ในการที่เราจะฝึกหรือทำอะไรนั้น เราก็ต้องปลุกจิตสำนึกของเราก่อน เรียกง่ายๆคือเราปรารภอะไรขึ้นมาเพื่อจะปฏิบัติ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเรียกว่า อธิปไตย แปลว่า เป็นใหญ่ คือ ยกอะไรขึ้นมาให้เป็นใหญ่ หรือปรารภถึงอะไร การที่เราจะบำเพ็ญกุศลธรรมให้ประสบความสำเร็จเราก็มีเหตุให้ปรารภ 3 ประการคือ
ปรารภตน
สนใจสังคม
นิยมธรรม
ปรารภตน เรียกว่าอัตตาธิปไตย สนใจสังคม คือเราปรารภโลกคือผู้คนส่วนมากหรือสังคม เรียกว่า โลกาธิปไตย นิยมธรรมก็คือเราปรารภธรรมหรือกฎระเบียบ เรียกว่าธรรมาธิปไตย
ประการแรก ปรารภตน คือต้องการให้ตนเองมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ หรือต้องการให้ตนเองนั้นมีความสุขกับชีวิตครอบครัวอย่างนี้เป็นต้น เรียกว่าปรารภตนเอง
ประการที่สองปรารภโลกหรือ ปรารภสังคม สมมติว่าตำรวจท่านใดเกิดมีความคิดขึ้นว่า จะแสวงหาผลประโยชน์ในหนทางที่ไม่ชอบ ไม่ประกอบด้วยธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด ผิดทั้งธรรมะ ผิดทั้งกฎหมาย คราวนี้ถ้าคิดอย่างนั้นภายหลังเกิดหักห้ามใจเสียว่า เดี๋ยวนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร ความเสียหายอะไรต่างๆนี้ไม่มีใครปิดเอาไว้ได้นาน อาจจะปิดไว้ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ต่อมาเมื่อความเสียหายซ่อนเร้นเปิดเผยขึ้นมา เราก็ได้รับความเสียหาย อาจจะได้รับโทษอย่างเบาหรืออย่างแรงก็แล้วแต่ อาจจะถูกหักเงินเดือน ไม่ได้รับการพิจารณาเพื่อปรับอัตราเงินเดือน เลื่อนยศ ถูกจำคุก พักราชการหรือให้ออกจากราชการก็แล้วแต่ พอคิดอย่างนี้แล้วเราก็ยับยั้งแล้วทำหน้าที่ของเราให้ดี อย่างนี้เรียกว่าเราปรารภสังคมหรือปรารภโลก
ประการที่สามปรารภธรรม คือระเบียบวินัย กฎหมาย สิ่งที่เราเรียนมา สิ่งที่เราได้รับความรู้มาจากโรงเรียนตำรวจในการประพฤติปฏิบัติ รวมไปถึงจริยธรรมของข้าราชการ ถ้าเราเรียนรู้มาแล้วไม่ปฏิบัติ ก็เสียเวลาเสียงบประมาณของประเทศชาติไปอย่างนี้เป็นต้น เมื่อเราปรารภอย่างนี้เราก็สามารถจะฝึกฝนอบรมเพื่อพัฒนาจิตใจของเราได้
ไม่มีความเห็น