วันแห่งความน่าประทับใจ


เนื้อหาสำคัญในคืนนี้คือการแสดงวิสัยทัศน์ของเธอต่อ KKH ว่าต้องเป็นโรงพยาบาลแม่และเด็กที่ดีที่สุดในเอเชีย อนาคตต้องเทียบเท่าโรงพยาบาลบอสตัน

วันที่ 8 กรกฎาคม 2550

 วันนี้เป็นวันอาทิตย์สุดท้ายของสัปดาห์ที่ 9 ที่สิงคโปร์ สิ้นสุดสัปดาห์แรกของการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอินเดียน้อย เป็นวันที่ดีที่สุดอีกวันหนึ่งของการใช้ชีวิตที่นี่

                เรื่องดีเรื่องแรกก็คือ ได้นอนเต็มอิ่ม ตื่นนอนตอน 8.30 น.กินข้าวเช้า 9.30 น.กลับห้องนั่งดูคอนเสิร์ตที่มีให้ดูตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อวานเป็นวันรณรงค์โลกสีเขียวครับ ทั้งโลกเขาจัดการแสดงใหญ่โต หลายประเทศถ่ายทอดการแสดงคอนเสิร์ตให้ผมได้ดูทั้งคืน มีอยู่วงหนึ่งเป็นหญิงล้วน เธอแสดงบรรเลงดนตรีด้วยเครื่องดนตรีจีน มีซอ ขิมจีน ฟลู๊ต พวกเธอเล่นเพลงของ Beethoven ครับ ผมชอบมากๆ รู้สึกว่ากลุ่มนี้เคยมาแสดงที่ประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว (ไม่ค่อยแน่ใจครับ) โฆษณาที่คั่นระหว่างการแสดงก็ล้วนแล้วแต่เรื่องอนุรักษ์พลังงาน รักษาความสะอาด และเรื่องสิ่งแวดล้อม ดูอยู่จนถึงเที่ยงคืนกว่าก็นอน ตื่นขึ้นมาก็ยังมีอยู่

                รอจนถึงเที่ยงครึ่งเท้งก็โทรศัพท์มาชวนให้ไปกินกาแฟที่ข้างๆน้องสิงเตื๊อก ที่ร้านสตาร์บั๊กครับ ผมบอกเท้งและเพื่อนก่อนหน้านี้แล้วว่า ผมไม่ชอบสตาร์บั๊ก เพราะว่าแพง และพฤติกรรมของบริษัทอเมริกันบริษัทนี้ พยายามจดสิทธิบัตรในกาแฟของประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งเป็นสมบัติของชาติเขา ผมต่อต้านมานานแล้ว แต่ทำไมวันนี้ผมจึงไปครับ อันแรกคือ เพื่อนชวน อันต่อมาคือลองครับ ลองให้รู้เสียทีว่า ที่เขาชื่นชอบกันหนักหนานั้นรสชาติมันเป็นอย่างไร

                ผมออกจากห้องตรงไปยัง Bugis junction ก่อน เพื่อกินข้าวเที่ยงและแวะซื้อ VCD Barney ให้พี่แป้ง ที่นี่ขายในราคา 2 เหรียญครับ ถูกจริงๆ จากนั้นก็ขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Raffles place เดินเลียบแม่น้ำสิงคโปร์ ตรงนี้จะเป็นที่ตั้งของหมู่ตึกที่สูงที่สุดในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของสิงคโปร์ ใกล้ๆกันก็เป็นที่ตั้งของ Boat Quay สถานที่เที่ยวกลางคืนที่โด่งดัง ผมเดินผ่านโรงแรม Fullerton และข้ามไปยังสิงเตื๊อก และพบสตาร์บั๊กที่นี่ครับ เท้งกับหนุ่มนั่งรออยู่แล้ว ผมจึงสั่งกาแฟ 1 แก้วในราคา 4.5 เหรียญมานั่งดื่ม เพื่อนทั้ง 2 คนเอาคอมพิวเตอร์มานั่งทำงานและเล่นไปด้วย ผมไม่เอามาเพราะหิ้วกล้องถ่ายรูปมาแทน เรื่องดีที่ 2 จึงเกิดที่นี่ เพราะว่าเท้งให้ผมฟังเพลงเพลงหนึ่งจากคอมพิวเตอร์ของเขา เพราะมากครับ เสียงนักร้องผู้หญิงนี่ผมรู้สึกคุ้นๆหูยังไงชอบกล ถามว่าเป็นกลุ่ม Academy fantasia หรือเปล่า คำตอบคือนัท มีเรีย เพลงจากละครเพลงเรื่องฟ้าจรดทรายครับ แค่นี้แหละผมก็หูผึ่งทันที ตื่นเต้นสิครับ เคยอ่านใน blog ของอาจารย์ดอกไม้ทะเลเรื่องละครเวทีเรื่องนี้มาแล้ว คิดถึงความหลังอย่างออกนอกหน้าเมื่อครั้งที่ยังหนุ่มแน่น อ่านนิยายหลายเรื่อง ก็เลยขอให้เท้งเปิดให้ฟังทั้ง 2 แผ่น ผมใช้เวลาดื่มด่ำอยู่กับบทเพลงราวชั่วโมงกว่าๆอย่างไม่รู้เบื่อ มารู้ตัวอีกทีก็ 4 โมงเกือบครึ่งจึงลากลับก่อน เพราะว่าต้องไปงานเลี้ยงตอนเย็น

