังอยู่ที่เดิม ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ให้ปูนแข็ง จากนั้น ใส่แผ่นกระดาษแข็งที่ตัดไว้ทับลงบนหน้าปูนพลาสเตอร์ที่ทำไว้แล้วนี่ทำหน้าที่เป็นกระดาษซับ สังเกตุว่าขอบกระดาษต้องแนบสนิทกับผิวปูนไม่ย่ย ไม่มีโพรง เรียบสนิท จากนั้นใส่กระดาษทิชชูลงไป 2 แผ่นเพื่อซับเวลาแมลงใส่ลงไปจะได้ไม่เสียหายเช่นพวกผีเสื้อ แมลงปอ ไม่ควรไปใส่รวมกับพวกด้วง หรือ ตั๊กแตน เพราะอาจทำให้ปีกผีเสื้อฉีกขาดได้ สังเกตุว่าแมลงบางชนิดก่อนตายอาจอวก สารเหลว ๆสีน้ำตาลออกมา ทำให้เกิดเป็นรอยด่าง ๆ เมื่อตายสนิทแล้วจึงเอาไปปักเข็มเซ็ท และอบแห้ง ข้างขวดควรติดสติกเกอร์ขนาด 5X3 ซม.เขียนคำว่าขวดฆ่าแมลง มีรูปกระโหลกกระดูกไขว้ วันที่ทำ ควรปิดฝาให้สนิทเสมอ ไม่ควรนำขวดไปจับแมลงที่เปียกน้ำหรือ เลอะเทอะ ควรเป็นพวกแมลงบิน
บ้านสมุนไพร-odd
ความเห็น (2)
หากไม่ใช้ สารเคมี ไซยาไนด์ จะใช้สารอินทรีย์อย่างอื่นแทน มีไหมคะ???... จะได้ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยงน่ะค่ะ...
.....
ขอบคุณค่ะ..ที่นำสาระดีๆมาบอกเล่า
odd-บ้านสมุนไพร
ใช้พิมพ์เสน ,ลูกเหม็น ,ก้อนดับกลิ่น ,แอมโมเนียหอม , ฟอร์มาริน ไฮเตอร์(คลอรีน) ฯลฯ แต่นานมากกว่าจะตาย!