พฤติกรรมหลังอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- สูบบุหรี่หลังอาหาร ปกติการสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอยู่แล้ว และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบสูบบุหรี่หลังอาหารขอให้ทราบว่าการสูบบุหรี่เพียงมวนเดียวในช่วงหลังอาหารนั้นสามารถจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้สูงพอๆ กับการสูบบุหรี่ 10 มวนในช่วงเวลาอื่นๆ
- ดื่มชาหลังอาหาร ในสมัยโบราณ คนจีนพบว่าการรักษาผู้ป่วยนั้น ชาสามารถทำให้ผู้ป่วยแข็งแรง ดับกระหาย ช่วยในการย่อยอาหาร แก้อ่อนเพลีย นอนหลับไม่เพียงพอ ปัสสาวะคล่อง แก้หงุดหงิด ลดไขมัน เป็นประโยชน์มากมาย แต่ถ้าการดื่มไม่ถูกต้อง ก็อาจเกิดโทษได้เช่นกัน หากใครชอบดื่มชาหลังอาหาร เพื่อล้างปากและเพื่อช่วยลดอาการเลี่ยนจากการกินอาหารมันๆ อย่างไรก็ดีในน้ำชาจะมีสารบางอย่างที่จะทำให้การย่อยและดูดซึมโปรตีนจากอาหารเป็นไปได้อย่างยากลำบาก รวมทั้งยังมีข้อหลีกเลี่ยงในการดื่มชา 10 ข้อ คือไม่ควรดื่มในขณะท้องว่าง ห้ามดื่มชาแก่จัด ห้ามดื่มชาเย็นจัด ห้ามดื่มชาร้อนจัด ห้ามชงใบชาร้อนๆ นานเกินไป (นิโคตินจะมาก) ห้ามชงชาเกิน2 ครั้ง (ควรเปลี่ยนใบชาบ่อยๆ) ไม่ควรดื่มชาแก่ก่อนอาหาร หลังอาหารไม่ควรดื่มชาแก่ๆ ทันที ห้ามดื่มชาพร้อมยาทุกชนิดและไม่ควรดื่มชาค้างคืน ในกรณีป่วยด้วยแผลเรื้อรัง เส้นเลือดตีบ ความดันสูง มีไข้สูง โรคนอนไม่หลับ โรคประสาทไม่ปกติ รวมทั้งหญิงมีครรภ์ ไม่ควรดื่มชาหรืองดดื่มได้จะดี
- อาบน้ำทันทีหลังอาหาร เนื่องจากการอาบน้ำทันทีหลังอาหารจะทำให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตไหลเวียนไปทั่วร่างกาย แทนที่จะไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงเฉพาะบริเวณกระเพาะอาหารเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้จึงอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการย่อยอาหารของกระเพาะอาหารลดต่ำลง และก่อให้อาการปวดเสียดแน่นท้องอันเนื่องจากอาหารไม่ย่อย
- เข้านอนหลังอาหาร ทั้งนี้เพราะอาหารที่รับประทานเข้าไปจะไม่สามารย่อยได้อย่างสมบูรณ์ หากรีบเร่งเข้านอนเสียก่อน เท่านั้นไม่พอ การรีบเข้านอนหลังอาหารทันที ยังส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เกิดแก๊สและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เนื่องจากอาหารที่ยังย่อยและดูดซึมไม่เสร็จสมบูรณ์ ตกค้างและบูดเสียในกระเพาะอาหารนานเกินไป
สวัสดีค่ะ
น่าอ่าน และเป็นข้อมูลที่ดีค่ะ
มีประโยชนืดีคะ จะได้กินข้าวแล้วยังไม่อาบนำ และไม่นอนทุกครั้ง