ความฉ้อฉลในการลงประชามติ


แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เรื่องความฉ้อฉลในการลงประชามติ หนึ่งในเสียงคัดค้าน และไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 หนึ่งในสิทธิและเสียงในการแสดงออกทางการเมือง

ความฉ้อฉล

ในการลงประชามติ

 

ความฉ้อฉลในการลงประชามติ

แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน - เรื่องความฉ้อฉลในการลงประชามติ

ในขณะที่การลงประชามติเพื่อรับรองร่างรัฐธรรมนูญยังไม่เริ่มขึ้น กลับมีพฤติกรรมของกลุ่มผู้ยึดอำนาจที่จะทำให้ประชามติเพื่อรับรองร่างรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถสะท้อนความเห็นของประชาชนได้อย่างสุจริตเสียแล้ว เพราะกลุ่มผู้ยึดอำนาจได้ใช้สื่อของรัฐ โดยเฉพาะสถานีวิทยุในสังกัดกองทัพและโทรทัศน์บางช่อง โฆษณาชวนเชื่อด้วยความอันเป็นเท็จเพื่อหลอกลวงประชาชนในการลงประชามติให้รับร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๕๐

ความอันเป็นเท็จสองประการที่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนใคร่ขอชี้แจงความจริงแก่พี่น้องประชาชนก็คือ

๑. สถานีวิทยุในสังกัดกองทัพได้ออกอากาศเพลงเชิญชวนให้ประชาชนออกเสียงรับรองร่างรัฐธรรมนูญ ว่าเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสฉลองพระชนมายุ ๘๐ พรรษา

แท้จริงแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงระมัดระวังมิได้แสดงพระราชมติในเรื่องการรับรองรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด ฉะนั้น ไม่ว่าพี่น้องประชาชนจะออกเสียงในการลงประชามติไปในทางหนึ่งทางใด ก็ไม่ได้กระทบต่อพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น การกล่าวความอันเป็นเท็จเช่นนี้คือการนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาพัวพันทางการเมืองอย่างเปิดเผย หากประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นพระราชประสงค์จริง ย่อมนำความเสื่อมเสียมาแก่สถาบันพระมหากษัตริย์และวิถีทางของประชาธิปไตยอย่างมาก

๒. โฆษกโทรทัศน์บางช่อง และผู้มีบทบาทในสภาร่างรัฐธรรมนูญก็ตาม สภานิติบัญญัติแห่งชาติก็ตาม มักกล่าวเสมอว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้รับการรับรองในการลงประชามติ จะทำให้ไม่มีการเลือกตั้ง แท้จริงแล้ว รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.๒๕๔๙ ได้กำหนดชัดเจนว่า หากประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ คมช. มีหน้าที่เลือกรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่ง มาแก้ไขปรับปรุงแล้วประกาศใช้ภายใน ๓๐ วันหลังวันลงประชามติ รัฐธรรมนูญที่เคยใช้มาทั้งหมด (ไม่นับรัฐธรรมนูญและธรรมนูญของคณะรัฐประหารชุดต่างๆ) ล้วนย่อมมีฝ่ายนิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้งทั้งสิ้น ฉะนั้นถึงอย่างไรจะใช้รัฐธรรมนูญนั้นๆ ก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จริงอยู่ คมช.อาจเลือกรัฐธรรมนูญฉบับที่ล้าหลังกว่าร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๕๐ หรืออาจแก้รัฐธรรมนูญบางฉบับให้ตรงตามความต้องการอันไม่ชอบธรรมของตน และอาจมีบทเฉพาะกาลที่ผัดผ่อนการเลือกตั้งออกไปให้เนิ่นนาน แต่ไม่ควรลืมด้วยว่าคมช.ไม่อาจเลือกและแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ในสุญญากาศ หากต้องกระทำท่ามกลางกระแสสังคมที่ตื่นตัวขึ้นมาตัดสินใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญของตนแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะกดดันโดยสงบให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับซึ่งตนพอใจที่สุด พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ โดยการลงประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จะทำให้สังคมไทยมีอำนาจต่อรองในการกำหนดเนื้อหาของรัฐธรรมนูญมากกว่าคมช. เพราะพลังในการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญโดยผ่านการลงประชามติ ย่อมทำให้ คมช. ต้องฟังเสียงประชาชนมากขึ้น และแน่นอนว่า สังคมย่อมมีพลังต่อรองมากกว่าการยอมรับรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นโดยคนซึ่งคณะรัฐประหารไว้วางใจแต่งตั้งขึ้นเอง หากจะมีการลงประชามติเพื่อรับหรือปฏิเสธร่างรัฐธรรมนูญ พี่น้องประชาชนควรมั่นใจว่า กระบวนการลงประชามติต้องเป็นไปอย่างยุติธรรม โดยไม่ถูกฉ้อฉลด้วยการโฆษณาชวนเชื่อที่ฝ่ายอำนาจปั้นแต่งขึ้น

