ประมาณ 7 ปีที่แล้ว ผู้บันทึกในฐานะของผู้ประสานงานคุณภาพ รพ.จะต้องเป็นแกนหลักสำคัญในการจัดงานมหกรรมคุณภาพ ที่ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้งบประมาณเพื่อให้ รพ.บ้านแพรกได้นำเสนอกิจกรรมพัฒนาคุณภาพ เนื่องจากเป็น รพ.ที่เข้าร่วมโครงการปฏิรูประบบโดยใช้กลยุทธ์ TQM ในการบริหารจัดการคุณภาพองค์รวม ทั้งนี้เชิญผู้สนใจจากทั่วประเทศเข้ามาร่วมงาน พวกเราต้องเตรียมตัวนำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพที่เป็นจุดเด่น ทั้งรูปแบบ CQI และกิจกรรมข้อเสนอแนะ,นวัตกรรมต่างๆ ที่เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่นำแสดง และที่สำคัญคือการจัดรูปแบบของงานที่สนุก คึกคักด้วยการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งก่อนหน้านั้นผู้บันทึกมีความตั้งใจที่จะแต่งเพลงประจำ รพ. แต่ก็ยังไม่ได้ทำสักที เหตุจากการที่จะต้องจัดงานคราวนั้นเลยตัดสินใจ แต่งเพลง พร้อมทำนอง และได้ขอความช่วยเหลือจาก รพ. สระบุรี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำห้องโสตฯ เป็นนักดนตรี ได้เล่นดนตรีและทำการอัดเสียงผู้ร้องซึ่งเป็นผู้บันทึกกับน้องเภสัชกร ผู้มีเสียงดีเล่นดนตรีและร้องเพลงเพราะ อีก 1 คน (ด้วยความเร่งรีบ หานักร้องไม่ทัน..ไม่เช่นนั้นก็จะมีนักร้องหลายคน เพราะต้องมีการซักซ้อมพอสมควร) โดยเพลง 2 เพลงนั้น เป็นเพลงมาร์ช และเพลงหวานๆ อีก 1 เพลง เพียงเพื่อให้เจ้าหน้าที่วัยละอ่อนแสดงประกอบ..ช่วงเปิดงาน และจะได้มีเพลงประจำ รพ.ไปด้วย และจากวันนั้น จนถึงวันนี้ เพลงนั้นก็ยังคงเป็นเพลงประจำ รพ. ในรูปแบบของเทปบันทึกเสียง ซึ่งผู้บันทึกอยากที่จะทำการอัดเสียงใหม่ และ บันทึกลง CD
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่า บทเพลงมาร์ช มีความสำคัญมากในการปลุกเร้าความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ให้คึกคัก และฮึกเหิม..ในทุกโอกาสที่เราต้องการความร่วมแรงร่วมใจ...เราได้ใช้เพลงเหล่านี้เสมอ จำได้ติดแน่นเป็นความฝังใจ ในการจัดกิจกรรมของเครือข่ายสร้างสุขภาพครั้งหนึ่ง ที่เป็นกิจกรรม OD ของคณะวิทยากรหนึ่งที่เน้นในด้านพฤติกรรมศาสตร์ โดยทีมคณะทำงานต้องใช้กำลังกายและกำลังใจสูงมากในการจัดกิจกรรมเพื่อเจ้าหน้าที่ทุกคน เป็นเวลา 3 วัน (ก่อนหน้านั้นก็ต้องเตรียมงานด้วยการทุ่มเททั้งกายและใจ โดยเฉพาะ รพ.เราที่มีเงินน้อยมากๆ พวกเรานอนดึกและตื่น ตี 4 และช่วงการจัดงานมีแรงกดดันสูงมากๆ ตัวเองต้องดื่มน้ำเกลือแร่ เสริมตลอด เช้าวันหนึ่งซึ่งเป็นวันสุดท้าย ครึ่งชั่วโมงก่อนเริ่มงาน ตนเองหมดทั้งแรงกายแรงใจ...น้ำตาซึม รู้สึกว่าไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว... มีน้องในทีมงาน ซึ่งเรามักจะทำงานทดแทนกันได้ตลอด..พูดขึ้นว่า “ พี่อดทน สู้ๆ หน่อยนะ...เพราะครั้งนี้..หนูไม่สามารถทำแทนพี่ได้จริงๆ" ตอนนั้นเรารู้สึกจุกคอหอย...ทุกอย่างตีบตันไปหมด ข้างนอกของงานนี้คือสิ่งที่สวยงาม แต่คนที่อยู่เบื้องหลังกำลังจะหมดแรง..แล้วก็นึกขึ้นมาได้ บอกน้องไปว่า “ถ้าเช่นนั้นช่วยพี่หน่อยนะ ..ช่วยเปิดเพลงมาร์ชบ้านแพรกหน่อย...เปิดไปเรื่อยๆก่อน จนกว่าจะเริ่มงาน” จากนั้น..ไม่น่าเชื่อว่า ตนเองสามารถมีพลังกายและใจกลับมาได้...ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าเราหมดแรงกายด้วยจริงๆ...อีกทั้งทีมงานกลับคึกคักกันขึ้นมาใหม่ แววตาฉายชัดถึงพลังที่ยังไม่มีวันหมด รอยยิ้มเริ่มพร่างพราย ..การจัดกิจกรรมครั้งนั้นดำเนินต่อไปและจบลงอย่างงดงาม ช่วงท้ายของกิจกรรมที่เตรียมไว้เพื่อความประทับใจไม่รู้ลืม น้ำตาปีติยินดี ไหลท่วมท้น มีน้องในที่ทำงานแต่อยู่คนละฝ่ายกันเข้ามาอุ้มเรา และเดินวนไปรอบๆ เราตกใจมาก เพราะว่าเหตุแบบนี้เราไม่เคยเจอ (ถูกชายหนุ่มอุ้มต่อหน้าผู้คน !!!และอาจเป็นเพราะเราตัวเล็ก น้ำหนักก็เพียง 42.5 ก.ก.) เขาบอกว่า “เยี่ยมจริงๆครับพี่...” ส่วนเราเดินกอดน้องๆ ทีมงาน และเจ้าหน้าที่จนไม่อยากเลิกกอด “งานนี้ถ้าไม่มีพวกเขา...จะสำเร็จลงได้อย่างไรกัน”
ครั้งนั้นเป็นประวัติศาสตร์ของทีมงานทุกคนที่ไม่เคยลืมเลือน ส่วนผู้บันทึก ไม่เคยลืมเลยว่า...บทเพลงของ รพ. นี้ เป็นบทเพลงปาฏิหารย์ของเราและทีมงานที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพบริการ สู่ประชาชนหรือผู้รับบริการจริงๆ ส่วนบทเรียนอีกหนึ่งที่ยังคงสอนใจคือ...เราจะไม่พาทีมไปลำบากลำบนขนาดนั้นอีก...เพราะเราไม่รู้ว่าสุดท้าย จะจบอย่างไร...ถ้าหมดแรงก่อนถึงเป้าหมาย ...นี่เป็นเหตุให้ทุกวันนี้ต้องทำงานอย่างมีความสุขไปด้วยกัน เป้าหมายข้างหน้าอาจเป็นทุ่งดอกไม้กว้างใหญ่ไพศาล แต่หนทางที่เดินผ่าน ควรมีดอกไม้อยู่ข้างทางเดิน หรือสะเบียงที่เพียงพอด้วย ...และที่สำคัญ เราในฐานะ ผู้ประสานก็จะคอยหาดวงดอกไม้ หรือความสุขจากปัจจุบันขณะให้มากที่สุด ในระหว่างทางนี้ที่เป็นเส้นทางของการงาน อันเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางของชีวิตสู่อิสรภาพที่ยิ่งใหญ่...ในเป้าหมายอันไกลโพ้น...คือ...ความหลุดพ้น...
ในส่วนของบทเพลงมารช์ ครั้งสุดท้าย ใน “เทศกาล แข่งขันจัดการความรู้สู่คุณภาพ” ที่พึ่งผ่านมา (KM-CQI Rally Festival) ทีมงานยังคงเรียกร้องให้โหมกระหน่ำการเปิดเพลงนี้คู่กับการประชาสัมพันธ์ ใน 1 สัปดาห์ก่อนจัดงานทุกวันพร้อมการนับถอยหลัง.. ซึ่งสร้างความตื่นตัวให้มีมากขึ้นเหมือนเดิม ส่วนเนื้อหาของเพลงนี้ก็เป็นเนื้อหาง่ายๆ จากใจคนแต่ง ที่มิได้มีความถนัดหรือช่ำชองในการแต่งเพลงแต่ประการใด....
