เมื่อเดินเข้าไปใน โรงเรียนบ้านหนองราชวัตร (อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี) รู้สึกแปลกใจว่าทำไมโรงเรียนนี้มีแต่ความร่มรื่น สดชื่น สบายใจ ต้นไม้ ใบหญ้า แปลงผัก สวนหย่อม ดูสวยงามเขียวชอุ่มไปทั่วบริเวณ อยากจะรู้ว่าเขาดูแลรักษากันอย่างไรจึงเป็นเช่นนี้ได้ เพราะถ้าใครเคยไป อ.หนองหญ้าไซ คงจะรู้ว่าที่นี่คืออีสานของเมืองสุพรรณบุรี มันแห้งแล้งและขาดน้ำ ต้นไม้ พืชสวน พืชไร่ ต้นข้าว ก็รอคอยแต่น้ำฝนบนฟ้าเท่านั้น ที่นี่เขาจึงแปลกกว่าที่อื่น เมื่อเจอหน้าผู้อำนวยการ ท่าน ผอ.เกรียงศักดิ์ โพรามาต ผมรีบถามก่อนเป็นอันดับแรก “พี่ครับ...พี่ทำอย่างไรทำไมต้นไม้ ผักหญ้า ในโรงเรียนจึงงดงาม เขียวชอุ่มอย่างนี้ มีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่า” ผอ.รีบเล่าเป็นเรื่องราวยืดยาว พอสรุปได้ว่า แต่เดิมชาวบ้านจะรู้จักใช้แต่ปุ๋ยเคมี ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งเมื่อนำมาใช้แล้วจะทำให้ดินแข็ง ไม่ร่วนซุย โดยปกติดินที่นี่ก็มีปัญหาที่ไม่เหมาะกับการปลูกพืชอยู่แล้ว ดังนั้นในการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และการงานอาชีพฯ (งานเกษตร) ในช่วงชั้นที่ 1-2 ครูและนักเรียนจึงช่วยกันระดมความคิดว่าจะทำ ปุ๋ยชีวภาพ ซึ่งได้แนวคิดมาจากการที่นักเรียนได้ดูข่าวจากทางโทรทัศน์ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องดินไม่ดีและการปลูกผักให้งอกงาม โดยได้เชิญ ภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่มีความรู้มาช่วยในการจัดทำปุ๋ย
วิธีทำปุ๋ยของนักเรียนก็ง่ายมาก เอาปุ๋ยคอก 10 กก. แกลบดำ 10 กก. รำละเอียด 10 กก. มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน รดด้วยน้ำ EM. (เชื้อจุลินทรีย์) 1 ลิตร คลุกเคล้าผสมกันเข้าให้ทั่ว นำกากน้ำตาล 3 ลิตร มาราดรดลงไป ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกทีแล้วเกลี่ยมากองไว้ คลุมด้วยกระสอบป่านทิ้งไว้ 3-4 วัน โดยไม่ต้องกลับเพื่อให้ EM. ย่อยสลายวัสดุต่างๆ ให้เข้าด้วยกัน เพียงเท่านี้นักเรียนก็มีปุ๋ยคุณภาพดีเอาไว้ใช้แล้ว
ปุ๋ยของโรงเรียนทำประโยชน์ให้กับโรงเรียนนานัปการ สิ่งแรก นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะกระบวนการในการทำปุ๋ย ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง รู้จักการทำงานเป็นทีม มีวินัยและความรับผิดชอบ รักการทำงาน สิ่งที่สอง นักเรียนได้เรียนรู้การปลูกผักในทุกระดับชั้น เช่น ผักบุ้ง ผักกาด คะน้า กวางตุ้ง ผักชี พืชผักสวนครัวต่างๆ ฯลฯ แล้วนำปุ๋ยที่ทำมาใส่ ทำให้ผักเจริญงอกงามดีมาก โรงเรียนได้นำผักที่นักเรียนปลูกไปทำโครงการอาหารกลางวันให้เด็กรับประทาน เด็กทุกคนมีข้าวกิน ผักที่เหลือยังนำกลับไปให้ผู้ปกครองที่บ้านได้อีกด้วย สิ่งที่สาม นักเรียนนำปุ๋ยไปให้ผู้ปกครองใช้ที่บ้าน และโรงเรียนยังนำไปแจกให้ชาวบ้านใช้กันทั้งหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ดีขึ้น เป็นผลย้อนกลับเอามาช่วยเหลือโรงเรียนอีกทีหนึ่ง สิ่งที่สี่ ทำให้โรงเรียนสวยงาม ร่มรื่น มีต้นไม้ สวนหย่อมที่เขียวชอุ่มตลอดทั้งปี สิ่งที่ห้า ทำให้ดินมีคุณภาพดีขึ้น ไม่เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เป็นการช่วยสังคมทางอ้อม
นับว่าเป็นยุทธวิธีที่เรียกว่า ปุ๋ย : พัฒนาการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิต ใครสนใจเขาไม่สงวนลิขสิทธิ์ลองเอาไปทำดู ขณะนี้เขากำลังพัฒนาต่อยอดเอาไปทำยาขับไล่แมลง รักษาความสะอาดห้องน้ำ ใครมีสูตรเด็ดๆ ก็เอามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ
(ขอขอบคุณสำหรับส.ค.ส.ที่มอบให้ตลอดมา)