ดังนั้น ถ้าท่านเห็นพ้องด้วยกับแถลงการณ์ฉบับนี้ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนใคร่ขอความร่วมมือทุกท่าน ช่วยกันเผยแพร่แถลงการณ์นี้ต่อๆ กันไปให้กว้างขวาง โดยวิธีอีเมล์ลูกโซ่หรือแฟกซ์ลูกโซ่

หมายเหตุ

แถลงการณ์ และ แนวทางของเพื่อรณรงค์ไม่เห็นด้วยในการรับร่างรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็น และ การแสดงจุดยืนทางการเมือง ในการแสดงประชามติเพื่อรับ หรือ ไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550

  

หมายเหตุ

จุดยืนทางการเมือง ของ เวปบลอคนี้

เห็นด้วยและรับร่างรัฐธรรมนูญ

รวมทั้งสนับสนุนกระบวนการลงประชามติ โดยเชื่อมั่นว่า

การนำเสนอข้อมูลในการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น ถือเป็นสิทธิโดยชอบธรรม และเป็นบทพิสูจน์ทางการเมืองของประเทศไทย ที่ถูกต้องชอบธรรม

โดยจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย จะรับร่าง ไม่รับร่าง ไม่เป็นไร ขอให้เราได้ไปร่วมลงประชามติร่วมกัน

หมายเลขบันทึก: 110393เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2007 08:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
  • สวัสดีครับ
  • ผมไม่เห็นด้วยที่มีรัฐประหาร 
  • แต่วันที่ ๑๙ กย.หากไม่หยุดการโคตรโกงและโกงทั้งโคตร 
  • ประชาชนก็อึดอัดมาก  ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร  ทุกวันนี้ก็เผยออกมาเป็นระยะๆว่ามันมีมูล
  • การไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ  เป็นกลุ่มนี้ก็ยืนยันชัดเจนมาตั้งแต่ต้น  ผมว่าน่าชื่นชมจุดยืนที่ชัดเจน 
  • พร้อมกับอาจารย์ใจ  อึ้งภากร  ที่ออกมาวันแรกของการปฏิวติเลยว่าไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ
  • สำหรับผมนั้นเมื่อตรึกตรองแล้ว   มันไม่มีอะไรดีเลิศหรอก ทั้งกลุ่มคนการเมือง  และตัวรัฐธรรมนูญ   
  • อีกอย่างผมคิดถึงพม่าที่ยังร่างรัฐธรรมนูญไม่เสร็จเลย  เกือบ ๒๐ ปีแล้ว  
  • ผมจึงรับร่างนี้  เห็นไม่ดีตรงไหนก็จะรณรงค์ให้แก้กันไป
  • ผมจึงมีจุดยืนของผมดังนี้
  • ขอบคุณครับ

 