                เรื่องดีเรื่องที่ 3 ก็คือ ผมพิจารณาตัวเองแล้วพบว่า กาแฟสตาร์บั๊กนั้น มีรสชาติพอๆกับกาแฟในภาควิชา UG ของผม งานนี้คงไม่ต้องเสียตังค์ในครั้งหน้าเพื่อเสพกาแฟแบบวันนี้อีก แต่ถ้าเพื่อกิจอย่างอื่นก็น่าจะอนุโลม เช่น พบเพื่อนดังเช่นวันนี้

                เรื่องดีที่ 4 คือ วันนี้ตอนเย็น โรงพยาบาลจัดงานเลี้ยงเนื่องจากเสร็จสิ้นประชุมวิชาการประจำปี ภาควิชาซื้อบัตรเข้างานให้แล้ว ผมมีสูทของพี่โต้งแล้ว ดังนั้นเมื่อคนพร้อม เครื่องแต่งกายพร้อม ก็ออกเดินทางไปโรงแรม Meritus Mandarin ซึ่งอยู่ที่ถนน Orchard ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า Somerset ผมออกจากห้องเดินไปยังสถานีรถไฟฟ้า Little India ซึ่งยังความตื่นเต้นให้ผมอย่างยิ่ง เพราะว่าคนอินเดียจำนวนมหาศาลมารวมตัวกันอยู่บริเวณนี้มากมาย วันนี้เป็นวันอาทิตย์เย็น เหล่าคนงานชาวอินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน เขาจะมารวมตัวพบปะกัน พูดคุย ดื่มกิน คนมากแค่ไหนน่ะเหรอ ลองคิดถึงการไปเดินที่สนามหลวงในวันที่เขามีการปราศรัยดูสิครับ ไม่จืดเลยใช่ไหม ผู้คน (อินเดีย)จากทุกสารทิศ มุ่งหน้ามายังย่านนี้ โอโห

                ต่อเรื่องงานเลี้ยงนะครับ ทำไมเรื่องงานเลี้ยงจึงเป็นเรื่องดีน่ะเหรอครับ เพราะว่างานเลี้ยงนี้จัดขึ้นปีละครั้ง ปีนี้เป็นปีที่ 3 ที่เขาจัด และงานนี้หรูมาก เขาเชิญคุณ Yong Ying-I ซึ่งเป็นเลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขมาเปิดงานและบรรยายด้วย เขาตั้งชื่องานเลี้ยงนี้ว่า 3rd KKH Lecture & Formal Dinner ครับ ที่ว่ามี lecture ก็คือท่านนี้นี่แหละที่บรรยาย บรรยากาศในงานดูไฮโซ เริ่มด้วยการยืนดื่มเครื่องดื่มไปพลางๆ พบปะพูดคุยกับคนต่างๆ เมื่อถึงเวลาก็นั่งประจำโต๊ะ อาหารเป็นแบบโต๊ะจีน อร่อยเริ่ด เขาเปิดงานด้วยการกล่าวต้อนรับจาก CEO ของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นรองศาสตราจารย์หญิงที่สง่ามาก สำเนียงเสียงอังกฤษของเธอดีแทบไม่มีที่ติ ตอนแรกที่เห็นหน้าผมนึกว่าเธอเป็นคนญี่ปุ่นเสียอีก ที่โต๊ะ VIP ยังมี CEO ของกลุ่ม Sing Health นั่งอยู่ด้วย Sing Health เป็นบริษัทที่ดูแลกิจการโรงพยาบาลและคลินิกหลายแห่งร่วมกับรัฐบาล เรียกว่ากินส่วนแบ่งจากการบริหารงานร่วมกัน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ที่นี่มีกลุ่มแบบนี้ 2 กลุ่มด้วยกัน ผมยังไม่ทราบชื่ออีกกลุ่มหนึ่ง