เราชาวโรงพยาบาลบ้านแพรก ซึมแทรกด้วยรักจริงใจ
เราจะอยู่เคียงกันเสมอไป นานเพียงใด ก็ยังมีเรา
มุ่งมั่น บริการสู่ความเป็นเลิศ ชูเชิดวิชาชีพ ให้ก้าวไกล
ความรัก ความอบอุ่น และจริงใจ เรามีให้กับทุกๆคน
บ้านแพรก ที่พึ่งพิง ชาวประชา ทุกข์กาย-ใจ เดินเข้ามาได้ทุกคน
เราแบ่งปันความสุข ทุกกมล จากป่วยไข้ ได้สุขล้น กาย-ใจ
* ด้วยความรักในพรรค และสามัคคี พวกเรานี้มีศรัทธาอันยิ่งใหญ่
ที่จะรักและพัฒนาต่อไป ด้วยจิตใจ ด้วยพลังของเรา (ซ้ำ *)
ส่วนอีกเพลงหนึ่งก็แต่งขึ้นเพื่อประกอบการแสดงช้าๆ....ได้อารมณ์หวานๆ .. ชื่อเพลงว่า
“สู่ฝันด้วยมุ่งมั่นเพื่อมวลชน"
บ้านแพรกนี้ ที่เราร่วมกัน สร้างความฝันให้ดีกว่าเดิม
เหนื่อยและล้า ที่ซ้ำที่เติม ผ่านไปแล้วกับเมื่อวันวาน
บ้านแพรกนี้ที่เราทุกคน สื่อความรักและความผูกพัน
ไม่ย่อท้อ รวมหัวใจกัน ร่วมสร้างสรรค์ แต่เรื่องดีๆ
* มีหมู่ดาว มากมาย อยู่บนฟ้า กว้างไกลให้พบให้เจอ
วางเรียงรายให้ฉันและเธอ ไขว่คว้า มาแบ่งปันกันสักดวง
มาเถอะนะ ก้าวไปด้วยกัน ร่วมสร้างสรรค์ บริการด้วยใจ
พลังแห่งรัก ที่แสนยิ่งใหญ่ สร้างความสดใส..เพื่อมวลชน (ซ้ำ *)
โดยเพลงหลังนี้ได้นำทำนองมาจากเพลง เพลงหนึ่งแล้วแต่งเนื้อร้องเพื่อร้องใส่ในคาราโอเกะที่เขามีดนตรีอยู่แล้วได้เลย ซึ่งแต่งแบบเร่งด่วนเพื่อใช้แสดงในงานมหกรรมคุณภาพดังกล่าวและเลยมาใช้ในการจัดงาน ด้านบุคลากร อาทิ OD หรือ ESB และใช้เปิดมาอยู่เรื่อยๆ เวลาประชาสัมพันธ์ ทุกวันนี้
มาถึงตอนนี้ก็หลายปีแล้ว เราอยากหา สถาบันทางราชการที่สามารถมีวงดนตรีจัดทำให้ใหม่ และจะได้นำเจ้าหน้าที่หลายๆคนที่ร้องเพลงได้ไพเราะทั้งหญิงและชายหลายๆคน มามีส่วนร่วมร้องเพลงด้วยกัน จากนั้นจะได้อัดเป็น VCD ไว้ซะเลย แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปขอความช่วยเหลือจากใครนี่สิ..
ก็อย่างที่กล่าวไว้แหละค่ะ..จากช่วงเวลาที่ผ่านมาเราได้ใช้ประโยชน์ จากเพลงค่อนข้างมาก..แม้แต่เจ้าหน้าที่บางคนก็บอกว่า “ดีค่ะ อยากให้เปิดบ่อยๆ เวลามีกิจกรรมที่ต้องการความร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน”... เชื่อว่าหลายคนๆ คงได้ฟังเพลงประจำสถาบันกันมาหลาย ต่อหลายสถาบันหรือหลายองค์กร ตั้งแต่เพลงโรงเรียน...เพลงมหาวิทยาลัย..และเพลงประจำหน่วยงานของท่านก็คงมีเหมือนๆ กัน ... เพลงเหล่านั้นมีความสำคัญกับท่านมากน้อยแค่ไหนค่ะ...อยากรู้จัง..
ถ้าทำได้ก็เรี่ยมเลยซิคะ..
สวัสดีครับ คุณแหวว
สีสันบันทึกนี้ช่างงดงามและมีศิลปะเป็นอย่างยิ่ง.. ดูแล้วเกิดจินตนาการและชวนท่องไปสู่ทุ่งและเวิ้งฟ้าแห่งความฝันเป็นที่สุด
....
ขอบคุณค่ะคุณน้อง-อาจารย์ขจิต และคุณพนัส
ขอบคุณกับกำลังใจ...ขอบคุณกับศรัทธาในเพลงที่เสมือนสายลมพริ้วไหวให้ทุกปีกความฝันได้โบกบินนะคะ