  • สวัสดีครับ คุณ
    P
  • จุดยืนทางการเมือง ของ เวปบลอคนี้

    เห็นด้วยและรับร่างรัฐธรรมนูญ

    รวมทั้งสนับสนุนกระบวนการลงประชามติ โดยเชื่อมั่นว่า

    การนำเสนอข้อมูลในการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น ถือเป็นสิทธิโดยชอบธรรม และเป็นบทพิสูจน์ทางการเมืองของประเทศไทย ที่ถูกต้องชอบธรรม

    โดยจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย จะรับร่าง ไม่รับร่าง ไม่เป็นไร ขอให้เราได้ไปร่วมลงประชามติร่วมกัน

  • ถึงผมจะเห็นด้วย และรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ผมก็ต้องการรับฟังความคิดเห็นอันหลากหลายครับ ผมเชื่อมั่น ว่าการลงประชามติ เป็นหนึ่งในทางออกที่สำคัญครับ เห็นเช่นไร สื่อสาร ด้วยการแสดงสิทธิ ลงประชามติได้ครับ

  • ขอบคุณมากครับ

  • สวัสดีครับ
  • ขอเพิ่มเติมในรายละเอียดครับ
  • ในกรณี ของการนำแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ซึ่งแสดงจุดยืนทางการเมือง
  • ในการอธิบายถึงความไม่ชอบธรรม ถึงความฉ้อฉล ในความพยายามเพื่อโน้มน้าวให้เกิดการรับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550
  • ผมคิดว่า ประเด็นนี้ เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
  • ไม่ว่าเราจะเห็นด้วย หรือเห็นต่าง
  • ความหมายในการสื่อสาร และการบอกกล่าว ข้อความในร่างรัฐธรรมนูญ มีความสำคัญ เท่ากับการยอมรับในความคิดเห็น
  • ในการแสดงสิทธิ ผ่านการลงประชามติ ไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไรครับ
  • ผมเห็นว่า การลงประชามติ เป็นการสรุปบทเรียนที่น่าสนใจทางการเมืองที่ชัดเจนในขณะนี้ ของประเทศไทยครับ
  • ผมเห็นด้วย และ ยอมรับในความหลากหลายครับ
  • ขอบคุณมากครับ

ผมอ่านเขามาว่า...”ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า ทักษิณตั้งใจพัฒนาประเทศไทยให้เป็นอินเตอร์ ตามสิงคโปร์ เกาหลีให้ทัน แต่สังคมไทยตามไม่ทันและรับไม่ได้ เพราะไดโนเสาร์หลงยุค(มีอำนาจเสียด้วย)เต็มเมือง แล้วจะไปตามทันได้ไง ...คิดๆแล้ว ทักษิณเลยหันไปทำธุรกิจอินเตอร์ดีกว่า ง่ายกว่าและสบายใจกว่าเยอะ สนุกกว่าด้วย เพราะมีกฎกติกาชัดเจน.. พัฒนาประเทศนี้ลำบาก อิทธิพล(นอกรัฐธรรมนูญ)ก็เยอะ อภิสิทธิ์ชนก็เยอะ มาเฟียก็เยอะ ไดโนเสาร์ยั้วเยี้ยไปหมด นักการเมืองประเภทสมองหมาปัญญาควายเต็มไปหมด ... สังคมนี้มีกติกา(รัฐธรรมนูญ)อย่างดี แต่ไม่ยอมใช้ วันดีคืนดีก็ฉีกทิ้งเสียยังนั้น หน้าตาเฉย ...ก็ว่ากันไป อยากอยู่กันไปแบบไทยๆประเภท "ในน้ำมีปลาในมีข้าว ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง กระฉึกกระฉัก ชามเช้าเย็นชาม" ก็ว่ากันไป....ใครไม่รู้เคยกล่าวไว้ว่า "ประเทศไม่ใช่ของข้าคนเดียว" คำพูดของคนท้อแท้สิ้นหวังนี้ยังทันสมัย และคงมีประเทศนี้แหละมั้งที่ประชาชนคิดอย่างนี้...ก็ขอให้ประเทศไทยโชคดี ขอให้ประชาชนหูตาสว่างและมีความหวัง

ผมคิดตามว่า  

น่าจะจริง และตั้งข้อสังเกตว่า  ทำไมหนังสือพิมพ์บางฉบับ เชียร์เผด็จการมาก

 ทั้งที่ตามหลักไม่ถูกต้องอย่างมาก และปัจจุบัน คมช. ก็ทำอะไรแย่ๆ   ทำตัวเป็นเซียนจอมวางแผน คนไทยชอบแบบนี้จริงเหรอ  ตะก่อนก็รู้สึกเฉยๆนะ แต่ตอนนี้ไม่ชอบมาก เพราะหนังสือพิมพ์ส่วนหนึ่งแหละที่เชียร์จนหน้าเกลียด ไม่อายบ้างเหรอครับ  บางทีเอาความรู้สึกส่วนตัวมาเขียน  ตรรกะ และกรอบทางความคิดพุ่งไปไกล ไม่เห็นผิดเห็นถูก

ผมอยากถามว่าเราต้องการอะไรแน่  อนาคตที่เดาได้ว่าเหมือน 10-20 ปีก่อนเหรอ!

 อย่างน้อยเมื่อก่อนสามารถแสดงออกได้อย่างมีอิสระแล้ว    แต่ตอนนี้มีอะไรมารับประกันว่าประชาชนจะได้มีโอกาสได้รับประกันจากผู้ปกครองจริงๆ  ข้อเท็จจริงอีกอย่าง คือ ไม่มีทางผู้มีอำนาจ(ที่ตรวจสอบไม่ได้)เขาจะเห็นความสำคัญของประชาชนมากกว่าพวกพ้องหรือ  เพราะว่าเขาต้องรักษาอำนาจของเขา  

ตอนนี้ผมสงสารตัวเองและอนาคตลูกหลานแล้ว  อนิจจา  ประชาชนที่ไม่อาจเห็นความจริงอีกต่อไป

 ขอให้ท่านรับฟังไว้เถิด 

และผมมีความเห็นต่อคือ  การจะพัฒนาอะไรสักอย่างจำเป็นต้องดำเนินแนวทางของมัน ไม่ควรลัดขั้นตอน เพราะระบบจะปั่นป่วน หาจุดยืนมิได้ และจะเกิดข้ออ้างต่างๆนานา เช่นอยากให้บ้านเมืองสงบ แต่ยอมให้ทหารมายึดอำนาจ สร้างกติกา ต่อไปเราก็จะวนเวียนอยู่เช่นเดิม  เช่นในหมู่บ้าน เราอาจเห็นว่ามีคนไม่ดีอยู่ เราไปหาผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บอกว่าครึ่งหนึ่งของหมู่บ้านยังเห็นว่าดี  ไม่ยอมจัดการ เราก็ไปหาพวกนักเลง ขอแรงช่วยกำจัดหน่อย  พวกโจรก็ทำให้ แต่มีเหรอโจรจะทำให้ฟรีๆ พวกโจรต้องทวงบุญคุณแน่  และอาศัยโอกาสที่คนหลายคนช่กำลังสะใจหาประโยชน์แน่  และต่อจากนั้นคุณจะต้องเป็นทาสโจรตลอด

 และต่อไปก็จะกลายเป็นประเพณี  โจรคุม ประชาชน

และข้อคิดอีกอย่างคือ ต่อไปพวกที่สนับสนุนจะต้องเสียใจ เป็น กบเลือกนาย

ในเจตนาของการเป็นประชาธิปไตยเป็น คือความต้องการของคนหมู่มากเพื่อประโยชน์ของคนหมู่มาก

ดังนั้นคนหมู่มากเขาก็เลือก เพราะตรงความต้องการของเขา และเขามีความสุข

แต่พวกเราคิดว่าพวกเขาถูกหลอก ดังนั้นต้องมาประเมินว่าเราคิดถูกจริงหรือไม่

ดังนั้นขอบอกคนที่รักการรัฐประหารว่า คุณไม่มีวันได้สังคมที่ดีหรอก เพราะคนที่คุณคิดว่าโง่จะต้องตายทั้งเป็น และจะกระทบมาถึงตัวคุณแน่นอน!!!!!!

รธน.ปี50 มีดีกว่าที่คุณคิดไว้เยอะนะครับทั้งในเรื่องการศึกษา ทั้งสิทธิ์เสรีภาพความเสมอภาค มีสิ่งใหม่เข้ามาก็ต้องลองไม่ใช่หรือคับ ผมเชิญชวนไปการับกันให้มากๆนะครับ เลือกรับชาติไทยจะพัฒนาไปยิ่งขึ้น

ไปลงมัติกันเยอะๆนะค่ะ รับร่างไม่รับร่างแล้วแต่ค่ะแต่ขอให้ทุกๆคนไปใช้สิทธิ์ วันที่ 19 สิงหาคม2550 นี้นะค่ะ

อยากให้บ้านเมืองสงบสุข ประชาชน รักสามัคคี

ถ้าให้ทักษิณครองประเทศโดยไม่มีรัฐประหาร จะเกิดอะไรบ้าง  และผู้ที่สนับสนุนให้ทักษิณเป็นนายก กรุณาชี้ให้ชัดหน่อยเถอะว่า ลางบอกเหตุที่ทำให้เห็นว่าประเทศไทยจะทัดเทียมสิงค์โปร ฮ่องกง อยู่ตรงไหน เพราะจนปัญญา มองไม่เห็นจริงๆ
  • เมื่อวานก็ผ่านไปแล้ว   พรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง  
  • วันนี้ค่อนข้างเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เสียงประชามติว่า  รับรัฐธรรมนูญ
  • ห้วงเวลาผ่านมาทำให้เห็นว่า  มันมีข่าวล่อ  ข่าวลวง  บิดเบือน  ซึ่งเป็นเกมส์ทางการเมือง  แม้เราไม่อยากเห็น  แต่มันก็เกิด
  • มนุษย์นี้แม้อยู่กันดีๆ  ลองยุให้ขัดกัน  มันก็เป็นเหตุได้ทั้งนั้น  เพราะยังเป็นคน
  • การมองประเทศไทยทั้งประเทศ 
  • เมื่อมองไปยังประเทศที่ก้าวหน้ากว่า  เจริญทางวัตถุ  เราก็อยากเป็นเช่นนั้น  
  • หากมองไปที่ประเทศที่ยากไร้กว่าเรา  ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อยในโลกนี้  เราก็รู้สึกว่าบ้านเรานี้แสนดีนักหนา  ในน้ำยังพอมีปลา  ในนายังพอมีข้าว  ในอ่าวก็ยังพอมีแก๊ส  อยู่บ้าง
  • ประเทศไทยจะก้าวไปต้องไปทั้งหมดด้วยกัน 
  • นั่นหมายความยังมีพี่น้องร่วมประเทศของเรายากจน  ไม่มีเวลาแม้จะมาคิด  มาพูด  มาสนใจหรอก ธรรมนูญ  เพราะท้องยังหิว  มีความทุกข์อยู่ทุกรูขุมขน   มีหนี้สินล้นพ้นตัว
  • เป็นไปไม่ได้หรอกที่ละทิ้งพี่น้องกลุ่มเหล่านี้ได้ 
  • เพราะเขาก็เป็นคนไทย  อยู่แผ่นดินผืนเดียวกับเรา  หรือแม้อยู่ข้างๆบ้านคุณเองนั่นแหละ
  • ต้องช่วยกันครับ  และไปด้วยกัน   แม้จะอายแต่มันเป็นความจริงนี่ครับ
  • เมื่อมีกติกาสูงสุดของประเทศ  เราต้องมีความหวังว่า  พรุ่งนี้ต้องดีกว่า 
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ

   เรื่องการเมืองเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนและละเอียดอ่อนมากๆเลยครับ  

   หลังๆนี้มันกลายเป็นเรื่องความเชื่อ  เรื่องจิตวิญญาณไปแล้ว  เป็นเรื่องของอุดมการณ์และปรัชญาชีวิต  ที่ยากจะทำความเข้าใจกันด้ยเรื่องบางเรื่อง  ด้วยเวลาที่จำกัด

   บางครั้งผมก็มองว่าเรื่องความเชื่อทางการเมืองเป็นเรื่องของความดีงาม  เป็นเรื่องของสติ  ปัญญา  เป็นเรื่องของอัตตา  ที่ต้องลดละ

    ความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยของเรานั้น  มันบาดลึก  มันเป็นแผลที่เรื้อรัง  เพราะว่าการหว่านเมล็ดพันธ์แห่งความเชื่อใหม่ๆ  เข้าไปแทรกซึมบนความพร่องทางสังคม  ความพร่องทางวัฒนธรรม  และท ยที่สุด  เป็นความพร่องทางปัญญา

 

    สังคมไทยมาถึงจุดที่แตกต่างกันอย่างมากสองขั้ว  คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสมานสามัคคีกันได้ 

 

   ผมเชื่อว่าด้านดีจริงต้องชนะด้านดีเทียม  เมืองเราเป็นพุทธ  แม้อุดมการณ์อันเลวร้ายจะเข้าครอบงำคนส่วนมากอยู่บ้าง  แต่ก็เป็นชนที่ไม่ใช้ตัวจักรในการเคลื่อนสังคมของเรา

 

    ขอเพียงเราอดทน  และร่วมกันสร้างสังคมแห่งพุทธ  สังคมแห่งความดีงาม    สังคมที่เน้นความถูกต้อง  เน้นจริยธรรม  กำจัดมนุษย์ประเภทตอแหลปลิ้นปล้อนไปให้หมดสิ้น    ผมเชื่อว่ามันจะดีขึ้นครับ

 

   วันนี้สิ่งที่ผมเห็นจากคะแนน  ในภาคของผม  ในบ้านเกิดของผม  ผมรู้สึกเสียใจ  ท้อแท้ผิดหวังอย่างมาก  กับผลคุแนนที่เกิดขึ้น  มันน่าหดหู่  สงสาร

 

    ผมเชื่อว่าถ้าหากพี่น้องเหล่านั้น  มีความรู้  มีการศึกษา  มีจิตวิญญาณที่อิสระ  ไม่ถูกชักนำหรือกล่อมด้วยคำพูดผิดๆ  หรืออามิสสินจ้างใด หรืออาจจะมาจากความเชื่อความเข้าใจเดิมที่ผิดๆ  จึงเกิดผลเช่นนี้

 

    เมื่อผลเป็นเช่นนี้  ผมเข้าใจว่า  ถ้าผ่านตรงนี้ไปได้  พี่น้องผู้คนเหล่านี้  ในบ้านเกิดของผม  จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะต้องได้รับการฟูมฟัก  ให้เกิดความรู้  เกิดความเข้าใจต่อโลกที่ซับซ้อนมากขึ้น   ต้องส่งผ่านข้อมูล  ต้องได้รับการฝึกฝนและสร้างทักษะในการรับรู้และเรียนรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง

 

   ผมรู้สึกเกิดความผิดหวัง และโทสะเล็กน้อยต่อคน  ต่อผู้คน  ต่อกลุ่มคนที่มีอำนาจ  ที่ทำให้ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือของตนเอง  เป็นฐานของความเชื่อ  ฐานอำนาจ

