จากซางคำถึงหมาน้อย ( 19 )


ผมภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคนที่ยังมีชีวิต คนที่มีลมหายใจเพื่อที่จะต่อสู้ดิ้นรนบนโลกใบนี้

หมาน้อยเพื่อนรัก......

                                 คนนี้เป็นคนสุดท้าย ... ชายหนุ่มเพียงคนเดียวใน 4 คนที่ได้กรุณามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องความสำเร็จในการเป็นผู้ให้การปรึกษา คุณนราศักดิ์ แอบจันทึก เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน จากโรงพยาบาลขามสะแกแสง  เขาเล่าให้เราฟังว่า เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังมีทั้งความภาคภูมิใจและความเสียใจ ผู้ป่วยชาย อายุ 30 ปี มาหาผมที่คลินิกฟ้าใส  เคยทำงานอยู่ที่กรุงเทพ มาด้วยอาการท้องเสีย ญาติพามาโรงพยาบาล มาตรวจเลือด ผมถามผู้ป่วยว่ารู้ไหมว่าหมอสั่งให้ตรวจเลือดเพื่อหาเกี่ยวกับโรคอะไร  ผู้ป่วยตอบว่าตรวจหาโรคเอดส์   ผมถามต่อไปว่าแล้วรู้ไหมว่าโรคเอดส์เป็นยังไง  ผู้ป่วยไม่ตอบ เงียบ .....  ผมก็อธิบายให้ผู้ป่วยฟังในรายละเอียดของโรค  และให้ผู้ป่วยเซ็นในใบยินยอมขอตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ HIV   และให้ผู้ป่วยนั่งรอฟังผลเลือด    ปรากฏว่า ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการผู้ป่วยติดเชื้อ HIV   ผมเรียกผู้ป่วยเข้ามาในห้องฟ้าใส แล้วถามผู้ป่วยว่าถ้าผู้ป่วยติดเชื้อผู้ป่วยจะทำอย่างไร... ผมตัดสินใจบอกผลเลือดแก่ผู้ป่วย... ผู้ป่วยเงียบมีน้ำตาคลอ   ผมถามว่าจะบอกใครไหม ผู้ป่วยให้ไปตามยายกับป้ามาให้  ผมถามผู้ป่วยว่าจะให้บอกให้หรือจะบอกเอง  ผู้ป่วยบอกว่าจะบอกเอง  และได้บอกยายกับป้า  ผมถามผู้ป่วยจะเข้าโครงการ Careไหม ผู้ป่วยบอกว่าไม่เข้าร่วมโครงการ  บอกว่าให้ตายไปเถิด  ผมบอกให้ยายช่วยพูดให้และนัดมาโรงพยาบาลอีกหนึ่งสัปดาห์  แต่ผู้ป่วยก็ไม่มา.. ผมจึงได้ออกไปเยี่ยมบ้าน พอไปเห็นสภาพบ้าน ... พูดไม่ออกเลย   ที่เราเรียกว่า บ้าน มีแค่เสา 4 เสา และมีหลังคา  มีฝาบ้านอีก 4 แผ่นแปะกันไว้  แค่นั้น เมื่อเดินขึ้นไปบนบ้าน พบว่าภายในห้อง 4 เหลี่ยมนั้นมีคน 2 คนนอนอยู่ คนแรกเป็นผู้ป่วยอีกคนหนึ่งเป็นคนพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  ครอบครัวนี้ยากจนมาก สรุปว่าผู้ป่วยคนนี้อยู่กับยาย แม่ของผู้ป่วยทำงานอยู่ที่กรุงเทพ  ผมถามป้าของผู้ป่วยว่าทำไมไม่ไปตามนัด ป้าบอกว่าผู้ป่วยไม่ยอมไป  ผมจึงรับอาสาที่จะมารับผู้ป่วยที่บ้าน  ผู้ป่วยจึงตัดสินใจกินยา ระหว่างรอกินยา 1-2 เดือน ผู้ป่วยร่างกายทรุดโทรม  ยายและป้าของผู้ป่วยเป็นคนคอยให้กินยา ผู้ป่วยไม่ค่อยให้ความร่วมมือ  เนื่องจากรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง ผู้ป่วยกินยาได้ 2 เดือนก็ตาย  ครอบครัวนี้ยากจนมากไม่มีเงินแม้แต่จะจัดงานศพ ผมเลยไปขอความช่วยเหลือจากปลัด ทำให้ได้เงินมาก้อนหนึ่งในการจัดงานศพและมีเงินเหลือพอที่จะใช้จ่ายภายในครอบครัวได้ ซึ่งตรงจุดนี้ที่ทำให้ผมภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคนที่ยังมีชีวิต  คนที่มีลมหายใจเพื่อที่จะต่อสู้ดิ้นรนบนโลกใบนี้ แต่สิ่งที่เสียใจ คือผมไม่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้ได้ หมาน้อยเพื่อนรัก... สมาชิกในที่ประชุมสรุปว่า case นี้เป็น case ที่สิ้นหวัง อยู่ต่อไปก็สร้างความลำบากให้กับยาย เฉพาะการดูแลผู้พิการหนึ่งคน  ยายก็แทบจะไม่มีเวลาไปทำงานแล้วอย่างอื่นแล้ว ตัวของผู้ป่วยจะยังมาสร้างปัญหาให้ยายอีกหรือ....  เขาก็เลยอยากตาย...

                         พวกเราช่วยกันสรุป ปัจจัยความสำเร็จของคุณนราศักดิ์  คือ

                                      1.       มีความมุ่งมั่นในการทำงาน                

                                       2.       มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์                    

                            หลังจากนั้น ที่ประชุมก็ช่วยกันสรุปปัจจัยแห่งความสำเร็จในภาพรวมของทั้ง 4 เรื่องนี้ และสัญญากันว่าปีงบประมาณหน้าจะมีเรื่องมาเล่าถึงความภาคภูมิใจในการให้การปรึกษา   เราคงจะจบการกระบวนการที่เราได้รับมอบหมายให้เป็นวิทยากรในครั้งนี้เพียงแค่นี้นะจ๊ะ.... แล้วเจอกันใหม่นะ...เพื่อนรัก                                                     

                                                                        .......รักจ๊ะ   ......

                                                              ซางคำ 

หมายเลขบันทึก: 106850เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2007 22:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท