วันนี้อากาศบนยอดขุนเขาเกาะยอเร้าใจให้เดินเล่นมาก ๆ เพราะเป็นหมอกลอยปกคลุมเป็นก้อนโต ๆ ทั่วขุนเขาเลยครับ
ผมเดินเล่นอยู่สักพักหนึ่งเย็นสบายดีมองท้องทะเลสาบระยะที่เห็นนั้นไร้ขอบไร้ขุนเขาฟากฝั่งนั้นเลยมองไปทางไหนก็มีแต่หมอกนั่นเองครับ
ธรรมชาติเพลินตา สมิหลาเพลินใจจริง ๆ นะครับ เช้า ๆที่ขับรถมาทำงานช่วงนี้มักจะเห็นรถเก๋งมีตุ๊กตาแกว่งไปมาอยู่ท้ายรถห้อยตรงท่อไอเสียของรถดูแล้วมันโตงเตง ๆชอบกล...หรือตรงท้ายด้านนอก...
นึกถึงคนขับรถตามหลังมาถ้ามองตุ๊กตาเพลินคงได้จูบท้ายรถกันบ้างนะครับ เรื่องนี้เท่าที่ฟังทางด้านกฎหมายเขาบอกว่าผิดนะครับ ใครไปห้อยไว้อย่างนี้ ตำรวจจับได้เลยนะครับ
เหตุผลจะทำให้รถคันอื่นชนเสียหาย และห้ามตกแต่งใด ๆ นอกกฎทางการที่กำหนดไว้ ถึงแม้จะเป็นความพอใจของเจ้าของรถก็ตาม...
เพื่อน ๆ ที่รักดีอย่าทำนะครับผม ฮา ๆ เอิก ๆ.เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะว่าไม่สมควรนำมาห้อยที่ท้ายรถ รู้สึกสะดุดตามาก ๆ เวลาขับรถตาม เป็นตัวแรกร้องความสนใจได้ดีทีเดียว เมื่อวานขับรถตามซาเล้ง เห็นห้อยตุ๊กตาเสือสีเหลืองขายาวๆ แล้วขาก็ลากไปกับพื้น ทั้งขาดทั้งดำเลยค่ะ เห็นแล้วก็นึกเวทนาเจ้าเสือตัวนี้ยัง :(
สวัสดีค่ะอาจารย์ อุทัยที่เคารพ
หัวข้อของอาจารย์ตรงใจ และตรงตัวเลย เมื่อเช้าเกือบชนเพราะไปดูแมวคิตตี้ ของรถคันหน้า ยังดีนะค๊ะตัวscan ที่รถร้องซ่ะก่อน ไม่งั้นหนูคงเป็นต้นเหตุของรถติด (ที่ติดอยู่แล้ว)ให้แถวยาว ๆ แถวพระรามสามแน่ ๆ เลยค่ะ
ศิษย์เก๊า เก่า มอ.ตานีค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ UMI
เท่าที่ฟังลูกสาวคนโตเล่าให้ฟัง รู้สึกว่า จะได้ค่านิยม มาจากประเทศญี่ปุ่น น่าจะเกี่ยวกับเรื่องโชคลาง ประมาณว่า ห้อยตุ๊กตาไว้แล้วจะโชคดี อะไรทำนองนี้หนะ ไม่ทราบว่าผิดหรือถูกนะคะ ฟังลูกสาวเล่ามาอีกที
ที่บ้านก็เหมือนกันค่ะ เป็นที่ถกเถียงกันมากเพราะเด็ก ๆอยากให้ห้อยได้เจ้าตุ๊กตาโตงเตงนี้ไว้เหมือนกัน แต่คุณพ่อบ้าน บอกว่า รถนี้ มีแม่นั่งอยู่ด้วยแล้ว เครื่องลางใด ๆ ก็ไม่จำเป็นค่ะ
ฮา ๆ เอิ๊ก
ยะลาก็ห้อยกันเยอะมากเลยครับ
แต่รถผมไม่ห้อยตุ๊กตานะครับ คันข้างหลังก็ยังมาจูบก้นจนได้เหมือนกันครับ สิ่งสำคัญคือ ต้องไม่ประมาณครับ
สวัสดีค่ะ
การห้อยตุ๊กตา อันตรายมากกว่าจะโชคดีค่ะ ดีแล้วที่ห้ามกันค่ะ
สวัสดีครับ คุณ