 

   สุดท้ายบันทึกของพี่มีคุณค่าและประโยชน์  แม้ว่าจะล่อแหลมต่อการถูกจับตามอง  ทั้งผู้มีอำนาจ  และผู้ดแลระบบ  แต่ก็โดยเจตนาดี  เพราะว่าหลายคนคงไม่อยากให้เวบนี้เข้าใจยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอย่างตรงไปตรงมา  ในช่วงนี้

 

      คงอยากที่จะให้เราใจเย็นๆ  รอสังคมเปิดใจ  รอสังคมมีดวงตาที่เห็นธรรม  อย่างแท้จริงก่อน

 

   เรื่องยุ่งๆในบ้านเราคงมีอีกมากครับ  ขอให้เราทุกคนพยามช่วยกัน  โดยเริ่มที่คนรอบตัวก่อน

    อาจจะไม่พูดเรื่องการเมืองโดยตรง  แต่พูดเรื่องศีลธรรม  เรื่องจริยธรรม  เรื่องความดีงาม  เรื่องความถูกต้อง  เรื่องผลประโยชน์  เรื่องทุนนิยม  เรื่องความพอเพียง  เรื่องระบบการปกครอง ปชต ที่มีพระมหากัษตริย์ทรงเป็นพระประมุข  พูดเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง   พูดถึงความชั่วร้ายและผลประโยช์ของนักการเมือง  การไม่รับของ  ไม่รับประโยชน์จากคนชั่ว

 

    ถ้าเราช่วยกันสร้างความดีงามพื้นฐาน  สร้างเรื่องจริยธรรม  สังคมเราคงไม่ผิดเพี้ยนเช่นปัจจุบันครับ

   สวัสดีครับ

  • สวัสดีครับ คุณหมอ
    P
  • ขอบคุณมากครับ สำหรับความคิดเห็น และความรู้สึกของคุณหมอ
  • ในชั้นแรกที่คิดว่า น่าจะมีเรื่องราวข้อความ ทั้งในทัศนะที่เห็นด้วย กับการรับร่างรัฐธรรมนูญ และทัศนะที่ไม่เห็นด้วย และคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ
  • ผมก็คิดชั้นแรก เหมือนที่คุณหมอเปรยครับ
  • ว่ามีความแหลมคม ทั้งน่าหนักใจ และน่ากังวลใจ
  • ทั้งต่อผู้มีอำนาจ ทั้งต่อผู้ดูแลระบบ ในชุมชนแห่งนี้
  • แต่ผมเชื่อมั่นในหลักการของความจริงครับ
  • ไม่ได้ยกตัวเอง เปรียบว่า เป็นความจริงนะครับ
  • แต่ยืนยันว่า
  • ในขั้นของความรู้ความเข้าใจ
  • การปฏิเสธ ไม่พูดถึง และไม่พยายามพูดถึง
  • ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย
  • โดยส่วนตัว ผมเห็นด้วย ในทัศนคติที่เปิดกว้าง
  • การสร้างวัฒนธรรมซึ่งยอมรับฟัง พูดกันด้วยสติ ฟังกันด้วยสติ
  • แยกแยะเรื่องราวที่กำลังสนทนากัน
  • จะเป็นความรู้สึก ก็บอกว่า ความรู้สึก
  • จะเป็นความรู้ ความเข้าใจส่วนตัว ก็บอกกันไป
  • จะแสดงจุดยืนก็บอกมา
  • โดยสร้างวัฒนธรรมเหล่านี้ ให้เกิดขึ้น พูดคุยโดยปราศจากอารมณ์ความรู้สึก ด้วยวุฒิภาวะ ด้วยความเข้าใจร่วมกัน
  • ผมรู้สึกท้อแท้ รำคาญใจ ไม่หลายกรณี เช่นที่คุณหมอเปรียบเปรยมา
  • แต่ในความหวังลึกๆ ผมก็ยังเชื่อมั่นในการเปลี่ยนผ่านของสังคมไทย
  • เชื่อมั่นว่า สังคมไทย ต้องเรียนรู้
  • สังคมไทย และคนไทยต้องเรียนรู้ร่วมกัน
  • จะเจ็บปวด บาดหมาง อย่างไรก็ตามแต่ เราทุกคนต้องร่วมกันรับรู้ ร่วมกันเจ็บปวด และเมื่อนั้นเราก็จะสรุปบทเรียนร่วมกันในสังคมได้ว่า
  • เราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร
  • โดยส่วนตัวนะครับ คุณหมอ
  • ผมให้เกียรติชุมชนแห่งนี้อย่างไร รู้สึกชื่นชมและชื่นชอบในรูปแบบ ความตั้งใจ วิธีการ
  • ผมอยากให้ชุมชนแห่งนี้ มีทัศนคติต่อการพูดคุยอันหลากหลาย
  • ซึ่งที่ผ่านมา ผมก็พบว่า ชุมชนแห่งนี้ เป็นชุมชนที่น่ารัก
  • อาจมีบ้าง ที่บางครั้งเห็นถึงความอ่อนไหว ในท่ามกลางวัฒนธรรมแบบข้าราชการ ในท่ามกลางคำถามแบบผู้มีอำนาจในสังคม ที่พร้อมจะตำหนิถึงทุกสิ่งที่กระทบใจ
  • อคติ ที่กระทบใจผู้มีอำนาจ ไม่ใช่ความจริงของความรู้
  • และไม่ใช่ความจริง ของการค้นหาองค์ความรู้
  • ผมเชื่อเช่นนั้น
  • และก็ปรารถนาให้เกิดบรรยากาศ และวัฒนธรรมเหล่านั้นขึ้นมา
  • หลายข้อเขียนความเรียงในบล็อคนี้ ที่มีคนทั่วไปเข้ามาแสดงความคิดเห็น
  • ผมก็เห็นว่า มันน่าสนใจ และก็น่าระมัดระวังในเวลาเดียวกัน
  • บางข้อความก็คิดจะตอบ แต่ต้องกลับไปคิดหลายรอบ เพื่อจะให้ได้คำตอบที่หลีกเลี่ยงจากหนทางอันขัดแย้งให้มากที่สุด
  • บางครั้งก็ต้องปล่อยวาง เพราะอ่านข้อความที่สะท้อนความเกรี้ยวกราด โกรธเกรี้ยว และใช้ความรู้สึกที่สูงมาก
  • บ่อยครั้งก็ต้องนั่งอ่าน เพื่อรับรู้
  • โดยส่วนตัว ผมคิดว่า ผมรับผิดชอบต่อข้อเขียนให้มีพื้นที่ และทางออกในทางปัญญา ให้มากที่สุดครับ
  • พยายามหลีกเลี่ยงหนทางแห่งความตีบต้นทางปัญญา
  • หลีกเลี่ยง โมหะ จริต และอารมณ์ความรู้สึกอันรุนแรงให้มากที่สุด
  • เพราะถือว่า เป็นความรับผิดชอบในชุมชนแห่งนี้
  • แต่หลายครั้งก็คิดว่า ต้องมีพื้นที่ของการถกเถียงในเนื้อหาที่เป็นจริงเป็นจังกันบ้าง
  • สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ ความคิดเห็น และมุมมองของคุณหมออย่างมากครับ
  • ขอให้มีกำลังใจ ในการมองอนาคตของประเทศไทยต่อไปครับ
  • ใจเย็นๆ ครับ ทุกอย่างในสังคม
  • ล้วนต้องมีบทเรียน และคำตอบร่วมกันทั้งสิ้นครับ
  • ขอให้มีกำลังใจครับ คุณหมอ
  • ขอบคุณมากครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท