ปัญหาของนิสิตที่สำคัญในการแต่งกายคือความเชื่อ และ ความเหมาะสม
กล่าวคือพวกที่แต่งกายไม่เรียบร้อย ส่วนหนึ่งเกิดจากการไม่มีความเชื่อ
ความเชื่อที่ว่าเมื่อเราแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะแล้วจะเป็นผลดีต่อตัวเรา
และเช่นกันอีกส่วนหนึ่งปัญหาเกิดจากความเหมาะสม
ความเหมาะสมในที่นี้หมายถึง
ไม่รู้ว่าจะต้องแต่งกายอย่างเหมาะสมได้อย่างไร
เพราะไม่รู้ว่าความเหมาะสมของการแต่งกายอยู่ตรงไหน
ปัญหาแรกปัญหาเรื่องความเชื่อ
ค่อนข้างจะเป็นปัญหาที่เป็นนามธรรมไปสักหน่อยแต่ความจริงแล้วมันคือเบื้องลึกของจิตใจ
เมื่อเราได้คิดที่จะแก้ไขในจุดนี้ขอรู้เถอะว่าเราได้เดินทางมาถูกทาง
และแก้ปัญหาได้ตรงจุดแล้ว แนวทางการแก้ไขนั้น
คือสร้างความเชื่อในหมู่นิสิตว่า การแต่งกายที่ดีเป็นผลดีต่อตัวเค้า
การสร้างความเชื่อนั้นทำได้หลายวิธี เช่น การสร้างแรงจูงใจ
การให้รางวัล การรณรงค์ การชมเชยเมื่อเขาแต่งตัวเรียบร้อย
ปัญหานี้แม้ว่าจะยากแต่หากทุกคนร่วมมือกัน พูดกันทุกวัน
รณรงค์กันทุกวัน ก็เชื่อว่าจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ปัญหาที่สอง ปัญหาเรื่องความเหมาะสม
ความเหมาะสมที่ว่าเกิดจากความรู้ที่เราจะต้องปลูกฝังให้รู้สึกว่า
การแต่งกายแบบนี้ การแต่งกายที่ดีนี่ต่างหากเป็นการแต่งกายที่ถูกต้อง
บรรทัดฐานของการแต่งกายก็เป็นความสัมพันธ์เช่นเดียวกันที่เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ว่ามันคือส่วนหนึ่งของความเหมาะสม
เพราะว่ามันยากที่จะพูดว่าใครแต่งการเหมาะสมแต่งการไม่เหมาะสม
บรรทัดฐานที่ว่านี้แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน
แต่เราควรจะกำหนดลงไปให้มีการรับได้ของสังคมที่เราอยู่อย่างเต็มที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แนวทางการแก้ไขปัญหานี้ ไม่ใช่แค่รุ่นพี่ออกมาโวยวาย บังคับน้อง
สร้างบรรทัดฐานโดยการออกกฎ ซึ่งเปล่าเลยมันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา
แต่รุ่นพี่ หรือสังคมควรจะออกมาแสดงพลังและทุกๆคนจะต้องสอน และ สร้าง
บรรทัดฐานนั้นแก่กันและกัน ด้วยการแต่งกายอย่างเหมาะสม
เพราะว่าแม้เราจะทำการประชาสัมพันธ์สักเท่าไรเกี่ยวกับการแต่งกายที่ถูกต้อง
แต่หากรุ่นพี่ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่รุ่นน้อง
รุ่นน้องก็คงจะสับสนในบรรทัดฐานนั้นเหมือนกันว่า
จริงๆแล้วเส้นแบ่งมันอยู่ตรงไหน
และยุติธรรมหรือเปล่าที่รุ่นน้องกลับถูกสอนให้แต่งกายเรียบร้อย
แต่รุ่นพี่กลับแต่งกายไม่เรียบร้อย เปรียบได้กับ
คนออกกฎหมายทำผิดกฎหมายเสียเอง แล้ว
คนอยู่ใต้กฎหมายที่ไหนจะเชื่อในกฎหมาย
เพียงเราสร้างความเชื่อ และ
ให้นิสิตรู้ถึงความเหมาะสมว่าแท้จริงแล้วเส้นแบ่งการแต่งกายที่ดีกับแต่งการที่ไม่ดีอยู่ตรงไหน
ด้วยวิธีแนวทางการแก้ปัญหาที่ลงลึกถึงรากแท้ของปัญหา การใช้ความจริง
การใช้ความถูกต้อง และ บรรทัดฐานแห่งสิ่งที่เรียกว่าดีมาเป็นตัวกำหนด
สุดท้าย
สังคมมหาวิทยาลัยจะมีแต่นิสิตที่รู้บทบาทของตนเองว่าควรจะทำอะไรและไม่เฉพาะเรื่องการแต่งกายแต่เพียงอย่างเดียว