                เรากินอาหารได้ 3 ชุด ก็ต้องหยุดเพื่อฟังบรรยายพิเศษจากท่าน Yong Ying-I ท่านนี้สมาร์ทมากในความรู้สึกของผม เพราะว่าสง่า เตรียมตัวมาดี สำเนียงอังกฤษเพราะพริ้ง เธอสามารถพูดเรื่องสาธารณสุขได้อย่างคล่องแคล่ว มีข้อมูลด้านสาธารณสุขมาบรรยายราวกับว่าเธอเป็นหมอซะเอง และที่น่าสนใจมากคือ เนื้อหาสำคัญในคืนนี้คือการแสดงวิสัยทัศน์ของเธอต่อ KKH ว่าต้องเป็นโรงพยาบาลแม่และเด็กที่ดีที่สุดในเอเชีย อนาคตต้องเทียบเท่าโรงพยาบาลบอสตัน เธอยังกล่าวถึงการดูแลคนไข้แบบองค์รวม การดูแลผู้สูงอายุสตรีซึ่งกำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้น เรียกว่างานนี้ผมได้รับรู้วิสัยทัศน์ของเธออย่างอิ่มเอม เรื่องดีที่ 4.1 ก็คือ อาหารอร่อยมาก

                เรื่องดีที่ 5 ก็คือ ได้รู้จัก consultant ของหน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารก (mothernal-fetal medicine: MFM) อาจารย์จูนเป็นหญิงที่น่ารัก อัธยาศัยดี มีความรู้รอบตัวสูง ใจดีและใจเย็น เธอชวนผมกับดันดีคุยตลอดงาน

                เรื่องดีที่ 6 คือ เลิกงานเราก็เตรียมตัวกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าฝนตก ครูลีจึงชวนผมกับดันดีไปด้วย เธอจะส่งเองจะได้ไม่ต้องนั่งรถโดยสารกลับ เดี๋ยวจะเปียก เราคุยกันเรื่องการบรรยายของหน่วย UG เมื่อวาน ผมก็บอกว่าเรื่องที่เธอนำเสนอนั้นไม่มีใครหลับได้ลง เพราะว่าการบรรยายเรื่อง painful bladder syndrome (PBS หรือ interstitial cystitis) ซึ่งเป็นเรื่องเก่าที่ยังใหม่มาก เพราะไม่ค่อยมีใครรู้จัก ทุกคนจึงอยากฟัง

                ผมให้ครูลีหย่อนผมลงที่ต้นถนน Serangoon เพราะว่าแค่นี้ก็เกรงใจจะตายอยู่แล้ว ในเวลา 4 ทุ่มยามนี้ ที่ Little India ยังคลาคล่ำไปด้วยฝูงชน ครูลีบอกให้ผมระวังตัว ผมจำการสนทนากับอาจารย์จูนได้ครับ เธอบอกว่าคนกลุ่มนี้นี่แหละที่ทำให้สิงคโปร์เจริญ เออ..จริงสินะ เขามาเป็นกรรมกร เป็นแรงงาน เป็นผู้ซื้อรายย่อยที่สำคัญ ถ้าไม่มีเขา ใครจะเป็นคนก่อสร้าง คนกวาดถนน คนซื้อของในร้านโชว์ห่วย และอีกหลายๆอย่าง

                วันนี้เป็นวันดีครับ ดีจริงๆ
หมายเลขบันทึก: 109748เขียนเมื่อ 8 กรกฎาคม 2007 23:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม 2012 02:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะ

อ่านที่คุณหมอเล่า แสดงว่า มีคนอินเดีย ปากีสถานอยู่มากเลย ประมาณเท่าไรคะ

สวัสดีค่ะคุณหมอธนพันธ์

รู้สึกดีใจด้วยที่วันนี้เป็นวันดีของคุณหมอนะคะ  ดิฉันรู้สึกชื่นชมผู้ที่สามารถตัดใจไปไกลบ้านเพื่อทำภารกิจสำคัญให้เสร็จสิ้น   ของดิฉันแค่เดินทางไปไม่กี่วัน  ตอนจัดกระเป๋าเดินทาง(ยังไม่ทันไป) ก็เกิดอาการคิดถึงบ้านเสียแล้ว   เป็นเอามากอะค่ะ

คุณหมอเล่าเรื่องสนุกนะคะ  และดิฉันเห็นด้วยเรื่องร้านกาแฟที่คุณหมอเล่า  จะว่าไปแล้วดิฉันก็มีปัญญาจ่ายตังค์ไปดื่มแค่หนเดียวเท่านั้น 

สิงคโปร์เป็นประเทศเป้าหมายที่ดิฉันอยากไปเยือนอีกประเทศหนึ่งเลยค่ะ  คาดว่าจะเป็นปีหน้า  ตอนนี้ก็ดูเคเบิ้ลทีวีช่องหนึ่งของสิงคโปร์ไปพลางๆก่อน   ผู้ประกาศข่าวสำเนียงอเมริกันชัดเจนมาก  ส่วนพี่น้องประชาชนในข่าวพูดแบบ ซิงกลิช น่ารักดี  (ขออภัยด้วยนะคะ ดิฉันไม่แน่ใจว่าคำนี้มีความหมายเนกาถีฟรึปล่าว)

...จะตามอ่านบันทึกของคุณหมอต่อไปนะคะ   สงสัยดิฉันต้องสร้างแพลนเน็ตบ้างแล้ว  ตอนแรกดิฉันใช้วิธีจำเอา  ตอนนี้มีบันทึกน่าอ่านมากจนตามจำไม่ทันเลยอะค่ะ    : )

    สวัสดีครับ...อ.หมอ

  •  ไปเที่ยวเมืองพุทธสถาน ..เป็นไงบ้างครับ
  • อยากไปบ้างจัง
  • ชาตินี้ต้องไปให้ได้ ..อินเดีย...เมืองพระศาสนาของเรา

               แวะไปเยี่ยมผม  ไปอ่านบันทึกผมได้นะครับ..จะแวะมาอีกครับ

สวัสดีครับคุณ P
เรื่องจำนวนนี่ผมไม่ทราบหรอกครับ รู้แต่ว่าประชากรหลักของที่นี่คือคนจีน รองมาคือมาเลย์ ถัดมาคืออินเดียครับ
ภาษาอินเดียก็เป็นหนึ่งในภาษาราชการของเขาครับ

สวัสดีครับอาจารย์P

แรกเริ่มเดิมทีนั้น ผมก็คิดถึงบ้านใจจะขาด ถึงตอนนี้ก็เถอะ อยากกลับบ้านอยู่ทุกวัน โชคดีที่มีโืทรศัพท์นะครับ เลยคลายห่วงไปได้มาก


สำหรับภาษา Singlish นั้น เขาภูมิใจมากเลยครับ

สวัสดีครับน้อง P
ขอบคุณครับที่แวะมา้เยี่ยม
จริงๆแล้วผมกำลังเรียนอยู่ที่สิงคโปร์ครับ แต่ตอนนี้มีที่ำพักอยู่ที่ย่าน Little India เจอชาวภารตะทุกวันจนชินตา บางครั้งก็เผลอคิดไปเหมือนกันว่า เอ๊ะ นี่เราอยู่ที่ไหนกันแน่นะ 

อาจารย์เป็นผู้เชี่ยวชาญทาง Interstitial Cystitis (IC) หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ผมอยากจะขอปรึกษาด้วยได้ใหมครับ ผมเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เริ่มมีอาการคล้าย IC แต่ไม่แน่ใจ ถ้าอาจารย์พอจะให้คำปรึกษาได้ ช่วยตอบอีเมล์ผมด้วยครับ

ผมไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่อง IC หรอกครับ มันเป็นโรคที่พบน้อยและรักษายาก

ที่กรุงเทพ รพ.จุฬา อ.สุวิทย์ เป็นสูติแพทย์ทางเดินปัสสาวะ น่าจะช่วยได้นะครับ

แต่ถ้าอาจารย์เป็นผู้ชาย ก็แนะนำไปพบศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะครับ

เบื้องต้น ผมไม่คิดว่าอาจารย์จะเป็น PBS/IC เลยครับ ส่วนมากน่าจะเป็น overactive bladder มากกว่า ซึ่งในผู้ชาย ส่วนมากมีสาเหตุจากต่อมลูกหมากโตครับ

ดังนั้น ศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะ น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท